เปิดคำวินิจฉัยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุสถานะธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)และกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ไม่มีสถานะเป็น “รัฐวิสาหกิจ”
การวินิจฉัยล่าสุดของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อเดือน ต.ค. 2563 หลังจากกองทุนฟื้นฟูฯขอให้วินิฉัยว่ามีฐานเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ รวมทั้งสถานภาพของธนาคารกรุงไทย เนื่องจากคำว่า “รัฐวิสาหกิจ” มีการนิยามในกฎหมายหลายฉบับและมีความแตกต่างกัน
ก่อนหน้านี้ สำนักงานกฤษฎีกาเคยวินิจฉัยแล้วในปี 2543 ว่ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯและธนาคารกรุงไทย มีสถานะเป็น “รัฐวิสาหกิจ” แต่ต่อมามีการปรับปรุงพรบ.ธนาคารแห่งประเทศไทย 2561 และมีการใช้พรบ.วิธีงบประมาณ 2561 และมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำในบทนิยม “รัฐวิสาหกิจ”
ตามมาตรา 4 จาก “องค์การของรัฐบาลหรือหน่วยงานธุรกิจที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ” เป็น “องค์การของรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล กิจการของรัฐ ซึ่งมีกฎหมายจัดตั้งขึ้น หรือหน่วยงานที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ”
กองทุนฟื้นฟู ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา วินิจฉัยใน 3 ประเด็น ดังนี้
- กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ และธนาคารกรุงไทย ซึ่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ถือหุ้นมากกว่า 50% มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่
- กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯและธนาคารกรุงไทย อยู่ภายใต้พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 หรือไม่ เนื่องจากสำนักงานป.ป.ช. แจ้งว่ากรรมการกองทุน ไม่ถือเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ จึงไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
- หากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯหรือธนาคารกรุงไทย ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯจะมอบอำนาจหรือมอบฉันทะให้กระทรวงการคลังใช้สิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของธนาคารกรุงไทยได้หรือไม่ ตามที่กระทรวงการคลังร้องขอและกระทรวงการคลังจะกำกับดูแลธนาคารกรุงไทยได้หรือไม่
คณะกรรมการกฤษฎีกา(คณะพิเศษ) ได้พิจารณาแล้ว มีความเห็น สรุปได้ดังนี้
- กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามคำนิยามพรบ.วิธีการงบประมาณ เช่นเดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งตามพรบ.ธนาคารแห่งประเทศไทย 2561 กำหนดให้ธปท.เป็นหน่วยงานที่ไม่ใช่ส่วนราชการ หรือ รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่น เนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯเป็นหน่วยงานในธปท.
- นอกจากนี้ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯไม่ได้เป็น “หนวยงานรัฐ” ตามพรบ.วิธีการงบประมาณ เนื่องจากไม่ได้รับเงินงบประมาณ หรือ รายจ่ายอุดหนุนจากงบประมาณ เนื่องจากได้รับเงินจากอำนาจหน้าที่ของกองทุนฯเองและได้รับการจัดสรรจากธปท.
- ดังนี้ ธนาคารกรุงไทย ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากกองทุนถือหุ้น 55.07%
- สำหรับประเด็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินนั้น กฤษฎีกาไม่ได้พิจารณาประเด็นนี้ เพราะเห็นว่าต้องปฏิบัติตามประกาศของป.ป.ช.อยู่แล้ว
- ประเด็นเรื่องการมองฉันทะ หรือ มอบอำนาจให้กระทรวงการคลังได้หรือไม่นั้น สามารถดำเนินการได้ให้เป็นไปตามพรบ.มหาชนจำกัด 2535 และการกำกับดูแลนั้นต้องทำผ่านกลไกคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผ๔้ถือหุ้นตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วุ่นแน่! กรุงไทย กฤษฎีกาชี้พ้นสถานภาพรัฐวิสาหกิจ กระทบทั้งธุรกิจ-พนักงาน
- กรุงไทยตั้งบริษัทร่วมทุน อินฟินิธัส รุกหนักธุรกิจดิจิทัล
- ยืนยันตัวตน ‘คนละครึ่ง’ ไม่ผ่าน แก้ไขได้ง่ายๆ ผ่านตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย