เสนอบอร์ดปตท. 20 ส.ค.นี้ อนุมัติ “พงศธร ทวีสิน” นั่งต่อซีอีโอปตท.สผ.อีก 1 ปี ขณะที่ปตท. เสนอโยกย้ายฝ่ายบริหารเข้าบอร์ด ดึง”ไพรินทร์”นั่งกรรมการปตท.แทน “สุพัฒนพงษ์”
วันที่ 20 สิงหาคม 2563 บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) หรือปตท.จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทปตท. ที่มีนายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย เป็นประธาน แหล่งข่าวจากปตท.กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ด เพื่อพิจารณาวาระการบริหารงานต่างๆ แต่หนึ่งในนั้นที่ประชุมจะมีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคล ที่จะเข้ามาแทน นายปรีชา โภคะธนวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารองค์กรและความยั่งยืนปตท. ซึ่งเกษียณอายุ ขณะเดียวกัน คาดว่าจะมีการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งในส่วนอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ดี คาดว่าที่ประชุมจะมีการพิจารณาแต่งตั้งกรรมการคนใหม่แทนนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ซึ่งลาออกไปเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 เพื่อไปรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยบุคคลที่คาดว่าจะตั้งขึ้นมาแทนคือนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะมีการพิจารณาต่ออายุ นายพงศธร ทวีสิน ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากในวันที่ 30 กันยายน 2563 นายพงศธร จะมีอายุครบ 60 ปี และเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการบริหารงานในปตท.สผ. บอร์ดปตท.จึงเห็นสมควรขยายเวลาให้ นายพงศธร ดำรงตำแหน่งออกไปอีก 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
สำหรับนายพงศธร เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ปตท.สผ. เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 แทนนายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ที่เกษียณอายุไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2561
นายพงศธร ถือเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์นำ ปตท.สผ. ให้เป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแห่งชาติชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันทัดเทียมกับบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมชั้นนำนานาชาติ โดยการใช้เทคโนโลยีเพื่อการบริหารต้นทุน และการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการทำงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อจัดการปิโตรเลียมให้แก่ประเทศอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมีความมุ่งมั่นที่นำปตท.สผ. ให้เป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านพลังงาน ต่อยอดจากธุรกิจหลัก (Core Business) เพื่อพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ โดยจะเน้นให้องค์กรมีความคล่องตัว (Agile) ยืดหยุ่น สามารถรองรับธุรกิจทุกรูปแบบ (Fit-for-purpose) และพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สผ. 4.0 ก้าวสู่ ‘องค์กรดิจิทัล’ นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ บริการประชาชนเต็มรูปแบบ
- สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เน้นหลักธรรมาธิบาลกำกับ ‘รายงาน EIA’ หนุนพัฒนายั่งยืน
- สผ.ปรับขั้นตอนขอใบอนุญาต ‘EIA’ รับยุค ‘โควิด-19’
