ออมเงินใช้ วัยเกษียณ กอช. จับมือ สสว. สร้างเงินบำนาญเพื่อวัยเกษียณ ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี แรงงานนอกระบบ รับสังคมสูงวัยประเทศไทย
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี แรงงานนอกระบบ ตระหนักถึงการวางแผนทางการเงิน โดยการ ออมเงินใช้ วัยเกษียณ เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในอนาคต
ทั้งนี้ กอช. เป็นกองทุนบำนาญภาคประชาชน มีภารกิจสำคัญ ในการผลักดันให้ประชาชน ที่ไม่มีสวัสดิการจากรัฐบาล ได้เข้าถึงการออม เสริมเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจพื้นฐานของประเทศ รวมถึงรองรับสภาพสังคมของประเทศ ที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร สู่สังคมผู้สูงอายุ เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงการออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ หลังอายุ 60 ปี
สำหรับเงื่อนไขของการออมเงินกับ กอช. ผู้ที่มีอายุระหว่าง 15–60 ปี โดยเริ่มออมเงินตั้งแต่ 50 บาท สูงสูด 13,200 บาท ต่อปี ทุกครั้งที่สมาชิกส่งเงินออมสะสม รัฐบาลจะเติมเงินสมทบเพิ่มให้ตามช่วงอายุ อาทิ
- อายุ 15–30 ปี รัฐสมทบให้ 50% ของเงินออมสะสม สูงสุด 600 บาทต่อปี
- อายุมากกว่า 30–50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออมสะสม สูงสุด 960 บาทต่อปี
- อายุมากกว่า 50–60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออมสะสม สูงสุด 1,200 บาทต่อปี
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือกัน เพื่อสนับสนุน สร้างหลักประกันบำนาญ ให้แก่ ประชาชน แรงงานนอกระบบ โดยเฉพาะ ที่ยังไม่ได้รับสวัสดิการภาคบำนาญ ได้มีเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณ
นอกจากนี้ กอช. จะมีการให้ความรู้ในการวางแผนทางการเงิน เพื่อส่งเสริมการออม ให้กับบุคลากร ผู้ประกอบการ ตลอดจนครอบครัว ของกลุ่มผู้ประกอบการ ภายใต้การกำกับดูแล สสว. ที่ไม่มีสวัสดิการจากรัฐ ได้มีเงินออมสะสมไว้ใช้ในยามเกษียณ เมื่อไม่มีแรงทำงาน เพื่อสร้างความมั่นคง และยั่งยืนในชีวิต
นางสาวจารุลักษณ์ เลขาธิการ กอช. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสมาชิก สสว. 3,000 ท่านแรกที่สมัครและส่งเงินออมสะสมกับ กอช. จำนวน 13,200 บาท จะได้รับของที่ระลึกเป็นกระเป๋าเดินทางพับได้จัดส่งให้ถึงบ้าน และมีสิทธิเป็นผู้โชคดีรับรางวัลในเดือนธันวาคม 2563 รวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท
สำหรับที่ผู้ที่สนใจการออมกับ กอช. สามารถสมัคร และตรวจสอบสิทธิก่อนการสมัคร ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ที่แอปพลิเคชัน “กอช.” ไลน์ @nsf.th หรือ หน่วยรับสมัครสมาชิกใกล้บ้าน อาทิ ที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ สำนักงานคลังจังหวัด สถาบันการเงินชุมชน ตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน ธนาคารของรัฐทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคาร ธ.ก.ส. ธอส. ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา เป็นต้น
ด้านนายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้ประสานความร่วมมือกับ กอช. ที่จะช่วยกันสร้างวินัยทางการเงิน ให้กับ ผู้ประกอบการรายย่อย ด้วยการเชิญชวนให้ผู้ประกอบการรายย่อยหรือบุคลากรในหน่วยงาน ที่ยังไม่มีสวัสดิการอื่นใดของรัฐ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ได้มีเงินออมไว้ใช้เป็นบำนาญรายเดือน ในวัยเกษียณ ด้วยการออมเงินกับ กอช.
พร้อมกันนี้ ผู้ประกอบการจะได้รับความรู้ความเข้าใจการบริหารเงินทางธุรกิจ (Financial Literacy) ทำให้มีการวางแผน และบริหารจัดการเงินของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการใช้จ่าย การออมเงิน และการจัดการหนี้สิน ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันทางการเงินที่สำคัญ
ภายใต้ความร่วมมือนี้ มีเป้าหมาย ผู้ประกอบการรายย่อย ที่ให้ความสำคัญ 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ
กลุ่มที่ 1 ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก กอช. แต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสมาชิกกับ สสว.
กลุ่มที่ 2 ผู้ที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิก สสว. แล้ว แต่ยังไม่ได้ออมเงินกับ กอช.
กลุ่มที่ 3 ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกทั้ง สสว. และ กอช.
ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ OSS ของ สสว. ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ หรือโทรศัพท์ 1301 นอกจากนี้ ยังมี Application SME Connext ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือของ สสว. ที่จะทำให้ผู้ประกอบการ ได้ทราบข้อมูลสิทธิประโยชน์ และการให้บริการต่าง ๆ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คลัง เปิดจำหน่าย ‘พันธบัตรออมทรัพย์’ 2 รุ่น 2 อายุ 2 ช่องทาง วงเงิน 5 หมื่นล้าน
- ‘โควิด’ เปลี่ยนพฤติกรรมคนไทย กลัวตกงาน ดิ้นรนหารายได้ ออมเงินเพิ่ม
- โพลเปิด ‘10 พฤติกรรม New Normal’ ที่ต้องปรับเปลี่ยนในยุคโควิด