ขยายเวลา ส่งแผนฟื้นฟูการบินไทย ศาลล้มละลาย อนุญาตขยายเวลาส่งแผนฟื้นฟูกิจการ ออกไปอีก 1 เดือน จนถึง 2 มี.ค.64 ระบุเป็นการขยายเวลาครั้งสุดท้าย ขณะการบินไทย อ้างเหตุผลยังอยู่ระหว่างการประชุมเจรจากับเจ้าหนี้กลุ่มต่าง ๆ เพื่อรวบรวมความเห็นและดำเนินการตามกระบวนการฟื้นฟู
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทน กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กระทำการแทนและในนามผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยระบุว่าศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งอนุญาตให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขยายระยะเวลาส่งแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพิ่มเติม
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 ผู้ทำแผนได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอขยายระยะวลาการส่งแผนฟื้นฟูกิจการเพิ่มเติมตามมาตรา 90/43 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) โดยขอขยายระยะวลาส่งแผนออกไปอีกเป็นเวลา 1 เดือนนับแต่วันครบกำหนดเดิม
เนื่องจากผู้ทำแผนจำเป็นต้องรวบรวมข้อเสนอแนะและความเห็นของเจ้าหนี้กลุ่มต่าง ๆ ที่มีต่อหลักการของร่างแผนฟื้นฟูกิจการและแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อนำมาพิจารณาปรับปรุงเนื้อหาของร่างแผนฟื้นฟูกิจการในส่วนต่างๆ ให้สมบูรณ์และครอบคลุม เพื่อให้เจ้าหนี้ทั้งหลายเห็นพ้องด้วยในหลักการของแผนฟื้นฟูกิจการ และเพื่อให้แผนฟื้นฟูกิการได้รับการเห็นชอบด้วยแผนจากที่ประชุมเจ้าหนี้ต่อไป
ซึ่งผู้ทำแผนยังคงอยู่ระหว่างการประชุม เพื่อเจรจาและหารือร่วมกับบรรดาจ้าหนี้กลุ่มต่าง ๆ เพื่อรวบรวมความเห็นดังกล่าว ประกอบกับแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทประกอบด้วยส่วนที่เป็นสาระสำคัญหลายรายการ บุคคลที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจึงจำเป็นต้องร่วมกันพิเคราะห์ พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้ได้มาซึ่งแผนฟื้นฟูกิจการฉบับสมบูรณ์นั้นจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง
ขยายเวลา ส่งแผนฟื้นฟูการบินไทย แค่ 2 มี.ค.นี้
ทั้งนี้ ศาลล้มละลายกลางได้พิจารณาแล้วมีคำสั่ง อนุญาตให้ขยายระยะเวลาการส่งแผนฟื้นฟูกิจการออกไปจนถึงวันที่ 2 มีนาคม 2564 ซึ่งเป็นการขยายระยะเวลาครั้งสุดท้ายตามที่กฎหมายกำหนด
โดยหลังจากนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการศาลล้มละลายกลางจะมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนและแต่งตั้งผู้บริหารแผน และบริษัทฯ จะดำเนินการตามแผนพื้นฟูกิจการและจะแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าใด ๆ ในการฟื้นฟูกิจการรวมถึงความคืบหน้าอื่นเพิ่มเติมต่อไป
ตามที่บริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และศาลล้มละลายกลาง ได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิการของบริษัท เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทดำเนินการฟื้นฟูกิจการและตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่บริษัท เสนอ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 โดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ลงโฆษณาคำสั่งตั้งผู้ทำแผนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในราชกิจนเบกษาเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 ซึ่งครบกำหนดระยะเวลา 3 เดือน ตามกฎหมายที่ผู้ทำแผนต้องส่งแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในวันที่ 2 มกราคม 2564
ซึ่งผู้ทำแผนได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอขยายระยะเวลาการส่งแผนฟื้นฟูกิจการตามมาตรา 90/43 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) โดยศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาการส่งแผนฟื้นฟูกิจการออกไปจนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 นั้น
ก่อนหน้านี้ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าในการจัดทำ แผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งดำเนินการโดยคณะผู้จัดทำแผน 6 คน และบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับที่ปรึกษาด้านกฏหมาย ที่ปรึกษาทางด้านธุรกิจการบิน และที่ปรึกษาทางด้านการเงินว่า การจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการของ การบินไทย ประกอบด้วยแผนหลัก 2 ส่วน คือ
1.แผนธุรกิจ ประกอบด้วยแผนในการจัดหารายได้ ลดรายจ่าย ปรับปรุงกระบวนการทำงาน ตลอดจนปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความเหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เตรียมความพร้อมรองรับการดำเนินธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืน ขณะนี้ได้ดำเนินการตามแผนงานไปแล้วบางส่วน อาทิ โครงการขอความร่วมมือพนักงานลาหยุดโดยไม่รับค่าตอบแทน โครงการเสียสละเพื่อองค์กร เพื่อลดต้นทุนด้านบุคลากร เป็นต้น โดยในส่วนของแผนธุรกิจนี้ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ เกือบสมบูรณ์แล้ว
2.แผนการเงิน ประกอบด้วย แผนการปรับโครงสร้างหนี้และโครงสร้างทุน ซึ่งบริษัท การบินไทย มีเจ้าหนี้จำนวนมาก การชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูฯ จึงต้องเป็นธรรมกับเจ้าหนี้ทุกฝ่าย
โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบคำขอรับชำระหนี้เพื่อให้มั่นใจว่า หนี้ที่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูฯ นั้นเป็นหนี้ที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกันจำเป็นต้องจัดทำแบบจำลองทางการเงิน เพื่อกำหนดรูปแบบการปรับโครงสร้างทุน โครงสร้างหนี้ และการจัดสรรการชำระหนี้ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเสนอให้เจ้าหนี้พิจารณาต่อไป
บริษัท การบินไทย ได้พิจารณาว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ ตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง และหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกของบริษัท ซึ่งเป็นไปอย่างโปร่งใส เพื่อมาเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำ และช่วยงานทางด้านการเงินและการบัญชีของบริษัท ในการจัดทำโครงสร้างทางการเงิน โครงสร้างเงินทุนและผู้ถือหุ้น การวิเคราะห์กระแสเงินสด วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเงิน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตของการบินไทย เพื่อใช้ประกอบการจัดทำแผนฟื้นฟูฯ รวมถึงการนำเสนอแผนฟื้นฟูฯ ในส่วนทางการเงินแก่เจ้าหนี้และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าแนวทางและหลักการทางการเงินถูกต้องและเชื่อถือได้
การจ้างที่ปรึกษาทางการเงินมีกรอบงบประมาณการว่าจ้างไม่เกิน 60 ล้านบาท และมีระยะเวลาในการทำงานจนกว่าศาลจะให้ความเห็นชอบกับแผนฟื้นฟูฯ โดยบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินดังกล่าว จะไม่มีหน้าที่ติดต่อหาแหล่งเงินทุนใหม่ให้กับบริษัท แต่อย่างใด
ดังนั้น กรณีที่มีข่าวเรื่องการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน โดยมีค่าตอบแทนสูงถึง 630 ล้านบาท จึงไม่เป็นความจริง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘การบินไทย’ สรุปแผนฟื้นฟูกิจการไม่ลง ยื่นคำร้องขอศาลฯ ขยายเวลารอบ 2
- ‘การบินไทย’ หยุดสมทบ ‘กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ’ 6 เดือน ยื้อเงินสดสู้โควิดรอบ 2
- ศาลฯ รับคำร้องการบินไทย ขยายเวลาส่ง ‘แผนฟื้นฟูกิจการ’ 1 เดือน