กทม. สกัดโควิด ส่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสนามมวย ผับ บาร์ และคาราโอเกะ ทุกแห่งในพื้นที่ ตั้งแต่ 9-15 ธ.ค. นี้ หลังลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการแล้ว 2,437 แห่ง
พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เป็นประธานการประชุม ศบค.กทม. ครั้งที่ 98/2563 โดยวางมาตรการ กทม. สกัดโควิด ลงตรวจพื้นที่ และสถานประกอบการที่ได้รับการผ่อนปรน อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างน่าวิตก ประกอบกับปัจจุบัน มีคนไทยที่ลักลอบไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน และติดเชื้อโควิด-19 เดินทางกลับมายังประเทศไทย โดยไม่เข้าระบบกักตัว ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศ
ดังนั้น ที่ประชุม ศบค.กทม. จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์เจลหรือแอลกอฮอล์ล้างมือ ไว้สำหรับแจกจ่ายให้ประชาชน หากมีการระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้ ให้สถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็ก ในสังกัดกรุงเทพมหานครทุกแห่ง ดำเนินมาตรการ ตรวจวัดไข้เด็กทุกคน หากพบเด็กไม่สบายหรือป่วยเป็นโรค RSV ต้องให้เด็กหยุดเรียนจนกว่าจะหายดี จึงค่อยให้เด็กมาเรียนตามปกติ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้กับเด็กคนอื่นในโรงเรียน
นอกจากนี้ ประธานในที่ประชุม ได้มอบหมายให้ สำนักงานเขต คณะทำงานด้านการประสานงานการดูแลความสงบเรียบร้อย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการ 4 ประเภท ประกอบด้วย สนามมวย ผับ บาร์ และคาราโอเกะ ในพื้นที่ให้ครบทุกแห่ง ระหว่างวันที่ 9-15 ธ.ค. 63 เพื่อเฝ้าระวังการแพร่เชื้อโควิด-19
พร้อมกันนี้ ให้ทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือ เจ้าของสถานประกอบการ ดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เพื่อป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะ การให้ผู้มาใช้บริการสถานประกอบการ ใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” แทนการลงชื่อในสมุด เนื่องจากแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” มีความชัดเจนทางข้อมูล ในการติดตามตัวบุคคลได้ง่ายกว่าการลงชื่อในสมุด เพราะบางคนก็ไม่ลงชื่อ หรือเบอร์โทรที่เป็นความจริง
ขณะเดียวกัน ได้กำชับให้เจ้าของสถานประกอบการ เข้มงวดเจ้าหน้าที่ และผู้ที่มาใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง ล้างมือบ่อย ๆ มีการบริหารจัดการพื้นที่ ให้มีความเหมาะสมกับจำนวนคน ที่ไม่แออัดเกินไป และจัดแอลกอฮอล์เจล หรือแอลกอฮอล์ล้างมือไว้บริการด้วย
สำหรับผู้โดยสารในเที่ยวบิน DD8717 วันที่ 28 พ.ย.63 เวลา 13.40 น. เที่ยวบิน SL533 วันที่ 29 พ.ย.63 เวลา 10.40 น. เที่ยวบิน WE137 วันที่ 29 พ.ย.63 เวลา 20.40 น. และเที่ยวบิน SL 545 วันที่ 30 พ.ย.63 เวลา 19.15 น. ขอให้สังเกตอาการตนเอง 14 วัน พร้อมติดต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ EOC กรุงเทพมหานคร ที่เบอร์โทร. 09 4386 0051 หรือคัดกรองเพื่อประเมินความเสี่ยงตนเองผ่าน bkk covid-19 ด้วย
ที่ผ่านมา ในช่วงวันที่ 1 – 7 ธันวาคม 2563 กรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการ ที่ได้รับการผ่อนปรน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,437 แห่ง ได้แก่
- ร้านอาหาร โรงอาหาร ศูนย์อาหาร ภัตตาคาร สวนอาหาร โรงแรม 872 แห่ง
- ห้างสรรพสินค้า+ตู้เกมส์ 136 แห่ง
- ตลาด ร้านค้าปลีก-ส่ง 133 แห่ง
- ร้านตัดผม เสริมสวย ทำสีผม 14 แห่ง
- ร้านสัตว์เลี้ยง 21 แห่ง
- สถานดูแลเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย เด็กพิเศษ ผู้สูงอายุ 15 แห่ง
- สนามกอล์ฟ 8 แห่ง
- สนามกีฬา และสถานที่เพื่อการเรียนการสอนทุกประเภทกีฬา 92 แห่ง
- สวนสาธารณะ 43 แห่ง
- สถานออกกำลังกาย 50 แห่ง
- คลินิกเสริมความงาม ร้านสักเจาะ 14 แห่ง
- สระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำสาธารณะ 14 แห่ง
- พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด 28 แห่ง
- ศูนย์แสดงสินค้า งานนิทรรศการ 21 แห่ง
- ศูนย์พระเครื่อง สนามพระเครื่องบูชา 7 แห่ง
- นวดเพื่อสุขภาพ นวดไทย สปา อบสมุนไพร 63 แห่ง
- โรงภาพยนตร์ โรงละครมหรสพ 14 แห่ง
- ค่ายมวย โรงยิม 29 แห่ง
- สถานศึกษา 21 แห่ง
- ขนส่งสาธารณะทุกประเภท 51 แห่ง
- สวนสนุก สนามเด็กเล่น สวนน้ำ 7 แห่ง
- สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ 643 แห่ง
- ร้านเกมส์ และร้านอินเตอร์เน็ต 141 แห่ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ประกันภัยกลุ่ม 10 บาท คุ้มครองโควิด เจอ-จ่าย-จบ รวมกลุ่ม 10 คนทำได้เลย
- ‘หมอยง’ เตือนคำหนัก ระวังสถานบันเทิง ‘superspred’ บทเรียนสำคัญโควิด
