สายการบิน “นกแอร์-ไทยไลอ้อน” สั่งกักตัวนักบินลูกเรือร่วมไฟลท์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 นาน 14 วัน ยืนยันมาตรฐานความปลอดภัยบนเครื่องบิน
จากกรณีที่ประเทศไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้เดินทางไปหลายจังหวัดนั้น
ล่าสุดสายการบินนกแอร์ชี้แจงว่า ตามรายงานข่าวที่มีผู้ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เดินทางจากจังหวัดเชียงราย มายังท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ ด้วย เที่ยวบิน DD 8717 ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 เมื่อเวลา 13.40- 14.50 น. นั้น
สายการบินนกแอร์ขอแจ้งรายละเอียดการปฏิบัติเมื่อได้รับแจ้งจากด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานดอนเมือง กระทรวงสาธารณสุขว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นดังนี้
1.ส่งรายชื่อผู้โดยสาร นักบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่อง พนักงานทุกฝ่ายทุกคนที่อยู่ในข่ายต้องตรวจสอบและเฝ้าระวังไปให้กระทรวงสาธารณสุขโดยทันทีที่ได้รับแจ้ง ตามขั้นตอนที่ทางราชการกำหนด โดยกระทรวงสาธารณสุขจะได้ทำการติดตาม ตรวจสอบและแจ้งเตือนผู้อยู่ในข่ายต้องสงสัยต่อไป
2.สั่งให้มีการตรวจและกักตัว 14 วันโดยทันทีสำหรับ นักบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่อง และพนักงานทุกคนที่มีอยู่ในข่ายมีความเสี่ยง และเมื่อครบกำหนด 14 วันต้องทำการตรวจหาเชื้อ พร้อมนำใบรับรองแพทย์ มาแสดงต่อฝ่ายบุคคลก่อนกลับเข้ามาปฏิบัติงาน ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
3.สายการบินมีมาตรการทำความสะอาดและพ่นฆ่าเชื้อภายในเครื่องในสถานการณ์โควิด-19 ทุกเที่ยวบิน และได้สั่งเพิ่มการฆ่าเชื้อบนเครื่องบินลำดังกล่าวเพิ่มเติมเป็นพิเศษทันที
เพื่อให้ผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจกับการเดินทางด้วยเครื่องบิน มาตรการที่สายการบินนกแอร์ได้ยึดถือปฏิบัติมาอย่างเคร่งครัดโดยตลอดมาตั้งแต่เกิดการระบาดขึ้นนั้นคือ
1.พนักงานสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันหน้ากากอนามัยและถุงมือยางทุกคน
2.ขอให้ผู้โดยสารใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเดินทาง
3.ดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในทุก ๆ ขั้นตอนของการเดินทาง
4.เครื่องบินนกแอร์ใช้ระบบกรองอากาศแบบ HEPA Filter ซึ่งมีประสิทธิภาพดักจับไวรัสและแบคทีเรียได้มากกว่า 99.77%
5.ทำความสะอาดแบบ Deep Cleaning พื้นผิวสัมผัส 34 จุด ที่ผู้โดยสารและลูกเรือมีโอกาสสัมผัสบ่อย รวมถึงการทำความสะอาดแบบขั้นสูงสุดในทุก ๆ คืนหลังจากเที่ยวบินสุดท้าย
6.เพิ่มอุปกรณ์พื้นฐานบนเครื่องบิน เช่น หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ถุงมือยาง สเปรย์ฆ่าเชื้อโรค และ ชุดทำความสะอาดทางชีวภาพ (Universal Precaution Kit)
สายการบิน ไทย ไลอ้อน แอร์ ได้รับแจ้งจากด่านควบคุมโรคเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค. 63) ว่าพบผู้โดยสารซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดเชียงรายถึงสนามบินดอนเมืองด้วย เที่ยวบิน SL 533 ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ต่อมาได้พบว่ามีการติดเชื้อไวรัส โควิด-19
สายการบิน ไทย ไลอ้อน แอร์ ยังคงรักษามาตรการป้องกันพร้อมให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อด่านควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก ทั้งนี้ ลูกเรือ และนักบินในเที่ยวบินดังกล่าว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่ทำการปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้นได้ทำการกักตัว ( self-quarantine) เป็นเวลา 14 วัน เพื่อสังเกตอาการและทำการส่งไปตรวจวัดไข้ต่อไป
สำหรับเที่ยวบินที่ให้บริการ สายการบินได้มีการพ่นเสปรย์และอบฆ่าเชื้อ พร้อมทั้งทำความสะอาดฆ่าเชื้อตามมาตรฐานความปลอดภัย หลังเที่ยวบินที่กลับจากการให้บริการเป็นประจำทุกครั้ง และขอให้ความมั่นใจแก่ผู้โดยสารทุกท่านว่าบนเครื่องบินของสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ สะอาด ปลอดภัยในทุกเที่ยวบิน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอยง’ เตือนคำหนัก ระวังสถานบันเทิง ‘superspred’ บทเรียนสำคัญโควิด
- วุ่น! โรงเรียน ‘จ.พิษณุโลก’ ประกาศปิด 2 วัน หลังครูนั่งไฟลท์เดียวกับผู้ป่วยโควิด
- มท.สั่งด่วน ผู้ว่าทุกจังหวัด เพิ่ม 4 มาตรการ สกัดโควิด คุมเข้มยาวยันปีใหม่