ชัอปดีมึคืน กลุ่มไอที หวังช่วยกระตุ้นยอดขายโค้งสุดท้ายปลายปี โดยเฉพาะการเปิดตัวมือถือใหม่ อย่างไอโฟน 12 และดีไวซ์รุ่นใหม่ ที่รองรับเทคโนโลยี 5G
การประกาศมาตรการ ช้อปดีมีคืน ที่มุ่งหวังกระตุ้นการจับจ่ายของกลุ่มคนที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อที่ต้องการกระตุ้นให้จับจ่าย คาดว่า มาตรการ ชัอปดีมึคืน กลุ่มไอที จะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการนี้
นั่นเพราะ โดยปกติแล้ว แม้จะไม่มีมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายจากภาครัฐ ช่วงปลายปี ก็ถือเป็นไฮซิซั่นของการจำหน่ายสินค้าไอทีอยู่แล้ว เหมือนกับหลายๆ กลุ่มสินค้า เนื่องจากช่วงปลายปี เป็นช่วงที่ผู้บริโภคมักจะจับจ่ายสูงกว่าช่วงอื่นๆ ของปี
แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น และส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่าย และระมัดระวังในการควักเงินซื้อสินค้ามากขึ้น จากความไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ การออกมาตรการ ช้อปดีมีคืน จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังที่จะเข้ามากระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจาก การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การเปิดตัวไอโฟน 12 การวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดีไวซ์ รุ่นใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G ที่เริ่มใช้งานเชิงพาณิชย์แล้ว
อานิสงส์จาก มาตรการช้อปดีมีคืน และ ปัจจัยบวกที่เริ่มมองเห็นดัวกล่าว ทำให้คาดการณ์ว่า จะส่งผลดีต่อธุรกิจค้าปลีกไอที ที่คาดหวังว่า จะสามารถกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปีได้มากขึ้น
ทั้งนี้ เห็นได้จากการคาดการณ์ของ นักวิเคราะห์ในตลาดหลักทรัพย์ ที่ต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่า หุ้นกลุ่มค้าปลีกไอที จะได้รับอานิสงส์ จากมาตรการช้อปดีมีคืน
บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยบทวิเคราะห์ว่า บมจ.เจมาร์ท ผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ น่าจะเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับประโยชน์ จากมาตรการ ช้อปดีมีคืน ของภาครัฐ
เช่นเดียวกับ บล.เอเซีย พลัส ที่มองว่า เจมาร์ท เป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick จากพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสเข้า SET100 อีกทั้งเห็นว่า เจมาร์ท เป็นบริษัทเดียวที่เน้นจำหน่ายสินค้าโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก และครอบคลุมทุกแบรนด์ บวกกับมีช่องทางขายในเครือที่หลากหลาย คือ ทั้งหน้าร้าน เจมาร์ท, ลูกตู้ในพื้นที่เช่าไอที จังก์ชั่น ของ ของบมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท ซึ่งถือหุ้น 75% และการขายตรงผ่านช่องทางบมจ.ซิงเกอร์ ประเทศไทย ซึ่งถือหุ้น 30%
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจการเงินในเครือ ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้า ที่มีความต้องการซื้อสินค้ารุ่นใหม่มาใช้ก่อน ตามกระแสความนิยมอีกด้วย
นอกจากเจมาร์ท แล้ว บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ยังเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการค้าปลีกไอที ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ จาก ช้อปดีมีคืน เช่นกัน เห็นได้จากการที่ บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ฯ แนะนำให้เก็งกำไร หุ้นในกลุ่มผู้จำหน่ายอุปกรณ์มือถือและไอที ซึ่งก็มีหุ้น บมจ.คอมเซเว่น (COM7) เป็นตัวหนึ่งที่แนะนำให้เก็งกำไร
ส่วนหนึ่ง นอกเหนือจาก มาตรการ ช้อปดีมีคืน แล้ว เป็นผลมาจากการที่ สินค้าในกลุ่มไอที เป็นกลุ่มที่มีอุปสงค์การใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในยุค New normal สำหรับอุปกรณ์มือถือการเปิดตัวไอโฟนใหม่ และอุปกรณ์ 5G ก็จะเป็นอีกหนึ่งเร่งฝั่งอุปสงค์ด้วย
สำหรับ คอมเซเว่น จะได้อานิสงส์ จากการมีร้านค้าปลีกมากกว่า 700 แห่งในประเทศไทย รวมทั้งการเปิดตัวของ ไอโฟน 12 ซึ่ง คอมเซเว่น มีสัดส่วนยอดขายแบรนด์ แอปเปิล ราว 35% ต่อยอดขายทั้งหมด
นอกจากทั้งสองบริษัทดังกล่าวแล้ว ร้านค้าปลีกไอที รายอื่นๆ ที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ ก็ได้อานิสงส์จาก มาตรการ ช้อปดีมีคืน เช่นเดียวกัน
สำหรับมาตรการ ช้อปดีมีคืน มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภค ในประเทศ โดยสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี และประชาชนผู้ที่มีภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมถึงการส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่น ซึ่งเป็นเศรษฐกิจระดับฐานราก และส่งเสริมการอ่าน อันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
ดังนั้น มาตรการช้อปดีมีคืน นอกจากจะมุ่งกระตุ้นให้เกิดการจับจ่าย เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีแล้ว ยังเน้นการสนับสนุนผู้ประกอบการ ที่อยู่ในระบบภาษี โดยไม่มีข้อกำหนดใด ๆ ในเรื่องขนาด ผู้ประกอบการ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มทุกราย ล้วนแล้วอยู่ในข่ายที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการทั้งสิ้น
มาตรการช้อปดีมีคืน เป็นการใช้เงินตัวเอง ในการซื้อสินค้า จากร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษีฉบับเต็มได้ จากนั้นให้นำใบเสร็จมาลดหย่อนภาษีในปีหน้า โดยสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ในวันที่ 23 ตุลาคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 นี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ช้อปดีมีคืน’ กับ ‘คนละครึ่ง’ ถ้ามีสิทธิทั้งคู่ เลือกอะไรดี อ่านที่นี่!
- ‘ช้อปดีมีคืน’ รายได้ปีละ! 2 ล้าน พร้อมใช้สิทธิเต็ม 30,000 บาท ค้าปลีกได้เต็มๆ
- ‘ช้อปดีมีคืน’ ซื้ออะไร ‘ลดหย่อนได้-ไม่ได้’ พร้อมเรื่องควรรู้ อ่านที่นี่
