มหกรรมหนังสือฯ ปรับรับสถานการณ์ จัดงานไฮบริดอีเว้นท์ ทั้งออนกราวด์ ที่เมืองทองธานี และออนไลน์ ยันเข้มมาตรการปลอดภัย คาดรายได้สะพัด 200 ล้านบาท
นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่าส่งผลให้งาน สัปดาห์หนังสือฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาต้องพลิกเกม จัดในรูปแบบออนไลน์ แต่จากสถานการณ์ที่เริ่มคลี่คลาย จึงปรับรูปแบบการจัดงาน มหกรรมหนังสือฯ อีกครั้ง
ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้นำรูปแบบ ไฮบริดอีเว้นท์ มาใช้กับการจัดงาน มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 โดยเป็นการจัดพร้อมกัน ทั้งออนกราวด์และออนไลน์ ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 11 ตุลาคม นี้ ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และ www.thaibookfair.com โดยมีสำนักพิมพ์เข้าร่วม 746 บูท คาดมีผู้เข้าชมงานทั้งสองรูปแบบ ไม่น้อยกว่า 900,000 คน สร้างรายได้สะพัด 200 ล้านบาท
สำหรับการจัดงาน มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 (Book Expo Thailand 2020) ภายใต้แนวคิด Noกองดอง ใช้กลยุทธ์การตลาดย้อนกลับ หรือ Reverse Marketing โดยกระตุกความคิดคน ให้หันกลับมาสนใจในการอ่านมากยิ่งขึ้น ผ่านคอนซ็ปต์ Noกองดอง เนื่องจากนักอ่าน จะเข้าใจเป็นอย่างดีว่า การดองหนังสือเป็นพฤติกรรมปกติที่เกิดขึ้น โดยจะซื้อหนังสือที่ชอบเอาไว้ก่อน มีเวลาอ่านเมื่อไรค่อยว่ากันทีหลัง
แต่แคมเปญของ สมาคมฯ อยากให้คนหันกลับมามองกองหนังสือที่มีอยู่ ชวนอ่านให้จบ เพื่อมีโอกาสรับรู้ถึงการถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียน แล้วมาเพิ่มกองดองใหม่ ในงานกับหนังสือเล่มใหม่ จากนักเขียนคนโปรดกันต่อไป และกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ยังไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือ ก็คาดหวังที่จะกระตุ้นให้ได้ใช้เวลาไปกับการอ่านมากขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้ขยายช่องทาง สำหรับการช้อปปิ้ง เพื่อตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิต ในความปกติใหม่ (New Normal) ผ่านทาง www.thaibookfair.com เพราะยุคโควิด หลายคนเลือกที่จะรักษาระยะห่างทางสังคม โดยจัดโปรโมชั่นผ่านเว็บไซต์ ร่วมกับมาร์เก็ตเพลสชื่อดังอย่าง Lazada Shopee และ Kerry Express
“เสน่ห์ของงานหนังสือ คือ การได้มาเดินอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหนังสือ การได้พบปะระหว่างนักเขียนและนักอ่าน การได้หยิบชมเล่มที่ถูกใจก่อนตัดสินใจซื้อ หรือการร่วมฟังการถ่ายทอดความคิดจากบรรดานักคิดหลายต่อหลายรุ่นจากเวทีเสวนา”นางสาวโชนรังสี กล่าว
ทั้งนี้ ภายในงาน จะมีการเปิดตัวเว็บแอปพลิเคชัน “Noกองดอง” เพื่อเข้าถึงกลุ่มนักอ่านรุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่อยู่กับโลกดิจิทัล โดยการทำงานของเว็บแอปฯ นี้ สามารถเก็บสถิติการอ่านของตัวเอง จากการสแกนบาร์โค้ด เพื่อนำเข้าข้อมูลหนังสือ สะสมระยะเวลาของการอ่านได้ เช่นเดียวกับการสะสมไมล์ของนักวิ่ง เมื่อถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ ก็แชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย หรือ จะชาเลนจ์ (Challenge) ต่อๆ กันไป เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมภายในงานจะได้พบกับ 7 โซนหนังสือยอดนิยม, นิทรรศการ Art of กองดอง, 3 จุดเช็คอินสำหรับคนชอบถ่ายภาพ, งานเสวนาจากนักเขียนและนักคิดหลากหลายวงการ และโปรโมชั่นส่วนลดต่าง ๆ จากสำนักพิมพ์ สูงสุด 60% ขณะเดียวกันในการช้อปออนไลน์ยังมีโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษรวมกว่า 2.3 ล้านบาท
นอกจากนี้ด้าน มาตรการป้องกันไวรัสโคโรน่านั้น ทางสมาคมฯ ได้ประสานกับเจ้าของสถานที่ในเรื่องการจัดมาตรการป้องกันตามมาตรฐาน โดยมีการลงทะเบียนและสแกนการเข้าร่วมงานผ่านแอปคลิเคชันไทยชนะ จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การตรวจวัดอุณหูภูมิร่างกายก่อนเข้างาน และตรวจสอบเมื่อภายในงานมีจำนวนคนที่หนาแน่นมากเกินไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- New Normal ของ ธุรกิจอีเว้นท์ จากวิกฤติโควิด19 ปรับสู่ออนไลน์
- เปิดกลยุทธ์ 2 ยักษ์ ‘อีเว้นท์’ ฝ่าโควิดทุบตลาด มุ่ง ‘ออนไลน์-ลุยธุรกิจใหม่’
- อีเว้นท์ ‘วิกฤติสุด’ รอบ 30 ปี ตกงานนับหมื่น สะเทือน หลายแสนล้าน ‘CMO’ กางแผนสู้
