มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ : The Bangkok Insight รวบรวมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด” ระลอกใหม่ หวังต่อลมหายใจให้กับประชาชน
จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด” ระลอกใหม่ ที่ดูท่าว่าจะกินวงกว้าง และใช้เวลาในการควบคุมการแพร่ระบาดยาวนานกว่ารอบแรก โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้ประกาศปิด 28 จังหวัดพื้นที่สีแดง เพื่อหวังตีกรอบให้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงแคบมากที่สุด ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้พยายามออก มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ “สู้โควิด” ระลอกใหม่ โดยหวังที่จะเสริมสภาพคล่องให้กับเงินในกระเป๋าของประชาชน ทั้งมาตรการ เราชนะ และคนละครึ่งรอบเก็บตก เป็นต้น
นอกจากนี้ ธนาคารได้ออก มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ เพิ่มเติม เพื่อหวังต่อลมหายใจให้กับลูกหนี้ของตัวเอง The Bangkok Insight รวบรวมมาตรการช่วยเหลือจากธนาคาร 10 แห่ง ทั้งธนาคารของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ ดังนี้
ธนาคารกสิกรไทย
ประเภทที่ 1 มาตรการช่วยเหลือที่ไม่ต้องลงทะเบียน
- บัตรเครดิตกสิกรไทย : จาก 18% เป็น 16%
- บัตรเงินด่วน : จาก 28% เป็น 25%
- สินเชื่อเงินด่วน จาก 28% เป็น 25%
- สินเชื่อรถช่วยได้ประเภทจำนำทะเบียนรถ จาก 28% เป็น 24%
ประเภทที่ 2 มาตรการช่วยเหลือที่ต้องลงทะเบียน
- บัตรเครดิตกสิกรไทย
ทางเลือกที่ 1 พักชำระเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 รอบบัญชีนับจากเดือนที่ลงทะเบียน หากท่านเข้าร่วมมาตรการพักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยอยู่แล้ว แนะนำให้ท่านลงทะเบียนล่วงหน้าไม่เกิน 30 วัน ก่อนมาตรการเดิมจะสิ้นสุดลง
ทางเลือกที่ 2 เปลี่ยนยอดคงค้างเป็นผ่อนชำระ 48 งวด ดอกเบี้ยพิเศษ 12% ต่อปี
- บัตรเงินด่วน
ทางเลือกที่ 1 พักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 รอบบัญชี นับจากเดือนที่ลงทะเบียน หากท่านเข้าร่วมมาตรการพักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยอยู่แล้ว แนะนำให้ท่านลงทะเบียนล่วงหน้าไม่เกิน 30 วัน ก่อนมาตรการเดิมจะสิ้นสุดลง
ทางเลือกที่ 2 เปลี่ยนยอดคงค้าง เป็นผ่อนชำระ 48 งวด ดอกเบี้ยพิเศษ 22% ต่อปี
- สินเชื่อเงินด่วน
ทางเลือกที่ 1 พักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 รอบบัญชี นับจากเดือนที่ลงทะเบียน หากท่านเข้าร่วมมาตรการพักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยอยู่แล้ว แนะนำให้ท่านลงทะเบียนล่วงหน้าไม่เกิน 30 วัน ก่อนมาตรการเดิมจะสิ้นสุดลง
ทางเลือกที่ 2 ลดค่างวด 30% ของค่างวดเดิมเป็นเวลา 6 รอบบัญชี ดอกเบี้ยพิเศษ 22% ต่อปี
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกรุงเทพ
บัตรเครดิต
- ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำมาอยู่ที่ 5% (จากเดิม 10%) จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท และทุกรายได้
- รับสิทธิ์อัตโนมัติโดยไม่ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ์
- ปรับลดเพดานดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 16% ต่อปี (จากเดิม 18% ต่อปี) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563
- ขยายวงเงินให้แก่ลูกค้าที่มีความจำเป็นและมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง
- สำหรับลูกค้าที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท จาก 1.5 เท่า เป็น 2 เท่า เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2564
สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ
ประเภทสินเชื่อเงินกู้ที่ผ่อนชำระเป็นงวด (Installment Loan)
- ลดค่างวดอย่างน้อย 30% โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
ประเภทสินเชื่อเงินกู้ที่มีลักษณะหมุนเวียน (Revolving Loan)
- ลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระหนี้
- เปลี่ยนเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (term loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน
- เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- หรือเลื่อนชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
มาตรการที่ 1 : ลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำอัตโนมัติ สำหรับลูกค้าทุกราย (โดยไม่ต้องลงทะเบียน)
- บัตรเครดิต : จากเดิม 10% เหลือ 5% ถึง 31 ธันวาคม 64
- สินเชื่อส่วนบุคคลแบบชำระขั้นต่ำ : จากเดิม 5% เหลือ 3% ตามรอบบัญชี 31 ธันวาคม 64
มาตรการที่ 2 : ปรับลดดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษและขยายเวลาผ่อนชำระ สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ (โดยต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านโมบายแอพ UCHOOSE เท่านั้น)
