Business

‘แท็กซี่’ เก็บค่าสัมภาระเฉพาะไปกลับ ‘ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ’ อัตรา 20-100 บาท

“แท็กซี่” มีสิทธิ์เก็บ ค่าสัมภาระ เฉพาะไปกลับ “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ” อัตรา 20-100 บาท ส่วนแท็กซี่วิ่งทั่วไปห้ามมั่วนิ่มเก็บ

นายธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าบริการอื่น กรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI-METER) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563 นั้น ได้มีการกำหนดอัตราค่าบรรทุกสัมภาระไว้ โดยจำกัดเฉพาะการใช้บริการรถแท็กซี่จากท่าอากาศยานดอนเมือง หรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือการจ้างจากสถานที่อื่นไปยังท่าอากาศยานดอนเมืองหรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเท่านั้น และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป

ส่วนการใช้บริการรถแท็กซี่เส้นทางในเมืองทั่วไปที่ไม่ได้มีต้นทางหรือปลายทางไปยังท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง จะมีเพียงค่าโดยสารตามมาตรค่าโดยสารที่ปรากฏตามปกติเท่านั้น ไม่มีการเก็บค่าสัมภาระเพิ่มแต่อย่างใด

ค่าสัมภาระ แท็กซี่

ทั้งนี้ สัมภาระตามประกาศกระทรวงฯ ดังกล่าว หมายถึง สินค้า สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่มีการบรรจุกล่อง กระเป๋า มัดรวม หรือบรรจุหีบห่อ และที่ไม่มีการบรรจุแต่มีขนาด ปริมาณ ความกว้าง ความสูงเกินกว่าจะเป็นสัมภาระติดตัว โดยมีรายละเอียดกำหนดอัตราค่าบริการ ซึ่งคนขับ แท็กซี่ ต้องแจ้งอัตราค่าบริการเพื่อให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้าก่อนทำการรับจ้างทุกครั้ง ดังนี้

1.สัมภาระขนาดใหญ่หรือกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใดด้านหนึ่ง เกินกว่า 26 นิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราชิ้นละไม่เกิน 20 บาท

2.สัมภาระขนาดเล็กหรือกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก ที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใดด้านหนึ่ง ไม่เกิน 26 นิ้ว แต่มีจำนวนหลายชิ้น ให้เรียกเก็บค่าบริการตั้งแต่ชิ้นที่ 3 ขึ้นไป ในอัตราชิ้นละไม่เกิน 20 บาท

3.อุปกรณ์การกีฬาจำพวก ถุงกอล์ฟ รถจักรยาน วินด์เซิร์ฟ หรือเครื่องดนตรี ขนาดตั้งแต่ 50 นิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราชิ้นละไม่เกิน 100 บาท

4.กรณีสัมภาระเป็นสินค้า สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่บรรจุกล่อง และที่มิได้มีการบรรจุกล่อง แต่มีการมัดรวมหรือหีบห่อรวมกันไว้ ขนาดตั้งแต่ 50 นิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราที่บรรจุกล่อง มัดรวมหรือหีบห่อชิ้นละไม่เกิน 100 บาท

ค่าสัมภาระ แท็กซี่สนามบิน

ในการวัดขนาดของสัมภาระ จะไม่วัดรวมล้อหรืออุปกรณ์ที่ช่วยในการเคลื่อนที่ เช่น กระเป๋าเดินทางที่มีล้อเลื่อนจะวัดขนาดแค่เพียงส่วนที่เป็นตัวกระเป๋านั้นโดยไม่รวมล้อ

นอกจากนี้ จะไม่มีการจัดเก็บค่าบริการเพิ่มเติมในกรณีสัมภาระนั้นเป็น รถเข็น หรืออุปกรณ์สำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย เช่น วีลแชร์ ไม้เท้า รวมถึงสัมภาระติดตัว ที่อยู่ในความดูแลของผู้โดยสารระหว่างการเดินทาง เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าคอมพิวเตอร์ เป้สะพายหลัง

โดยกรมการขนส่งทางบกได้ประสาน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ประชาสัมพันธ์รายละเอียดการใช้บริการ แท็กซี่ และอัตรา ค่าสัมภาระ ให้ผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่ทราบก่อนใช้บริการ

“ขอให้ผู้ขับรถแท็กซี่ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงฯ และข้อกำหนดเพื่อความปลอดภัยในการให้บริการอย่างเคร่งครัด และตระหนักถึงความสำคัญของการให้บริการที่ดี ห้ามฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสารโดยเด็ดขาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน” นายธานีกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบปัญหาจากการใช้บริการรถแท็กซี่แจ้งได้ที่

  • ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
  • แอพพลิเคชั่นไลน์ @1584dlt
  • เว็บไซต์ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/
  • อีเมล์: [email protected]
  • เฟซบุ๊ก 1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ

แท็กซี่

เพิ่งขยายอายุ “แท็กซี่” จาก 9 ปีเป็น 12 ปี

นอกจากนี้ เมื่อวันนี้ (10 พ.ย. 63) ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการทบทวนมติเรื่อง หลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 ซึ่งมีสาระสำคัญให้ขยายอายุการใช้งานของรถแท็กซี่จาก 9 ปี เป็น 12 ปี

สาเหตุที่ต้องทบทวน เนื่องจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีข้อห่วงใยว่า รถแท็กซี่ที่มีอายุมาก โดยเฉพาะเกิน 9 ปี มีโอกาสปล่อยมลพิษออกมาสูงมาก อย่างไรก็ตาม ครม. ก็เข้าใจในความเดือดร้อนของผู้ประกอบการซึ่งได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดด้วย

ดังนั้น ที่ประชุม ครม. จึงได้ทบทวนมติใหม่ โดยเห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ ขยายอายุ แท็กซี่ จาก 9 ปี เป็น 12 ปีตามเดิม แต่เมื่อครบ 9 ปีแล้วจะเพิ่มเงื่อนไขว่า รถแท็กซี่จะต้องเข้ารับการตรวจสภาพปีละ 4 ครั้ง เพื่อป้องกันและแก้ปัญหามลพิษจากรถรับจ้าง ขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยเหลือและเยียวยารถแท็กซี่ทั่วประเทศ

“เพราะฉะนั้นก็ขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่า ปัญหาที่ผู้ประกอบการแท็กซี่ได้รับผลกระทบจากช่วงโควิด-19 นั้น รัฐบาลก็ให้การดูแล ในขณะเดียวกันก็ความสำคัญกับเรื่องของการแก้ไขปัญหามลพิษ โดยสรุปก็คือขยายให้จาก 9 ปี เป็น 12 ปี แต่ว่าเมื่อถึง 9 ปีต้องตรวจสภาพรถปีละ 4 ครั้ง” น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo