“ทอท.” อ่วมพิษโควิด-19! ยอมรับผลประกอบการปี 64 มีแนวโน้ม “ขาดทุน” เล็งกู้เงินในประเทศเสริมสภาพคล่อง
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ผู้บริหารสนามบินหลัก 6 แห่ง ในประเทศ ยอมรับว่า ในปีงบประมาณ 2564 ระหว่างเดือนตุลาคม 2563 – กันยายน 2563 ทอท. มีความเสี่ยงจะขาดทุนจากการดำเนินงาน
เนื่องจากทั่วโลกยังมีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ทางการไทยก็ยังไม่เปิดให้มีการบินเชิงพาณิชย์ในเส้นทางระหว่างประเทศ รวมทั้งยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องมาตรการรองรับผู้เดินทางท่องเที่ยวจากต่างประเทศในวงจำกัด (Travel Bubble) ทำให้รายได้ของ ทอท. ลดลง ขณะที่มีภาระต้องนำส่งรายได้อย่างต่อเนื่อง
“ขณะนี้ ทอท. มีรายรับเข้ามาน้อยมาก จากจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงมาก และคาดว่าจะกลับมาปกติได้ในเดือนตุลาคมปี 2565 ดังนั้นในปี 2564 ทอท. มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนจากการดำเนินการอย่างมาก ขณะที่สภาพคล่องก็อาจจะหมดลงด้วย จากปัจจุบันที่มีเหลือประมาณ 5 หมื่นล้านบาท อาจทำให้ ทอท. จะต้องเริ่มกู้เงินมาเพื่อใช้ในการดำเนินงาน ซึ่งอาจเป็นการกู้เงินจากภายในประเทศ แต่ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน” นายนิตินัยกล่าว
สำหรับผลประกอบการของ ทอท. ในปีงบประมาณ 2563 ระหว่างเดือนกันยายน 2562-ตุลาคม 2563 นั้น นายนิตินัยคาดว่าจะไม่ขาดทุนจากการดำเนินงาน เนื่องจาก ทอท. รับรู้รายได้จำนวนมากในฤดูกาลท่องเที่ยวระหว่างปลายปี 2562 ถึงต้นปี 2563
อย่างไรก็ ปริมาณเที่ยวบินที่ผ่านเข้าและออกสนามบินสุวรรณภูมิที่ปรับตัวลดลงมาก อาจทำให้สนามบินสุวรรณภูมิต้องพิจารณาปิดพื้นที่อาคารผู้โดยสารบางส่วน เพื่อลดต้นทุนการบริหารจัดการพื้นที่ให้สอดคล้องกับปริมาณผู้ใช้บริการ
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ ทอท. มีรายได้ลดลงจนต้องนำสภาพคล่องที่มีออกมาใช้จ่าย และอาจจะหมดลงในปี 2564 เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบินที่มาใช้บริการ 6 สนามบินหลัก ทอท. ปรับลดลงมากจากปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งในปีนี้ ทอท. ยังมีการออกมาตรการบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า และร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ด้วยการปรับลดการจัดเก็บค่าตอบแทนลง ทำให้รายได้เชิงพาณิชย์ของ ทอท. ลดลงเป็นอย่างมาก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- พิษโควิด-19! ทอท. ไฟเขียวเลื่อนเวลาเริ่มเปิดดิวตี้ฟรี ‘คิงเพาเวอร์’
- ‘ทอท.’ วางพรมเช็ดเท้าชุบน้ำยาฆ่าไวรัส เข้มสกัดโควิด-19 ในสนามบิน
- ไตรมาส 2 ‘ทอท.’ เจอพิษโควิด กำไรหด 52% เหลือ 3.6 พันล้าน