Business

‘ซีพี’ ซื้อกิจการ ‘Chilindo’ ยกระดับอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทย แข่งต่างชาติ

ซีพี ซื้อกิจการ Chilindo แบรนด์อีคอมเมิร์ซรูปแบบประมูล เสริมแกร่งแพลตฟอร์มห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ยกทัพโกอินเตอร์ แข่งยักษ์ต่างชาติ

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เปิดเผยว่า ซีพี ซื้อกิจการ Chilindo เว็บไซต์ประมูลสินค้าออนไลน์ โดยบริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ ในเครือซีพี เข้าไปซื้อหุ้น 100% มูลค่าประมาณ 18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 558 ล้านบาท จาก Chilindo ซึ่งบริษัทแม่อยู่ที่ฮ่องกง

ศุภชัย เจียรวนนท์3 728x414 1

การเข้าซื้อกิจการ Chilindo ถือเป็นการนำร่องเพื่อสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทย ที่จะมาช่วยยกระดับอีคอมเมิร์ซไทย ก้าวสู่ตลาดในระดับสากล  เนื่องจากปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ล้วนเป็นแพลตฟอร์มของธุรกิจข้ามชาติ เป็นส่วนใหญ่

นอกจากนี้ ยังเป็นการต่อยอดเสริมความแข็งแกร่ง ของ แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ ที่มีแพลตฟอร์มวีมอลล์ ( WeMall ) ซึ่งเป็นเสมือนห้างสรรพสินค้าออนไลน์ อยู่แล้ว รวมไปถึงร้านค้าออนไลน์ Weloveshopping เมื่อรวม Chilindo เข้าไปอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม จะทำให้ไปสู่เป้าหมาย การเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เร็วขึ้น

ขณะเดียวกัน จะเป็นการเสริมศักยภาพ ให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีฐานธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่ง รองรับการเติบโตในยุค 4.0 ซึ่งมี อีคอมเมิร์ซ เป็นธุรกิจแห่งอนาคตของโลกยุค 4.0 และยังเป็นอีกทางหนึ่ง ในการช่วยกระตุ้น และฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย จากการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ ด้วย

นอกจากนี้ ได้วางแผนนำ Chilindo บุกตลาด อีคอมเมิร์ซ ในต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างแบรนด์อีคอมเมิร์ซของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

02 1

ขณะเดียวกัน การเสริมความแข็งแกร่ง ด้าน อีคอมเมิร์ซ ของประเทศไทย  ต้องให้ความสำคัญกับ การยกระดับผู้ประกอบการรายย่อยของไทย และเอสเอ็มอี ยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค

ดังนั้น การมีแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซ สัญชาติไทยอย่าง Chilindo เกิดขึ้นในเวลานี้ จึงถือเป็นการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ในจังหวะที่จะต้องเร่งส่งเสริม ภาคเศรษฐจดิจิทัลของไทย

ทั้งนี้ ในอนาคตจะมีการนำร่องใช้แพลตฟอร์มนี้ ในการเป็นช่องทางการตลาด หรือหน้าต่างอีกบานหนึ่ง ให้ผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอี และเกษตรกรไทยสามารถขายของไปยังต่างประเทศได้ ถือเป็นการดำเนินธุรกิจที่เครือมุ่งมั่น และ ยึดหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ ที่ต้องดำเนินธุรกิจ โดยยึดประโยชน์ของ ประเทศชาติ ประชาชน เป็นที่ตั้ง และองค์กรมาเป็นลำดับสุดท้าย

ปัจจุบันอันดับการแข่งขันด้านดิจิทัลในเวทีโลกประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 40 จึงเป็นโอกาสที่ต้องเร่งปรับตัว เพราะไทยถือเป็นประเทศ ที่มีการเติบโตด้านดิจิทัลสูงมาก ในจำนวนประชากร 7,000 กว่าล้านคนทั้งโลก ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 5,000 ล้านคน ประเทศไทยมีการเติบโตของการบริโภคข้อมูลข่าวสารทางอินเทอร์เน็ตที่สูงมาก

01 24

อีกทั้งไทยยังมีการเติบโตด้าน Mobile Consumption สูงถึง 60% สูงกว่าญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อังกฤษ เมื่อเทคโนโลยี 5G เกิดขึ้น จะเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นการมีแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซ สัญชาติไทยเอง จะได้รับประโยชน์ในหลายด้าน ทั้งเรื่อง Big Data ที่จะไม่ไหลออกไปต่างประเทศหมด และยังเป็นเรื่องความปลอดภัย หรือ Cyber Security ในประเทศด้วย

ปัจจุบันธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ ทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยในประเทศไทยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท และนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปี 2563 ส่งผลให้มีมูลค่าการเติบโตสูงขึ้นไปอีก ซึ่งคาดว่าตัวเลขมูลค่าการซื้อสินค้าผ่าน อีคอมเมิร์ซ ในปี 2563 จะเติบโตถึง 19% โดยประมาณการมูลค่าการซื้อขายออนไลน์ในประเทศคิดเป็น 1.5% ของการบริโภคภาคเอกชน หรือ 0.8% ของ GDP ทั้งปี

สำหรับแพลตฟอร์ม Chilindo เป็นเว็บไซต์ประมูลสินค้าออนไลน์ ใช้รูปแบบของ Gamification หรือ การเล่นเกมการประมูล และจะซื้อก็ต่อเมื่อชนะประมูลในราคาที่ตนเองต้องการ โดยกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำที่ 1 บาท จึงทำให้ผู้ที่เข้ามาใช้แพลตฟอร์มนี้แตกต่างจากการเข้าใช้งานแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo