Business

‘ยุทธพงศ์’ เบรกนายกฯอย่าอาศัยม.44 ต่อสัมปทานสายสีเขียว ‘บีทีเอส ‘

“ยุทธพงศ์” เบรกนายกฯต่อสัมปทานสายสีเขียว โดยอาศัยมาตรา 44 พร้อมปฏิบัติตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เคลียร์ปมสังคมระแวง หลังสังเวยรัฐมนตรีคลัง ไปแล้ว 2 คน เตือนอย่าดื้ออาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายให้ประชาชนออกมาขับไล่รัฐบาล

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงมหาดไทยเสนอ ครม.อนุมัติขยายสัมปาทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ออกไปอีก 30 ปี ว่าการถอนเรื่องออกจากวาระจรในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ไม่ใช่ครั้งแรก เรื่องนี้มีการดำเนินการมาก่อนและเสียรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปแล้ว 2 คน คือนายอุตตม สาวนายน และ นายปรีดี ดาวฉาย เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับแนวทางการต่อสัญญาให้ บีทีเอส โดยอาศัยคำสั่ง คสช.ที่3 /2562 อ้างอำนาจมาตรา 44 และ เห็นควรว่ารัฐบาลควรปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 จึงเป็นคำถามว่า ทำไมรัฐบาลจึงไม่ปฏิบัติตามกฎหมายปกติ แต่เลือกที่จะใช้อำนาจมาตรา 44 ต่อไป และที่สำคัญทราบมาว่ารัฐบาลจะรีบนำเรื่องเข้าครม.อีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยเป็นรายละเอียดเช่นเดิมใช่หรือไม่

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ความจริง รัฐบาลไม่ควรรีบเร่งผลักดันเรื่องนี้เพราะยังมีเวลาอีก 10 ปี หรือปี 2572 ที่สัมปทานเดิมรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะหมดลง แล้วหาเงื่อนไขที่ดีที่สุดให้พี่น้องประชาชน มิใช่เลือกขยายสัญญาไปอีก 30 ปี และสิ้นสุดสัญญา ปี 2602 ให้แก่เอกชนรายเดียวและรายเดิม ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรจะชะลอเรื่องออกไปก่อน พร้อมกับเอาเวลาไปเคลียร์ข้อสงสัยต่างๆ อาทิ ที่กระทรวงคมนาคมสงสัยการเก็บค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาท ตลอดสาย เพื่อแลกสัมปทาน ว่าเหมาะสมเป็นธรรมกับประชาชนหรือไม่

ยุทธพงศ์4

ที่ผ่านมาบีทีเอส คืนทุนตลอดอายุสัมปทานเดิมมาหมดแล้ว ขณะที่ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในปัจจุบันเก็บค่าโดยสารตลอดสาย เพียง 42 บาท รวมทั้งควรนำเรื่องเข้าพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เพราะจะได้ทราบข้อเท็จจริง ทรัพย์สินทั้งหมดมีเท่าไหร่ รัฐได้เท่าไหร่ และ เอกชนได้เท่าไร่ รวมทั้งเชื่อว่าหากมีการประมูลใหม่ จะเกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมมากกว่าเพราะเกิดการแข่งขันเกิดขึ้น

“พล.อ.ประยุทธ์ เร่งรีบเรื่องนี้เข้าครม.ในวาระจร และสัปดาห์หน้าทราบว่า จะรีบนำเข้าครม.อีกครั้ง ทั้งที่ยังมีข้อพิรุธและสังคมสงสัยมากกมาย หรือเป็นเพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะตัดสินพ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ในคดีบ้านพักข้าราชการหลังเกษียณอายุราชการ หรือไม่ จึงรีบเร่ง รวมทั้งยังเชื่อว่าเรื่องนี้หากยังดึงดัน จะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนจะออกมาไล่รัฐบาล” นายยุทธพงศ์ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight