Business

‘ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง’ พ.ย. 63 เพิ่มขึ้น 0.4% แต่ ‘คอนกรีต-ซีเมนส์’ ยังติดลบ

“ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง” เดือน พ.ย. 63 เพิ่มขึ้น 0.4% ฟื้นตัวเป็นเดือนที่ 2 แต่บรรยากาศภาพรวมยังซบเซา กดดัน“คอนกรีต-ซีเมนส์” ล้นตลาด ราคาติดลบ

กองดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials Price Index: CMI) ของประเทศไทยพบว่า ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างของประเทศประจำพฤศจิกายน 2563 เท่ากับ 105.1 สูงขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2562 และเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเฉลี่ย 11 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2563 ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง พ.ย. 63

รายละเอียด “ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง” พ.ย. 63

ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนพฤศจิกายน 2563 เท่ากับ 105.1 เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2562 สูงขึ้น 0.4% (YoY) ปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 2 หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ซึ่งเป็นการสูงขึ้นในเกือบทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก สูงขึ้น 2.2% ตามต้นทุนวัตถุดิบและความต้องการที่ค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม หมวดซีเมนต์และหมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีตยังคงลดลง เนื่องจากยังมีภาวะสินค้าล้นตลาด จากการที่ภาคการ ก่อสร้าง ยังคงซบเซา แต่เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น จากโครงการก่อสร้างภาครัฐ

ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง พ.ย. 63

ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2562 (YoY) สูงขึ้น 0.4% โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า ดังนี้

  • หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สูงขึ้น 0.1% จากการสูงขึ้นของบานประตู และวงกบหน้าต่าง
  • หมวดซีเมนต์ ลดลง 0.3% ยังคงเป็นการลดลงต่อเนื่องของปูนซีเมนต์ผสม ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ และปูนฉาบสำเร็จรูป เนื่องจากภาวะการ ก่อสร้าง ที่ยังคงซบเซาเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นก็ตาม
  • หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต ลดลง 2.2% จากการลดลงของชีทไพล์คอนกรีต ถังซีเมนต์สำเร็จรูป เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง พื้นคอนกรีตสำเร็จรูปอัดแรง คานคอนกรีตสำเร็จรูป และผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ยังคงลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากการก่อสร้างที่ยังคงซบเซา ส่งผลให้เกิดภาวะสินค้าล้นตลาด เกิดการแข่งขันสูง
  • หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก สูงขึ้น 2.2% ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 2 หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย โดยเป็นการปรับตัวสูงขึ้นของเหล็กเส้นกลมผิวเรียบผิวข้ออ้อย เหล็กตัวซี เหล็กตัว H เหล็กฉาก ข้อต่อเหล็ก ลวดเหล็ก ท่อเหล็กกลวงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตะแกรงเหล็กสำเร็จรูป ท่อเหล็กเคลือบสังกะสี และเหล็กแผ่นเรียบดำ เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาเศษเหล็ก ในขณะที่ปีที่ผ่านมีราคาต่ำ ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยมีการปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง พ.ย. 63

  • หมวดกระเบื้อง สูงขึ้น 2.0% จากการสูงขึ้นของกระเบื้องแกรนิต และกระเบื้องยาง PVC ปูพื้น ซึ่งปรับราคาสูงขึ้นตามต้นทุน
  • หมวดวัสดุฉาบผิว สูงขึ้น 0.3% จากการสูงขึ้นของสีเคลือบน้ำมัน และสีรองพื้นโลหะ
  • หมวดสุขภัณฑ์ สูงขึ้น 0.1% จากการสูงขึ้นของกระจกเงา โถส้วมชักโครก และราวจับสแตนเลส
  • หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้น 0.9% จากการสูงขึ้นของท่อร้อยสายไฟและสายโทรศัพท์พีวีซี ท่อพีวีซี ถังเก็บน้ำสแตนเลส และถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส ซึ่งราคาสูงขึ้นตามต้นทุน
  • หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ สูงขึ้น 0.2% จากการสูงขึ้นของยางมะตอย ซึ่งยังคงเป็นผลต่อเนื่องจากการลดกำลังการผลิตตั้งแต่ช่วงกลางปีจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ราคาเฉลี่ยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

 

แนวโน้มเดือน ธ.ค. 63

ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เดือนธันวาคม 2563 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ รวมถึงราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กในตลาดโลก ซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ และต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาเศษเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น

ขณะที่การก่อสร้างของภาคเอกชนยังคงชะลอตัว ประกอบกับปริมาณผลผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้างบางประเภทยังคงมีมากกว่าความต้องการ ทำให้เกิดการแข่งขันเพื่อระบายสินค้า ส่งผลให้ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้าง และราคาวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นไม่มากนัก

fig 27 09 2019 06 46 25

สภาพเศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศที่ชะลอตัว รวมทั้งความกังวลต่อการแพร่ระบาดระลอก 2 ของไวรัสโควิด-19 ความขัดแย้งทางการเมือง และมาตรการของสถาบันการเงินที่ยังเข้มงวด เป็นปัจจัยกดดันให้ธุรกิจการ ก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยยังมีโอกาสฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ใกล้จะสิ้นสุดลงในปีนี้ ส่งผลให้มีการเร่งซื้อ-ขายกันมากขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการเร่งส่งเสริมการขายในช่วงปลายปี นอกจากนี้ มาตรการอื่น ๆ รวมทั้งโครงการก่อสร้างของภาครัฐที่อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการ น่าจะเป็นปัจจัยที่สามารถส่งเสริมความต้องการก่อสร้างภายในประเทศให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo