Business

หุ้นโรงพยาบาล 7 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อ!

หุ้นโรงพยาบาล  7 เรื่องต้องรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อ ชี้โรงพยาบาล ถือเป็นหุ้นกลุ่มหนึ่ง ที่น่าสนใจ มีโอกาสอีกมาก “เมกะเทรนด์” แห่งอนาคต

หุ้นโรงพยาบาล เป็นกลุ่มที่กำลังได้รับความสนใจ อย่างมาก สำหรับนักลงทุน เนื่องจากเป็นธุรกิจ ที่เป็น เมกะเทรนด์ แห่งอนาคต เพราะฉะนั้น วันนี้เราจึง ได้สรุป 7 ข้อที่ต้องที่รู้ สำหรับใครที่สนใจลงทุนหุ้นโรงพยาบาล มาฝาก

1. เป็นธุรกิจที่มีรายได้แน่นอน 

ธรรมชาติของโรงพยาบาลนั้น เป็นธุรกิจที่มีรายได้ประจำ (Recurring Income) ค่อนข้างแน่นอน เนื่องจากลงทุนใหญ่ครั้งเดียว ก็สามารถเก็บกินผลตอบแทน ได้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ และที่สำคัญกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนในไทย ส่วนมากถือว่ามีกระแสเงินสด ที่ค่อนข้างสูงอีกด้วย 

หุ้นโรงพยาบาล 

2. ผันผวนน้อย

โรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจด้านสุขภาพ ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “Defensive Stock” คือ มีความทนทานต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจได้ดี ไม่ว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำ หรือเติบโต ก็ไม่ค่อยมีผลต่อความสามารถในการทำกำไรมากเท่าไหร่

3. ธุรกิจเป็นเมกะเทรนด์

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า “Health Care” เป็นเมกะเทรนด์แห่งอนาคต ที่มีโอกาสเติบโต ได้อีกมากหลายเท่าตัว เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นสิ่งจำเป็น ที่ทุกคนต้องใช้บริการ และสังคมผู้สูงอายุกำลังใกล้เข้ามาทุกที

หุ้นโรงพยาบาลกับโครงสร้างและรายได้

4. โครงสร้างรายได้โรงพยาบาล

หุ้นโรงพยาบาล จากการสำรวจข้อมูลจาก ฝ่ายวิจัย บล.บัวหลวง โดยคิดจากค่าเฉลี่ย 7 หุ้นโรงพยาบาลเอกชนไทย ได้แก่ BCH, BDMS, BH, CHG, RJH, PR9 และ THG พบว่า โครงสร้างรายได้ โรงพยาบาลเอกชนไทย แบ่งเป็น ดังนี้

หุ้นโรงพยาบาล 

1. ค่ายาและเวชภัณฑ์ จำนวน 36%

2. ค่าบริการทางการแพทย์ จำนวน 22%

3. ค่าห้อง จำนวน 14%

4. ค่าแลปและเอกซเรย์ จำนวน 11%

5. อื่นๆ จำนวน 17%

5. วิเคราะห์หุ้นโรงพยาลต้องดูอะไร 

– ความสามารถให้บริการ (Capacity)

คือความสามารถในการให้บริการผู้ป่วย ซึ่งบ่งบอกได้ถึงขนาดโรงพยาบาล และโอกาสเพิ่มรายได้ในช่วงเวลานั้นๆ

– อัตราการครองเตียง (Utilization Rate)

คือ อัตราการใช้บริการของผู้ป่วย ซึ่งคำนวณจากจำนวนเตียง หรือจำนวนห้องให้บริการ เทียบกับจำนวนผู้ป่วยจริง โดยยิ่งมาก ก็ยิ่งแสดงถึงประสิทธิภาพ การให้บริการของโรงพยาบาล

– สัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ

ต้องดูด้วยว่าโรงพยาบาลจับกลุ่ม ลูกค้าคนต่างชาติมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในยามปกติเป็นเรื่องดี เนื่องจากสร้างอัตรากำไร ได้มากกว่าลูกค้าคนไทย แต่ในยามที่สถานการณ์ไม่ปกติอย่างปัจจุบัน ก็อาจกระทบต่อภาพรวมรายได้ ของบริษัทได้

– จำนวนโควต้าประกันสังคม

ประกันสังคม เป็นอีกหนึ่งรายได้หลัก ของโรงพยาบาลเอกชน ฉะนั้น จำนวนโควต้าผู้ป่วยที่ได้รับจากประกันสังคม ในแต่ละปีจึงค่อนข้างสำคัญมาก เพราะเป็นตัวกำหนดจำนวนผู้ป่วยคร่าวๆ ที่จะเข้ามารักษาได้เลย

6. เทียบตัวเลขทางการเงินสำคัญ

หุ้นโรงพยาบาล 

หุ้นโรงพยาบาล มูลค่ากิจการสูงสุด

7. รู้จักหุ้นโรงพยาบาล มูลค่ากิจการสูงสุด

1. BDMS : บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน)

โรงพยาบาลในเครือ : โรงพยาบาลกรุงเทพ, พญาไท, สมิติเวช, เปาโล, BNH

Market Cap. : 3.48 แสนล้านบาท

2. BH : บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)

โรงพยาบาลในเครือ : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

Market Cap. : 9.37 หมื่นล้านบาท

3. SVH : บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน)

โรงพยาบาลในเครือ : โรงพยาบาลสมิติเวช

Market Cap. : 4.18 หมื่นล้านบาท

หุ้นโรงพยาบาล 

4. BCH : บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน)

โรงพยาบาลในเครือ : โรงพยาบาลเกษมราษฎร์, เวิลดิ์เมดิคอล, การุญเวช

Market Cap. : 3.46 หมื่นล้านบาท

5. RAM : บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน)

โรงพยาบาลในเครือ : โรงพยาบาลรามคำแหง

Market Cap. : 3.42 หมื่นล้านบาท

สุดท้ายหากวิเคราะห์ให้ดี ก็จะเห็นว่า โรงพยาบาล ถือเป็นหุ้นกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และมีโอกาสอีกมากที่รออยู่ แต่ก็ต้องเข้าใจ ณ ปัจจุบัน Valuation ของหุ้น กลุ่มนี้ค่อนข้างสูงพอสมควร ซึ่งก็ ต้องพิจารณากันให้ดีๆ ครับ ว่าเรามองเห็นโอกาส หรือความเสี่ยงมากกว่ากัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo