Business

‘เกษตร 4.0’ ลุยตั้ง ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะด้าน 35 สาขา

เกษตร 4.0 กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย ตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะด้าน 35 สาขา 130 แห่ง พร้อมรายงานผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการ 4 คณะ ทำงานรุดหน้า

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การดำเนินนโยบายขับเคลื่อน เกษตร 4.0 ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center : AIC) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานคัดเลือกศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะด้าน (Center of Excellence) เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา

เกษตร 4.0

ทั้งนี้ คณะทำงานคัดเลือกศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะด้าน มีนายยุคล ลิ้มแหลมทอง เป็นประธานฯ มีหน้าที่พิจารณากำหนดสาขา ของศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะด้าน และคัดเลือกสถาบันการศึกษาที่ควรเป็นศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะด้าน

คณะทำงานดังกล่าว ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563 โดยคัดเลือกศูนย์ความเป็นเลิศ 35 สาขา 130 แห่ง อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ประมงทะเล เกลือทะเล เป็นต้น โดยแบ่งประเภทศูนย์ความเป็นเลิศ AIC เป็นแบบครบวงจร และ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี

นอกจากนี้ ในการขับเคลื่อนนโยบายเกษตร 4.0 สู่ยุคดิจิทัลทรานสฟอร์มเมชั่น ภายใต้การนำของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 4 คณะ พร้อมรายงานผลการดำเนินงาน ดังนี้

  • อนุกรรมการขับเคลื่อน Big Data และ Gov Tech

มีการขยายความร่วมมือ กับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการ แลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตร รวมทั้งร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะได้ข้อมูล สำหรับการดำเนินนโยบายสนับสนุน หรือแก้ไขปัญหา ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว

ขณะที่ ธปท. จะสามารถใช้ข้อมูล เพื่อติดตามภาวะเศรษฐกิจการเกษตร อันนำไปสู่ มาตรการทางด้านการเงิน ที่มีประสิทธิภาพ ในส่วนของการดำเนินงานแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง สำหรับประชาชน มีแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง สำหรับประชาชน รวมทั้งสิ้น 175 บริการ ซึ่งเป็นดิจิทัล 90 บริการ

อลงกรณ์ พลบุตร
อลงกรณ์ พลบุตร
  • คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรอัจฉริยะ

การจัดประชุมเชิงปฏิบัติ “การจัดทำแผนปฏิบัติการเกษตรอัจฉริยะ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฉบับสมบูรณ์)” เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ ของแผนปฏิบัติการเกษตรอัจฉริยะ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคเกษตรกร ร่วมประชุม ให้ข้อคิดเห็น และจัดทำข้อเสนอโครงการ

ทั้งนี้ ประกอบด้วย หน่วยงานหลัก 4 ด้าน คือ ด้านการวิจัย, ด้านการส่งเสริมพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี, ด้านงบประมาณ และด้านการพัฒนาเกษตรกร เป็นการวางรากฐาน การเกษตรอัจฉริยะ ของประเทศอย่างเป็นระบบ โดยมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลัก ในการบูรณาการความร่วมมือ ในการขับเคลื่อน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นแนวทาง ในการขับเคลื่อนเกษตรอัจฉริยะ ของประเทศไทยต่อไป

  • คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน E-Commerce

เตรียมจัดทำแผนการพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์อย่างยั่งยืน จัดทำโครงการ The Local Hero เพื่อสร้างกลุ่มเกษตรชุมชน ให้สามารถจำหน่ายสินค้าของตนเองได้ โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ทุกอำเภอ มีทีมขายสินค้า จากการขายออฟไลน์สู่ออนไลน์ พร้อมผลักดันศูนย์ AIC ทั้ง 77 แห่ง เป็นแกนในการรวบรวมข้อมูลสินค้าเกษตร ข้อมูลผู้ซื้อ ข้อมูลผู้ขาย รวมถึงเพิ่มความรู้ให้พี่น้องเกษตรกร ปูทางสู่การทำ super App เป้าหมาย ตลาดทำผลิต

  • คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนธุรกิจเกษตร (Agribusiness)

ได้ทำความร่วมมือกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเชื่อมโยงงานเข้าด้วยกัน จัดทำหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อใช้ในการฝึกอบรม โดยให้ความสำคัญกับเกษตรกร ที่ประสบปัญหาหนี้สิน จำนวนมาก เกษตรกรที่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก ที่ยังขาดองค์ความรู้การเงิน

ทางคณะอนุกรรมการฯ จะนำทีมธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ดูแลภาระหนี้ครัวเรือน มาทำงานร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่ม young smart farmer หรือกลุ่ม AIC เป็นกลุ่มที่มีองค์ความรู้การประกอบธุรกิจ หรือเป็นกลุ่ม SMEs กลุ่มเหล่านี้จะเป็นการช่วยเหลือองค์ความรู้ด้านการระดมทุน การวางแผนธุรกิจ หรือการจดทะเบียนบริษัท ในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทางศูนย์ AIC จะประสานกับคณะอนุกรรมการ เพื่อเชื่อมโยงกับทีมตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการอบรม กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่ม High end ที่สามารถมีธุรกิจขนาดใหญ่ จะเป็นเรื่ององค์ความรู้ด้านตลาดหลักทรัพย์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo