Business

กพช.เคาะงบ 6,500 ล้านบาท เดินหน้า ‘โรงไฟฟ้าชุมชน’ เพื่อเศรษฐกิจฐานราก

โรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก กพช. ไฟเขียวใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานปีงบฯ 64 วงเงิน 6,500 ลบ. หาแนวทางใช้รถไฟฟ้าในจยย.รับจ้าง-แท็กซี่

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 2/2563 โดยที่ประชุมได้เห็นชอบโครงการ โรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวทางที่ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เสนอมา

โรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก

สำหรับโครงการนำร่อง โรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก มีเป้าหมาย 150 เมกะวัตต์ (ชีวมวล 75 เมกะวัตต์ ก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์ ) โดยใช้ชีวมวลและก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน ผสมน้ำเสีย/ของเสีย ≤ 25 %) แบ่งเป็นชีวมวล มีปริมาณไฟฟ้าเสนอขายไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ต่อโครงการ และก๊าซชีวภาพ ไม่เกิน 3 เมกะวัตต์ต่อโครงการ

ทั้งนี้ มีกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (SCOD) ภายใน 36 เดือน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาฯ ให้เปิดรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) แบบแข่งขันทางด้านราคา โดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้เสนอโครงการ

ส่วนการแบ่งปันผลประโยชน์ อาทิ การให้หุ้นบุริมสิทธิ ร้อยละ 10 ให้กับวิสาหกิจชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมาย) ซึ่งเป็นผู้ปลูกพืชพลังงานให้แก่ โรงไฟฟ้าชุมชน การให้ผลประโยชน์อื่น ๆ ให้โรงไฟฟ้าและชุมชนทำความตกลงกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เช่น ด้านการสาธารณสุข ด้านสาธารณูปโภค ด้านการศึกษา เป็นต้น

พร้อมกันนี้ กพช. ยังได้เห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญ ของการใช้จ่ายเงิน กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2564 ในวงเงิน 6,500 ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการ กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563

ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้คณะกรรมการกองทุนฯ มีอำนาจปรับปรุงแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญฯ และการจัดสรรเงินตามกลุ่มงานต่าง ๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

นายก 4

แผนอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน กรอบวงเงิน 6,305 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. กลุ่มงานตามกฎหมาย จำนวน 200 ล้านบาท

2. กลุ่มงานสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน จำนวน 500 ล้านบาท

3. กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย นวัตกรรม และสาธิตต้นแบบ จำนวน 355 ล้านบาท

4. กลุ่มงานสื่อสาร และข้อมูล ข่าวสาร จำนวน 200 ล้านบาท

5. กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร จำนวน 450 ล้านบาท

6. กลุ่มงานส่งเสริมการอนุรักษ์ พลังงานและพลังงานทดแทน ในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมขนาดเล็ก (SMEs) อาคาร บ้านอยู่อาศัย ภาคขนส่ง ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่และพื้นที่พิเศษ จำนวน 2,200 ล้านบาท

7. กลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์ พลังงานและพลังงานทดแทน เศรษฐกิจฐานราก จำนวน 2,400 ล้านบาท และแผนบริหารจัดการ ส.กทอ. จำนวน 195 ล้านบาท

ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องกองทุนพลังงาน จะทำอย่างไรให้เกิดความทั่วถึง เป็นธรรมและโปร่งใส และเรื่องการดำเนินการโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะเกษตรกร ถ้าสามารถทำ โรงไฟฟ้าชุมชน จากชีวมวล จากขยะ หรือพลังความร้อน ที่จะสามารถปรับเปลี่ยนการปลูกพืชของเกษตรกรได้ด้วย การทำนาที่ไม่ได้ผลก็อาจปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชพลังงานทดแทน

นายกรัฐมนตรี ยังได้หารือถึงการแก้ปัญหาด้านอื่น ๆ อาทิ การแก้ปัญหาด้านรายได้ การแก้ปัญหาการเผาวัสดุจากการเกษตร จะได้ส่งผลให้ลดการเกิด PM 2.5 ได้ ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการอย่างระมัดระวัง โดยวันนี้มีการจัดทำแผนแม่บทแล้ว

พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำในที่ประชุม ให้หาแนวทางการใช้รถไฟฟ้าในรถจักรยานยนต์รับจ้าง เช่น Grab Bike และอื่น ๆ หรือแท็กซี่ที่ยังมีราคาสูงอยู่ โดยต้องหามาตรการที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้กำลังมีการเจรจาเพื่อจะดึงบริษัทใหม่ ๆ เกี่ยวกับยานยนต์สมัยใหม่ให้เข้ามาในประเทศไทย

“ในเรื่องนี้ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งแผนงานระยะสั้น ระยะปานกลาง 3 ปี ระยะยาว 5 ปีขึ้นไป การจะเปลี่ยนแปลงทันทีเลยนั้นคงไม่สามารถทำได้เพราะจะเกิดผลกระทบมาก”นายกรัฐมนตรี กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo