อินเด็กซ์ ปั้นโมเดลใหม่ยุคโควิด ผนึกพันมิตร สตาร์ทอัพ เฮลท์เทค ปั้นแบรนด์ “ANYA MEDITEC” ปรับโฉมโรงแรมเป็นโรงพยาบาล เจาะเทรนด์เฮลท์แคร์ระดับไฮเอนด์
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อินเด็กซ์ ปั้นโมเดลใหม่ยุคโควิด มาอย่างต่อเนื่อง หลังจากธุรกิจอีเว้นท์ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
ที่ผ่านมา อินเด็กซ์ ได้เปิดธุรกิจ พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อ ภายใต้แบรนด์ KILL & KLEAN จนกลายเป็นผู้นำ LEADER HYGIENIC SOLUTION ของประเทศไทย และแม้ว่าวิกฤติโควิด-19 จะคลี่คลายลง แต่แนวโน้มเศรษฐกิจ ยังเผชิญความไม่แน่นอนสูง จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในบางประเทศที่ยังรุนแรง ซึ่งจะทำให้การเปิดพรมแดนระหว่างประเทศของไทยคงเกิดขึ้นอย่างจำกัด ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมหดตัวลง 100%
อย่างไรก็ตาม ในภาวะวิกฤติโควิด แต่ประเทศไทย สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาดจนได้รับการยอมรับในระดับโลก ส่งผลให้ธุรกิจเฮลท์แคร์ หรือธุรกิจสุขภาพในไทยมีการเติบโตมากขึ้น ตามแนวโน้มวิถีใหม่ ที่ผู้คนใส่ใจกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น
ประกอบกับนโยบาย เมดิคัล ฮับ ที่รัฐบาลและเอกชน พากันเร่งขับเคลื่อน ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดูแล รักษาสุขภาพ เติบโตสวนทิศทางเศรษฐกิจอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงธุรกิจโรงพยาบาล
จากแนวโน้มที่เกิดขึ้น ทำให้ อินเด็กซ์ มองเห็นโอกาส ที่จะร่วมฟื้นฟูธุรกิจโรงแรมในไทย ด้วยการจับโอกาสด้านสุขภาพ ใส่ในโรงแรม เพื่อขยายฐานการให้บริการของโรงแรม ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในชีวิตวิถีใหม่ ด้วยการพัฒนาแบรนด์ “ANYA MEDITEC” ขึ้น
สำหรับ ANYA MEDITEC เป็นการร่วมมือกับพันธมิตรสตาร์ทอัพ ด้านเฮลท์เทค ได้แก่ บริษัท ดูเรียน คอร์ปปอเรชั่น (Durian Corp), บริษัทนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ เรสท์ เมดิคอล (ประเทศไทย) และผู้มีประสบการณ์จากโรงพยาบาลเอกชนนานกว่า10 ปี รวมถึงกลุ่มโรงแรม
กลยุทธ์ของ ANYA MEDITEC คือ การนำแนวคิด “Bring Hospital to Hotel” ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงระหว่าง โรงพยาบาล + โรงแรม + เทคโนโลยี นำบริการตรวจรักษา ดูแล บริการด้านการแพทย์ ไปให้บริการในโรงพยาบาล โดย ANYA MEDITEC จะเข้าไปบริหารจัดการวางแผนธุรกิจและวางระบบให้ ตั้งแต่เริ่มต้นกับโรงแรม เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และฟื้นฟูการท่องเที่ยว
สิ่งที่โรงแรมจะได้จากการมาเป็นพันธมิตร คือ การเกิดโอกาสในการขยายตัวทางธุรกิจมากขึ้น เช่น ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่ใช่แค่ลูกค้าที่มาพักผ่อนจากการท่องเที่ยว แต่เป็นกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทำให้จำนวนการพักค้างคืนเพิ่มขึ้น ทางโรงแรมได้ใช้ Service / Facilities ของโรงแรมอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
ตัวอย่างของบริการทางการแพทย์ ของ ANYA MEDITEC ได้แก่ การทดสอบประสิทธิภาพในการนอน (Sleep Test) การตรวจสุขภาพ (Health Check) เป็นต้น โดยโรงแรมสามารถต่อยอด สร้างแพ็คเกจให้ตอบโจทย์กับทางบริการของโรงพยาบาล เช่น คลาสสอนออกกำลังกายสำหรับคนเป็นออฟฟิตซินโดรม, คลาสนอนอย่างมีคุณภาพ ผ่านการ Meditation เป็นต้น
ปัจจุบัน ANYA MEDITEC ได้เริ่มเปิดให้บริการแบบทดลองแล้ว ในโรงแรม 2 แห่ง คือ โรงแรมชาเทรียม และโรงแรมสุโขทัย พร้อมทั้งวางเป้าหมายเพิ่มพันธมิตรโรงแรมให้ได้ 10 แห่งใน 2 เดือนแรก ก่อนเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง ในปี 2564 พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้ปีแรก 100 ล้านบาท
“ธุรกิจบริการสุขภาพ ยังมีช่องว่างมหาศาล เป็นน่านน้ำสีคราม (Blue Ocean) ถือเป็นเทรนด์ธุรกิจ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก จึงคาดว่าโมเดลธุรกิจใหม่นี้จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจโรงแรมเติบโตไปพร้อมเทรนด์ความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคหลังโควิด-19″นายเกรียงไกรกล่าว
ขณะที่ในประเทศไทย มีการใช้จ่ายด้านสุขภาพมูลค่า 4 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี คาดว่าในอีก 15 ปีข้างหน้าเมื่อไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย จะมีการใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มเป็น 1.4-1.8 ล้านล้านบาท รวมถึงตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่มีมูลค่าราว 1.4 แสนล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวด้านสุขภาพเข้ามารับบริการ (Medical tourism) 3.42 ครั้ง
ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมในไทย มีโรงแรมทั่วประเทศประมาณ 32,564 แห่ง มีห้องทั้งหมด1,254,168 ห้อง มีพนักงานรวม 1,630,419 คน โดย 95% ของโรงแรมทั้งหมด ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนต้องปิดกิจการไปแล้ว 158 แห่ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เดลี่พาส’ ลุยธุรกิจแนวใหม่ ‘ตั๋วหนึ่งวัน’ ใช้ชีวิตในโรงแรมหรู
- ‘เซ็นทรัล’ จับมือ ‘บำรุงราษฏร์’ ยกห้างเข้าโรงพยาบาล
- เร่งโรงแรมไทย ยกระดับมาตรฐาน คว้า SHA รับ ‘ท่องเที่ยววิถีใหม่’
