“ชาญศิลป์” เผยข้อมูล การบินไทย เงินเหลือจ่ายแค่เดือน ต.ค. 63 คลาดเคลื่อน แจงแค่พูดกระตุ้นให้พนักงานช่วยลดต้นทุน ด้าน “ทิพยประกันชีวิต” ถอนคำค้าน ขอทำแผนฟื้นฟูฯ ร่วม
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีที่มีสื่อเผยแพร่เรื่องกระแสเงินสดของบริษัท เหลือถึงแค่เดือนตุลาคม 2563 นั้น มีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
ซึ่งในความเป็นจริงข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการบรรยายสรุปให้พนักงานรับทราบ ในการประชุมภายในระหว่างฝ่ายบริหารและพนักงาน กล่าวคือ ถ้าบริษัทและพนักงานทุกคนไม่ทำอะไรเลย เงินก็จะเหลือแค่เดือนตุลาคม 2563
แค่กระตุ้นพนักงาน การบินไทย เฉยๆ
แต่ บริษัท ทราบดีจึงมีการบริหารจัดการทางด้านหารายได้เสริมหรือหารายได้จากธุรกิจอื่น เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้ขณะนี้บริษัทยังไม่สามารถทำการบินได้ตามปกติ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้หารายได้เพิ่ม ได้แก่
- การขนส่งสินค้า โดยตั้งแต่เดือนมีนาคม – กรกฎาคม 2563 จำนวน 18,165 ตัน ใน 903 เที่ยวบิน
- จัดเที่ยวบินพิเศษ จำนวน 46 เที่ยวบิน นำคนไทยที่ตกค้างและประสงค์จะกลับบ้าน จำนวน 5,488 คน
- ฝ่ายครัวการบิน ผลิตอาหารขึ้นเครื่องบินให้แก่สายการบินลูกค้าและของบริษัท ระหว่างเดือนมีนาคม – มิถุนายน 2563 ประมาณ 1.1 ล้านชุด รวมทั้งผลิตขนมและเบเกอรี่ของร้าน Puff & Pie กว่า 5.5 ล้านชิ้น
อีกด้านหนึ่งที่บริษัทดำเนินการ คือ การลดค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด รวมถึงบริษัทยังได้เจรจากับคู่ค้าและเจ้าหนี้ในการพักชำระหนี้ชั่วคราว (Automatic Stay) ระหว่างเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ที่สำคัญ คือการที่บริษัทได้รับความร่วมมือด้วยความสมัครใจจากพนักงานเกือบทั้งหมดในการปรับลดเงินเดือนและค่าตอบแทน ตั้งแต่เดือนเมษายน – กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา และพนักงานส่วนมากยังได้ให้ความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง ด้วยการสมัครใจลาหยุดงานโดยไม่รับค่าตอบแทน ( Leave Without Pay) ในโครงการ Together We Can ระหว่างเดือนสิงหาคม – ธันวาคม 2563 ซึ่งทำให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายได้อย่างต่อเนื่องและสามารถรักษาเงินสดได้อย่างเพียงพอเพื่อคงสภาพคล่องให้นานที่สุด จนกว่าบริษัทจะกลับมาทำการบินได้ตามปกติ
บริษัท ยังได้มีการบริหารความเสี่ยงและบริหารจัดการกระแสเงินสดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น การที่มีข่าวว่าบริษัทจะมีเงินจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ถึงแค่เดือนตุลาคม จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ข้อความดังกล่าวเป็นเพียงการสื่อสารภายในสำหรับพนักงาน เพื่อกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือ จึงจำเป็นจะต้องกล่าวถึงผลที่อาจจะเกิดขึ้น หากไม่ได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากพนักงานทุกคน
“ทิพยประกันชีวิต” ถอนคำค้านขอร่วมทำแผนฟื้นฟูฯ
นายชาญศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับวันนี้ (20 ส.ค. 63) ศาลล้มละลายกลาง ยังได้นัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ การบินไทย เป็นวันที่ 2 โดยการบินไทยมอบหมายให้นายชาย เอี่ยมศิริ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงินและการบัญชี และ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด ในฐานะผู้สอบบัญชีของการบินไทย เป็นพยานผู้ให้ถ้อยคำแก่ศาล ในประเด็นความมีหนี้สินล้นพ้นตัวของการบินไทย และสถานการณ์ทางการเงินที่ขณะนี้ ไม่สามารถชำระหนี้ที่ถึงกำหนดได้ โดยประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ผู้คัดค้านเอง ก็ยอมรับโดยไม่ได้โต้แย้งคัดค้านแต่อย่างใด
ในภาพรวมเห็นว่ากระบวนการไต่สวนคำร้องในวันนี้เป็นไปโดยราบรื่นและมีแนวโน้มที่ดี นอกจากนี้ มีเจ้าหนี้ บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด ได้ถอนคำคัดค้านที่ขอเสนอผู้ทำแผนร่วมออกไปแล้ว จึงไม่มีประเด็นเรื่องผู้ทำแผนร่วมให้ต้องพิจารณาอีกต่อไป
โดยศาลได้กำหนดนัดไต่สวนคำร้องอีก 1 วัน คือ วันอังคารที่ 25 สิงหาคม 2563 ซึ่งจะเป็นฝ่ายผู้คัดค้านที่นำพยานเข้าเบิกความต่อศาล
ทั้งนี้ หากกระบวนการไต่สวนเสร็จสิ้นและศาลมีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการพร้อมตั้งคณะผู้ทำแผนที่การบินไทยเสนอ กรมบังคับคดีจะดำเนินการแจ้งเจ้าหนี้ทุกรายให้ทราบถึงขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อยื่นคำขอรับชำระหนี้ ซึ่งท่านสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตนเองที่บ้าน
หรือจะนำเอกสารมาที่ การบินไทย สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อที่การบินไทยและกรมบังคับคดีจะช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหนี้ในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ออนไลน์ โดยการบินไทยจะประชาสัมพันธ์รายละเอียดวัน เวลา และสถานที่ต่อไป ซึ่งเจ้าหนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 1 เดือนนับแต่คำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนประกาศในราชกิจจานุเบกษา
นอกจากนี้ หากศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งคณะผู้ทำแผนที่การบินไทยเสนอในเร็ววันนี้ การบินไทยคาดว่า จะสามารถเชิญเจ้าหนี้กลุ่มต่างๆ มารับฟังการจัดทำร่างแผนฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้น เพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับทราบถึงความคืบหน้าของการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อไป
การบินไทยขอให้เจ้าหนี้ทุกรายมั่นใจว่า หากศาลมีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการและตั้งคณะผู้ทำแผน ในระยะเวลาอันใกล้ ก็จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อเจ้าหนี้ทุกราย เพราะการบินไทยจะสามารถเริ่มต้นแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินได้โดยเร็ว และสร้างความมั่นใจให้กับสถาบันการเงินหรือผู้ให้กู้ที่ยินดีให้การสนับสนุนแก่การบินไทย
นอกจากนี้ นายชาญศิลป์ยังได้กล่าวขอบคุณเจ้าหนี้และลูกค้าของการบินไทยที่ยังเชื่อมั่นและให้การสนับสนุนการบินไทยมาโดยตลอด แม้ว่าขณะนี้ บริษัท การบินไทยจะอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ และอยากขอให้เชื่อมั่นว่าการบินไทยพร้อมดูแลทุกท่านอย่างเต็มที่และจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กพท.’ ออกประกาศฉบับ 3 เปิดทาง ‘แรงงานต่างด้าว’ บินมาทำงานในไทย
- ธุรกิจการบินทั่วโลก ซบยาวยันปี 67 ถึงจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิด
- ‘นกแอร์’ ลั่น! ไม่ถอดใจปิดสายการบิน ตั้งเป้าฟื้นฟูกิจการสำเร็จก่อนโควิด-19 จบ