Business

ขอสินเชื่อบ้าน ต้องรู้! 5 เรื่องสำคัญก่อนยื่นกู้แบงก์

ขอสินเชื่อบ้าน ธอส. แนะ 5 เรื่องสำคัญต้องรู้ ทั้งสินเชื่อบ้านเบื้องต้น สุขภาพการเงิน ดอกเบี้ย ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
 และ รู้จักวิธีบริหารหนี้สิน และการผ่อนชำระ

“บ้าน” เป็นความฝันของคนหลายคน แต่หลังจากเลือกบ้านที่ถูกใจ สไตล์ที่ชอบ และทำเลที่ต้องการได้แล้ว เรื่องที่ตามมา เห็นจะหนีไม่พ้นการ ขอสินเชื่อบ้าน ซึ่งหมายถึง การกู้ยืมเงินก้อนใหญ่ จากธนาคาร

ขอสินเชื่อบ้าน

แน่นอนว่า การวางแผนซื้อบ้าน เป็นเรื่องใหญ่ ที่ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ แต่ถ้าเรามีความรู้ เตรียมตัวก่อนอย่างดี การอนุมัติสินเชื่อ ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป และการผ่อนชำระที่แสนยาวนาน อาจจะไม่ได้เป็นภาระอย่างคิด

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แนะนำ 5 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนขอสินเชื่อบ้านมีอะไรบ้าง

  • รู้เรื่องสินเชื่อบ้านเบื้องต้น

สำหรับมือใหม่ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ซื้อบ้าน เมื่อถึงเวลาศึกษาข้อมูล เพื่อขอสินเชื่อ หากคุณไม่มีความรู้พื้นฐานด้านการเงิน ที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อมาก่อน อาจรู้สึกว่าการขอสินเชื่อเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก

สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ สินเชื่อบ้าน หมายถึง เงินกู้ที่ทางสถาบันการเงิน ปล่อยให้สำหรับการซื้อ สร้างที่อยู่อาศัย โดยจำนวนเงิน ที่ผู้ขอกู้จะได้ ตามที่ธนาคารประเมินให้ จะเรียกว่า “วงเงิน”

เมื่อถึงคราวที่ต้องชำระเงินคืน ก็จะมี “เงินต้น” หรือจำนวนเงินจริงๆ ที่ผู้กู้ยืมไป กับ “ดอกเบี้ย” หรือเงินส่วนที่ธนาคารคิดเพิ่มเติมที่ผู้กู้ต้องชำระเป็น “งวด ๆ” ซึ่งโดยมากรอบงวด คือ ทุก ๆ 1 เดือน ตลอดระยะเวลากู้ ซึ่งยาวนานตั้งแต่ 10 – 30 ปี หรือสูงสุดถึง 40 ปี

นอกจากนี้ ยังมีศัพท์เกี่ยวกับการกู้สินเชื่อบ้านอีกหลายคำ ที่มือใหม่ควรทำความเข้าใจก่อน เพื่อให้คุณสามารถดำเนินการขอสินเชื่อไปได้ อย่างราบรื่น

  • รู้สุขภาพการเงิน

สถานะการเงิน มีผลต่อการขอสินเชื่ออย่างมาก รายได้และภาระหนี้ สามารถใช้ประเมินได้ว่า คุณจะได้วงเงินสินเชื่อเท่าไหร่ ต้องผ่อนชำระต่อเดือน มากน้อยแค่ไหน ซึ่งโดยทั่วไป เงินที่ใช้ผ่อนชำระรายเดือน ไม่ควรเกิน 30 – 40% ของรายได้ (ขึ้นอยู่กับอาชีพ และความมั่นคงของรายได้)

money ๒๐๑๐๐๓

การตรวจสอบความพร้อมฐานะทางการเงิน สามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ได้ดังนี้ ประเมินรายได้ ตรวจสอบค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน สินเชื่อที่กำลังผ่อนชำระ รวมถึงหนี้คงค้างบัตรเครดิต

ทั้งนี้ สามารถยื่นขอตรวจสอบข้อมูล จากศูนย์ข้อมูลเครดิตบูโร (Credit Bureau) เพื่อแสดงหนี้สินปัจจุบัน และประวัติการผิดชำระ เพื่อให้เห็นภาพรวมเครดิตได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถคำนวณสินเชื่อเพื่อประมาณการยอดผ่อนต่อเดือน สำหรับวางแผนก่อนได้

นอกจาก การตรวจสุขภาพการเงิน แล้ว การออมเงินก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการซื้อบ้านนั้น มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น ค่าตกแต่งบ้าน ค่าส่วนกลาง ค่าประกัน การที่มีเงินดาวน์ นอกจากจะสามารถเพิ่มโอกาสการอนุมัติสินเชื่อแล้ว ยังช่วยลดภาระต่อตัวเองได้อีกด้วย

  • รู้เรื่องดอกเบี้ย

ดอกเบี้ย คือ เงินที่ผู้กู้ จะต้องชำระให้กับผู้ให้กู้ เพิ่มเติมจากเงินต้นที่กู้มา สำหรับสินเชื่อบ้าน ถือเป็นสินเชื่อที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด และมีวิธีคำนวณดอกเบี้ย ที่ต่างจากสินเชื่อประเภทอื่น เพื่อให้ผู้กู้ยืม สามารถผ่อนชำระหนี้ซึ่งอาจเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่สุดก้อนนี้ได้

วิธีคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อซื้อบ้านนั้น โดยทั่วไปธนาคารจะใช้วิธีการคำนวณแบบ “ลดต้นลดดอก” (Effective Rate) หมายถึง การคิดดอกเบี้ย ตามจำนวนเงินต้นที่เหลืออยู่ เท่ากับว่า เมื่อชำระเงินกู้ไปเรื่อย ๆ ยอดเงินต้นก็จะลดลง ส่งผลให้สัดส่วนดอกเบี้ยที่จ่ายลดลง ในแต่ละงวด ดังนั้น หากคุณชำระเงินเกินงวด เพื่อตัดเงินต้นเป็นประจำ ก็จะช่วยให้คุณปลดหนี้ได้ไวขึ้น

ทั้งนี้ วิธีการคิดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารก็จะมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน ได้แก่

อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ย ที่มีการกำหนดตัวเลขแน่นอน มักจะกำหนดในช่วง 1-3 ปีแรกในการผ่อน ทำให้ทราบจำนวนที่ต้องจ่ายอย่างแน่นอน สามารถวางแผนการเงินล่วงหน้า และควบคุมค่าใช้จ่ายได้

อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ย ที่มีการเปลี่ยนแปลงตามข้อกำหนดแต่ละธนาคาร ปรับขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาดการเงิน ไม่สามารถกำหนดได้ และอาจจะแตกต่างกัน ขึ้นกับความเสี่ยงของผู้กู้

สำหรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มักจะใช้อัตราดอกเบี้ย MRR และ MLR เป็นหลัก เมื่อจะกู้สินเชื่อบ้านจึงควรพิจารณาเลือกวิธีการคิดอัตราดอกเบี้ย ให้เหมาะสมกับความสามารถในการบริหารเงิน

article06 image1

  • รู้จักผลิตภัณฑ์สินเชื่อ

เนื่องจากสถาบันการเงิน มีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่หลากหลายประเภท เพื่อตอบโจทย์ทุกเรื่องบ้าน โดยสินเชื่อบ้านโดยทั่ว ๆ ไป เช่น สินเชื่อเพื่อซื้อสร้างที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อต่อเติม ซ่อมแซมบ้าน หรือสินเชื่อเพื่อตกแต่งหรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ แต่ละสถาบันการเงิน ก็มีโครงการสินเชื่อบ้านที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะกับโจทย์ของผู้กู้ หรือแผนการชำระเงินของผู้กู้ เพราะโครงการสินเชื่อแต่ละโครงการ จะมีลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างกัน เช่น เงื่อนไข โปรโมชั่น วิธีคิดอัตราดอกเบี้ย การลดหย่อนค่าธรรมเนียมบางประการ เป็นต้น ซึ่งผู้กู้สามารถนำแต่ละโครงการมาเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้

  • รู้จักวิธีบริหารหนี้สินและการผ่อนชำระ

การรู้จักบริหารหนี้สิน ถือเป็นวินัยข้อสำคัญ เพราะการชำระเงินกู้ให้ตรงเวลา ไม่ได้เพียงแสดงถึงความรับผิดชอบของผู้กู้เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการตัดปัญหาเรื่องประวัติติดค้างการชำระหนี้ ในเครดิตบูโร ซึ่งสามารถส่งผลต่อความยากง่าย หรือโอกาสอนุมัติเงินกู้

เทคนิคที่จะช่วยให้สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดนั้น อาจจัดทำแผนรายจ่ายประจำเดือนว่า ในแต่ละเดือนมีรายจ่ายจำเป็นอะไรบ้าง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต และแน่นอนว่าค่าผ่อนชำระหนี้รายเดือน ซึ่งสามารถเลือกช่องทางชำระหนี้ได้หลายช่องทางตามสะดวก หรือจะเลือกวิธีที่สะดวก และได้ผลมากที่สุด คือ ตั้งระบบตัดบัญชีเพื่อจ่ายค่างวดในแต่ละเดือน แบบอัติโนมัติก็ได้

ปัญหาเรื่องสินเชื่อบ้าน ที่เคยคิดว่ายุ่งยากซับซ้อน หากค่อย ๆ ทำความเข้าใจจากเรื่องพื้นฐานก่อน ว่าอะไรคืออะไร เตรียมตัวด้านการเงินอย่างไร รู้จักเรื่องดอกเบี้ยและประเภทสินเชื่อ ตลอดจนการวิธีผ่อนชำระ คุณก็พร้อมที่จะเรียนรู้ขั้นตอนต่อไปสำหรับการขอกู้สินเชื่อได้ไม่ยาก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo