เปิดโผ 10 อันดับหุ้นพื้นฐานเด่น สแกนจาก 10 บริษัทที่มีคะแนน Jitta Score สูงที่สุด ผู้ลงทุนสามารถ ใช้ประกอบการพิจารณาคุณภาพของหุ้นกันได้
วันนี้อยากจะชวนทุกคนมารู้จักหนึ่งในเครื่องมือดีๆ สำหรับสแกนหาหุ้นแกร่งน่าลงทุนอย่าง “Jitta Score” ที่พัฒนาขึ้นโดย จิตตะ ดอท คอม สตาร์ทอัพ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้นแบบเน้นคุณค่าตามแนวคิดของวอร์เรน บัฟเฟตต์ โดยใช้นวัตกรรม AI เข้ามาเป็นคัดกรองบริษัทยอดเยี่ยมในราคาที่เหมาะสม
ปกติแล้วผมใช้ Jitta Score เป็นตัวช่วยเพื่อวิเคราะห์พื้นฐานธุรกิจที่ดีอย่างสม่ำเสมอ โดยมีการใช้ big data จากงบการเงินย้อนหลัง 10 ปี แล้วแปลงผลออกมาเป็นคะแนน 0 – 10 ยิ่งคะแนนสูงเท่าไหร่ แสดงว่าบริษัทยิ่งมีพื้นฐานดีสม่ำเสมอ ซึ่งการวิเคราะห์แบ่งออกเป็น 5 มิติสำคัญ ดังนี้
1. Brand Advantages คือ บริษัทขายสินค้าหรือบริการที่คนจำนวนมากต้องการ มีแบรนด์ที่เข้มแข็ง สามารถขึ้นราคาสินค้าได้เรื่อยๆ ทำให้เพิ่มรายได้และกำไรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องระยะยาว
ปัจจัยในการวิเคราะห์
– รายได้และยอดขายเติบโตขึ้นทุกปี และเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
– อัตรากำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
– อัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าคู่แข่ง และค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
2. Economies of Scale คือ บริษัทควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าคู่แข่ง ยากที่คู่แข่งใหม่ๆ จะเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดได้
ปัจจัยในการวิเคราะห์
– อัตรากำไรต่างๆ เช่น gross profit margin, operating margin และ net profit margin เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
– อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร/ยอดขาย (SG&A/sales) คงที่หรือลดลง และควรน้อยกว่าคู่แข่ง
3. Cash Flow คือ บริษัทมีรายรับเป็นเงินสด มีเงินทุนหมุนเวียนในกิจการสูง สามารถขยายธุรกิจได้โดยใช้เงินลงทุนน้อยมาก และมีแผนขยายกิจการที่ชัดเจน
ปัจจัยในการวิเคราะห์
– กระแสเงินสดจากการดำเนินการ (cash from operating activities) มากกว่าอัตรากำไรสุทธิ
– วงจรเงินสด (cash conversion cycle) ยิ่งน้อยยิ่งดี และน้อยกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
– รายจ่ายลงทุน (CapEx) ต่ำกว่ากระแสเงินสด และต่ำกว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) อย่างสม่ำเสมอ
4. Financial Stability คือ บริษัทมีฐานะทางการเงินมั่นคง ไม่สร้างหนี้สินและกู้เงินมาลงทุนมากจนเกินศักยภาพทำกำไร มีทรัพย์สินในส่วนของผู้ถือหุ้นมาก
ปัจจัยในการวิเคราะห์
– หนี้ระยะยาว (long-term debt) ต่ำ
– อัตราส่วนหนี้สินระยะยาว/ส่วนผู้ถือหุ้น (shareholder equity)
– อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (debt/equity) ควรลดลงเรื่อยๆ
– อัตราส่วนหนี้สินต่อกระแสเงินสด และหนี้สินต่อกำไร ยิ่งน้อยยิ่งดี
– ส่วนของผู้ถือหุ้นควรจะเพิ่มขึ้นทุกปี
5. Shareholders’ Wealth คือ ผู้บริหารมีมุมมองเดียวกับผู้ถือหุ้น ต้องการเพิ่มความมั่งคั่งให้ผู้ถือหุ้นตลอดเวลา ผ่านการลงทุนขยายกิจการ จ่ายปันผล และซื้อหุ้นคืนอย่างสม่ำเสมอ
ปัจจัยในการวิเคราะห์
– ความสามารถในการทำธุรกิจ
– ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ
– ผลประโยชน์ที่มอบให้ผู้ถือหุ้น เช่น เงินปันผลสม่ำเสมอ, จ่ายเงินปันผลมากกว่าเงินเฟ้อ, จ่ายปันผลสอดคล้องกับกำไรธุรกิจ
– ธุรกิจมีการซื้อหุ้นคืน
ทั้งนี้ ทุกคนสามารถนำ indicator ดังกล่าว ไปใช้ประกอบการตัดสินใจ และวิเคราะห์หุ้นที่เข้าข่ายด้วยตัวเองได้เลย แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลา หรือเพิ่งเริ่มอ่านงบการเงิน เพื่อให้ง่ายขึ้นต่อการลงทุน วันนี้เราจึงสแกน 10 บริษัทที่มีคะแนน Jitta Score สูงที่สุดมาให้แล้ว (อัปเดตข้อมูลการวิเคราะห์ ณ เดือน ส.ค. 63)
ลองนำข้อมูลที่เรารวบรวมมาฝากนั้น สามารถใช้ประกอบการพิจารณาคุณภาพของหุ้นกันได้ แล้วค่อยมาเจาะลึกเข้าไปดูงบการเงินของหุ้นรายตัวต่อไป ประกอบกับการพิจารณาว่าราคาหุ้นเหมาะสมที่จะเข้าซื้อแล้วหรือยัง นอกจากนี้ สามารถเข้าไปสำรวจคะแนนของหุ้นอื่นๆ เพิ่มได้ที่ https://www.jitta.com/
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ตลาดหุ้นไทยหมดเสน่ห์แล้ว … จริงไหม
- ‘JKN’ เซอร์ไพรส์ตลาด ราคาหุ้นพุ่งแรง
- เปิดกลยุทธ์ ‘4 หุ้นไทย’ ปรับแผนแก้วิกฤติอย่างไร