- บัตรเครดิต: ลดดอกเบี้ยพิเศษ 12% และขยายเวลาผ่อนสูงสุด 99 เดือน (ขึ้นอยู่กับยอดคงค้าง)
- สินเชื่อบุคคล: ลดดอกเบี้ยพิเศษ 22% ลดการผ่อนชำระขั้นต่ำเหลือ 3% หรือขยายเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 99 เดือน (ขึ้นอยู่กับยอดคงค้าง)
มาตรการที่ 3 : ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนด้วยการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระนานสูงสุด 99 เดือน (ปรับโครงสร้างหนี้)
- บัตรเครดิต: ลดดอกเบี้ยพิเศษ และขยายเวลาผ่อนสูงสุด 99 เดือน (ขึ้นอยู่กับยอดคงค้าง)
- สินเชื่อบุคคล: ลดดอกเบี้ยพิเศษ และขยายเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 99 เดือน (ขึ้นอยู่กับยอดคงค้าง)
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารออมสิน
1. สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย สำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาโควิด-19 หรือ สินเชื่อฉุกเฉิน วงเงินสูงสุด 10,000 บาท ดอกเบี้ยคงที่ 0.10% ต่อเดือน ผ่อนชำระสูงสุด 24 เดือน หรือ 2 ปี ไม่ต้องชำระเงินกู้ 6 งวดแรก
2. โครงการสินเชื่อเสริมพลังฐานราก กู้วงเงินสูงสุด 50,000 บาท ดอกเบี้ยคงที่ 0.35% ต่อเดือน ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี
ทั้ง 2 โครงการขยายเวลารับคำขอสินเชื่อออกไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น MyMo ของธนาคารออมสิน ในวันที่ 15 มกราคม 2564 นี้เป็นต้นไป
3. SMEs มีที่มีเงิน กู้สูงสุด 70% ของราคาประเมิน สูงสุดไม่เกิน 3 ปี ดอกเบี้ย 5.99% ต่อปี
4. โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ช่วยเหลือ SMEs ภาคท่องเที่ยว วงเงิน 5,000 ล้านบาท คงเหลือ 4,200 ล้านบาท วงเงินสูงสุด 500,000 บาท ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ย 3.99% สำหรับกลุ่มท่องเที่ยว, นวดสปาแผนไทย, Supply Chain และ Homestay
5. Soft Loan ฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย สถาบันการเงินปล่อยให้กับผู้ประกอบการวงเงินสูงสุด 100 ล้านบาท ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และ Supply Chain ดอกเบี้ย 2% ต่อปี วงเงิน 10,000 ล้านบาท คงเหลือ 7,800 ล้านบาท
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารออมสิน
ธนาคารกรุงไทย
สินเชื่อบุคคล (ประเภทวงเงินหมุนเวียน)
- เปลี่ยนเป็นวงเงินกู้แบบกำหนดระยะเวลา (Term Loan) 48 งวด หรือ ขยายระยะเวลาได้ตามความสามารถในการชำระหนี้
สินเชื่อบุคคล (แบบกำหนดระยะเวลา)
- ลดการผ่อนชำระลง 30% จากการผ่อนชำระตามสัญญากู้เดิม นานสูงสุด 6 เดือน
สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่มี ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (สินเชื่อบ้าน, สินเชื่อ Home for Cash, สินเชื่อกรุงไทยบ้านให้เงิน)
- พักชำระเงินต้น (ชำระเฉพาะดอกเบี้ย) นาน 3 เดือน หรือ ลดค่างวด โดยการขยายระยะเวลาการชำระหนี้
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
โครงการชำระดีมีคืนสำหรับหนี้เงินกู้จัดชั้นปกติ โดยมี มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ดังนี้
สำหรับลูกค้าที่มีเงินกู้ปกติ ไม่มียอดค้างชำระ หากมาชำระหนี้ที่ ธ.ก.ส. จะได้รับเงินคืน ดังนี้
- ลูกค้าเกษตรกรและบุคคล รับเงินคืน 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง แต่ไม่เกิน 5,000 บาทต่อราย
- กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (ยกเว้นสหกรณ์นอกภาคการเกษตรและองค์กร) รับเงินคืน 10% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย
- สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 31 มีนาคม 2564 ในกรอบวงเงิน 3,000 ล้านบาท แล้วเเต่เงื่อนไขใดจะสิ้นสุดก่อน
โครงการลดภาระหนี้ สำหรับหนี้ NPL หรือมีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 15 เดือน
- ลูกค้าเกษตรกรและบุคคล รับเงินคืน 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง
- กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (ยกเว้นสหกรณ์นอกภาคการเกษตรและองค์กร) รับเงินคืน 10% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง
- สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 31 มีนาคม 2564
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ธนาคารไทยพาณิชย์
มาตรการลดดอกเบี้ยสูงสุด มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ทุกประเภท ลดดอกเบี้ยจาก 18% เป็น 16% สินเชื่อหมุนเวียน Speedy Cash และสินเชื่อบุคคล Speedy Loan ลดดอกเบี้ยจาก 28% เป็น 25%
สำหรับมาตรการเพิ่มเติม สำหรับสินเชื่อแต่ละประเภท ได้แก่
- บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ทุกประเภท ลูกค้าสามารถผ่อนเงินต้นค้างชำระ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 12% ต่อปี นาน 48 เดือน (ยกเว้นบัตร JCB และรายการใช้จ่ายที่ขอใช้บริการดีจังแบ่งชำระรายเดือน)
- สินเชื่อหมุนเวียน Speedy Cash ลูกค้าสามารถผ่อนเงินต้นค้างชำระ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 22% นาน 48 เดือน (ยกเว้นรายการใช้จ่ายที่ขอใช้บริการดีจังแบ่งชำระรายเดือน)
- สินเชื่อบุคคล Speedy Loan ลูกค้าสามารถปรับลดอัตราผ่อน 30% ของอัตราผ่อนเดิม ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 22% ต่อปี
- สินเชื่อรถยนต์ ลูกค้าสามารถพักชำระค่างวด 3 เดือน หรือ ปรับลดอัตราผ่อน และขยายระยะเวลาผ่อน
- สินเชื่อบ้าน ลูกค้าสามารถพักชำระค่างวด 3 เดือน หรือ พักชำระเงินต้น 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ตามความเหมาะสม หรือ ปรับลดอัตราผ่อน และขยายระยะเวลาผ่อน
- สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (ยอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาทต่อปี) ลูกค้าสามารถพักชำระค่างวดสูงสุด 3 เดือน หรือ ปรับลดอัตราผ่อน และขยายระยะเวลาผ่อน
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
มาตรการที่ 9 ลูกค้าที่เคยเข้าร่วมหรืออยู่ระหว่างใช้มาตรการช่วยเหลือ
- ลดเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบันเป็นระยะเวลา 6 เดือน (กุมภาพันธ์-กรกฎาคม 2564)
- ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการระยะแรกผ่าน Application : GHB ALL ได้ตั้งแต่วันที่ 15 – 29 มกราคม 2564
มาตรการที่ 10 สำหรับลูกหนี้สถานะ NPL และลูกหนี้สถานะ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้
- ลดเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบันเป็นระยะเวลา 6 เดือน (กุมภาพันธ์-กรกฎาคม 2564)
- ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการระยะแรก ผ่าน Application : GHB ALL ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม – 26 กุมภาพันธ์ 2564
มาตรการที่ 11 สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือ
- ลดเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบันเป็นระยะเวลา 6 เดือน (กุมภาพันธ์-กรกฎาคม 2564)
- ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการระยะแรก ผ่าน Application : GHB ALL ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 26 กุมภาพันธ์ 2564
มาตรการที่ 12 สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการ SMEs
สินเชื่อประเภทแฟลต แบ่งเป็น
- ได้ลดเงินงวดผ่อนชำระ(ตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 70% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบันเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนหรือไม่เกินมิถุนายน 2564
- พักชำระหนี้ถึงมิถุนายน 2564 ลงทะเบียนที่สาขาทั่วประเทศ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2564
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารทิสโก้
สินเชื่อเงินกู้ ประเภทจำนำทะเบียนรถ
- ลดค่างวด 30% ของค่างวดเดิม โดยขยายเวลาการผ่อนชำระ และอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
- พักชำระค่างวด 3 งวด หรือ ปรับลดค่างวด โดยขยายเวลาการผ่อนชำระ
สินเชื่อที่อยู่อาศัย
- เลื่อนจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 3 เดือน หรือ
- เลื่อนการจ่ายเงินต้น 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยตามความเหมาะสม หรือ ลดค่างวดโดยขยายเวลาชำระหนี้
การพิจารณาให้ความช่วยเหลือสำหรับลูกค้าแต่ละรายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด โดยธนาคารจะพิจารณาจากผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ และนำเสนอแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมต่อความสามารถในการชำระหนี้ และความเสี่ยงของลูกค้า
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารทิสโก้
ธนาคารยูโอบี (ปรับให้อัตโนมัติ)
บัตรเครดิต : ปรับลดผ่อนชำระขั้นต่ำเดิม 10%
- ปี 2563 – 2564 เหลือ 5%
- ปี 2565 เหลือ 8%
- ปี 2566 เหลือ 10%
บัตรกดเงินสด : ปรับลดผ่อนชำระขั้นต่ำเดิม 5%
- ปี 2563-2565 เหลือ 2.5%
- ปี 2566 เหลือ 5%
ลงทะเบียน ปรับโครงสร้างหนี้โดยรวมหนี้ สินเชื่อบ้าน บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลทุกประเภท
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารยูโอบี
ขอบคุณภาพจาก ศูนย์ข้อมูล COVID-19
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เตรียมพร้อม!! ‘ออมสิน’ ปรับเกณฑ์ปล่อยกู้ฉุกเฉินรอบใหม่ เริ่ม 23 ม.ค.นี้
- ลูกหนี้เฮ! ธนาคารพาณิชย์ขยายเวลามาตรการช่วยเหลือถึง 30 มิ.ย.
- รวมไว้ที่นี่!! เปิด 5 สินเชื่อเยียวยาวิกฤติ สู้โควิดจาก ‘ธนาคารออมสิน’