Business

ภูเก็ตส่อวุ่น! นักท่องเที่ยวไทยหนีกินเจ หลังเปิดรับต่างชาติ หวั่นสูญ 200 ล้าน

นักท่องเที่ยวไทยหนีกินเจภูเก็ต เหตุเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อยากให้เปิดรับนักท่องเที่ยวชาติหลังเทศกาลกินเจ ด้าน ททท.ยอมรับ ประเด็นอ่อนไหว อาจกระทบได้

จากมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ อาจกลายเป็นดาบสองคม ที่ส่งผลกระทบกลับมาถึงคนไทยที่ยกเลิกการท่องเที่ยว ในแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติไป จากความหวาดระแวงโควิด-19 ซึ่ง ภูเก็ตเป็นหนึ่งในจังหวัดที่เริ่มเกิดปัญหาดังกล่าว เมื่อเกิดกระแสข่าว นักท่องเที่ยวไทยหนีกินเจภูเก็ต

นักท่องเที่ยวไทยหนีกินเจภูเก็ต

ทั้งนี้ จากเป้าหมายพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ด้วยการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาประเทศไทยในโครงการ เปิดประเทศอย่างจำกัดด้วย Special Tourist Visa (STV) โดยจะเริ่มจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทริปแรกจะเป็นกลุ่มคนจีน เดินทางด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ 150 คน ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้

ประเด็นดังกล่าว ทำให้เกิดความเห็นไม่ตรงกันของคนในพื้นที่ เนื่องจากช่วงวันที่ 17-25 ตุลาคม ตรงกับเทศกาลกินเจ ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของจังหวัดภูเก็ต และมีคนไทยจองที่พักโรงแรม เพื่อไปท่องเที่ยวและร่วมงานดังกล่าวจำนวนมาก แต่หลังจากทราบข่าวว่า จะมีต่างชาติเข้ามา ส่งผลให้ส่วนหนึ่งเกิดความหวาดระแวง กลัวการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเริ่มเห็นการยกเลิกจองโรงแรมแล้ว

ขณะที่ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ มีการแสดงความเห็นจากประชาชนว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะมาหลังวันที่ 25 ตุลาคม เนื่องจาก ช่วงระหว่างวันที่ 17-25 ตุลาคม คนไทยจำนวนมาก จะเข้ามาเที่ยวงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต หลังจบงานนี้น่าจะเริ่มให้ต่างชาติเข้าเกี่ยวกับการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา

ผู้ว่าภูเก็ต
ณรงค์ วุ่นซิ้ว

ทั้งนี้เพราะเปิดให้ต่างชาติเข้ามาช่วงนี้ จะส่งผลกระทบให้คนไทย ที่จองห้องพักต่าง ๆ ล่วงหน้าเข้ามาช่วงกินเจ ซึ่งททท.สำนักงานภูเก็ตคาดว่าเงินจะสะพัดถึง 200 ล้านบาท อาจจะยกเลิกไม่กล้าเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต

“ขอฝากถึงชาวไทยทั่วประเทศว่า วันที่ 17-25 ตุลาคม นี้ จังหวัดภูเก็ตมีงานสำคัญ คือ งานประเพณีถือศีลกินผัก เป็นงานบุญและเป็นงานที่มาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต วันนี้ภูเก็ตมีธรรมชาติสวยงามมีอาหารการกินที่อร่อย พร้อมรอรับพี่น้องชาวไทย มาเยือนจังหวัดภูเก็ต”นายณรงค์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) จังหวัดภูเก็ต ได้ประชุมพิจารณาการเตรียมความพร้อมการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาพำนักในประเทศไทย ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อโควิด19 ทั้งการจัดเตรียม และจัดระเบียบรถรับผู้เดินทาง การซักซ้อมจำลองสถานการณ์จริง ก่อนรับผู้เดินทางเข้ามาเพื่อปิดจุดอ่อนได้ทัน ซึ่ง การบริหารจัดการรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตจะเป็นแม่แบบให้กับจังหวัดสุราษฏร์ธานีต่อไป

ภูเก็ต 1

สำหรับการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อโควิด-19 ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 30 กันยายน 2563 มีจำนวนผู้เดินทางที่ผ่านการคัดกรอง อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ 765,147 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ 1,129,571 คน รวม 1,894,718 คน

พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯ ภูเก็ตยืนยันว่า การที่จะนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา เป็นการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต ขณะเดียวกันก็ตระหนักและให้ความสำคัญการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รอบที่ 2 เป็นอย่างมาก ดังนั้น มาตรการทุกอย่างจึงดำเนินการอย่างเข้มข้น และเคร่งครัดมากตามข้อสั่งการของ ศบค.

ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ภูเก็ตเป็นพื้นที่อ่อนไหว กรณีที่มีผู้ประกอบการภูเก็ต ร้องเรียนว่าความล่าช้าของการต่ออายุโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้อัตราการจองของโรงแรม เริ่มขยับลดลงนั้น อาจไม่ได้เกิดจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่อาจจะเกิดจาก การตัดสินใจเปิดประเทศอย่างจำกัดด้วย Special Tourist Visa (STV) ที่มี ภูเก็ตเป็นหนึ่งในพื้นที่ รับนักท่องเที่ยวระหว่างกักตัว ALSQ

ยุทธศักดิ์ สุภสร
ยุทธศักดิ์ สุภสร

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านโครงการฯ จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข 3 ข้อ ได้แก่ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มข้น ปฏิบัติตามมาตรฐานเดียวกับ คนไทยที่กลับจากต่างประเทศ และจะต้องได้รับความยินยอมจากคนในพื้นที่ พร้อมทั้งจะต้องผ่านการกักตัว 14 วันในโรงแรม ASQ หรือ ALSQ ที่ขณะนี้มีจำนวนกว่า 80 แห่งในหลายจังหวัด อาทิ กรุงเทพ บุรีรัมย์ ภูเก็ต ปราจีนบุรี และชลบุรี ที่มีความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรกในเดือนตุลาคมนี้

สำหรับความคืบหน้าโครงการเปิดประเทศอย่างจำกัดด้วย Special Tourist Visa (STV) ในเดือนแรก คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 200-300 คน ไม่เกิน 1,200 คนต่อเดือน ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดโควิด-19 (ศบศ.) กำหนด

ขณะที่การเปิดประเทศ ต้อนรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติ มีเป้าหมายเพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจไทย แต่ะต้องให้ความสำคัญ และสร้างสมดุลไปกับมาตรการด้านสาธารณสุขด้วย และเนื่องจากตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย พึ่งพิงตลาดต่างประเทศอย่างสูง จึงต้องใช้กลยุทธ์ “ปลาเร็ว” เปิดประเทศเริ่มโครงการนำร้อง เพื่อสร้างความมั่นใจ และหวังว่าในปี 2564 จะสามารถเปิดรับต่างชาติได้ในจำนวนที่มากขึ้นภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 และมาตรฐานด้านสาธารณสุข

“ขอย้ำอีกครั้งว่า ททท.ไม่ได้เร่งรีบในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะในกระบวนการเปิดประเทศอย่างจำกัด จะเน้นไปที่นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำ ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ต่อเนื่องอย่างน้อย 28 วัน และจะไม่ทำให้ประเทศไทยมีตวามเสี่ยงในการกลับมาติดเชื้อโควิด-19 ระลอก 2 ในประเทศอย่างแน่นอน”นายยุทธศักดิ์ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo