นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่าภาพรวมธุรกิจอีเวนท์ปี 2561 คาดว่าจะเติบโตกว่า 10% มีมูลค่า 1.32 หมื่นล้านบาท
โดยผู้ประกอบการเอกชน จะเริ่มกลับมาลุยทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างเต็มที่ในปีนี้ หลังจากผ่านพ้นช่วงสถานการณ์ความโศกเศร้าของประเทศไทย โดยทิศทางการจัดงานจะเป็นในรูปแบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์เป็นหลัก
อีกทั้งยังต้องจับตาดูกระแสนิยมไทยฟีเวอร์ที่เริ่มต้นมาจาก“งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว” ต่อเนื่องถึงละครดังอย่าง“บุพเพสันนิวาส” ที่จะยังฮอตฮิตต่อไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยเร็วๆ นี้บริษัทจะมีอีเวนท์อีก 2-3 งานที่ต่อยอดจากการนำคอนเทนท์ดังกล่าวมาพัฒนาเป็นงานอีเวนท์
สำหรับผลประกอบการในไตรมาสแรกปี 2561 รายได้เติบโตจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 6% มาจากกลุ่มมาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส ที่ให้บริการงานด้านการสื่อสารการตลาดครบวงจรให้กับลูกค้าคิดเป็นสัดส่วน 87% ของรายได้รวม
ปัจจจัยการเติบโตมาจากสถานการณ์บ้านเมืองที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้ผู้ประกอบการต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนกลับมาอัดฉีดงบประมาณจัดงานอีเวนท์มากขึ้น และจากการที่บริษัทได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานใหญ่ให้กับภาครัฐอย่างงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 11 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากคนไทยอย่างล้นหลาม ช่วยปลุกกระแสให้คนไทยรุ่นใหม่รู้จักการแต่งกายชุดไทยในยุครัชกาลที่ 5 และปลุกความภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมไทยให้กลับสู่ใจคนไทยอีกครั้ง
ตามด้วยงานประกาศผลรางวัลสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 27 รวมถึงงานประจำปีของหน่วยงานใหญ่ต่างๆ และงานเปิดตัวสินค้าอีกกว่า 4-5 งาน เป็นต้น
สำหรับทิศทางในไตรมาสที่ 2 มองว่ายังเติบโตในทิศทางที่ดี จากงานบิ๊กอีเวนท์จากภาครัฐ และเอกชน โดยช่วงปลายปี จะมีเมกะโปรเจค เปิดตัวโครงการขนาดใหญ่ มูลค่าการจัดงานกว่า 200 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีตัวเลขรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 700 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้จะสามารถทำรายได้ถึง 1,650 ล้านบาท