ทองราคาพุ่งไม่หยุด ล่าสุดปรับขึ้นแล้ว 3 รอบ รวม 150 บาท ดันราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 28,800 บาท ทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ วายแอลจี แนะ ทำกำไรระยะสั้น
สมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองวันนี้ (24 กรกฏาคม 2563) ปรับแล้ว 3 รอบ ในช่วงเช้า โดยขึ้นครั้งละ 50 บาท รวมเป็นปรับขึ้นไปแล้ว 150 บาท เมื่อเทียบจากราคาปิดเมื่อวานนี้ (23 กรกฏาคม 2563) สะท้อนว่า ทองราคาพุ่งไม่หยุด ซึ่งราคาดังกล่าว ยังเป็นราคาที่ทำสถิติสูงสุดอีกครั้งด้วย
สำหรับราคาทองหลังจากการปรับขึ้นรอบ 3 จากเว็บไซต์ของ สมาคมค้าทองคำ เมื่อเวลา 9:55 น. ที่ผ่านมา ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ ราคารับซื้อบาทละ 28,200 บาท ขายออก ราคาบาทละ 28,300 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้อราคาบาทละ 27,697.32 บาท และขายออกราคาบาทละ 28,800 บาท ส่วนราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot อยู่ที่ 1,888.00 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
ทั้งนี้ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานผลวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ โดยระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ (23 กรกฏาคม) ปิดทะยานขึ้นอีก 15.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากในระหว่างวันราคาทองคำทะยานขึ้นทำระดับสูงสุดของปีนี้ครั้งใหม่ที่ 1,898.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางปัจจัยหนุน อาทิ
- การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี โดยสกุลเงินดอลลาร์เผชิญแรงขายหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในสหรัฐ ทะลุ 4 ล้านคน จนก่อให้เกิดความวิตกว่า จะกระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เป็นเรื่องยาก ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะปรับตัวดีกว่าประเทศอื่นๆ
ประกอบกับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอยู่ที่ 1.416 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.3 ล้านราย จึงเป็นปัจจัยกดดันสกุลเงินดอลลาร์เพิ่มเติม
- แรงซื้อทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งจากความวิตกเกี่ยวกับการระบาดของ โควิด-19 ทั่วโลกโดยเฉพาะสหรัฐ รวมไปถึงความตึงเครียดระลอกใหม่ระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากสหรัฐ สั่งให้จีนปิดสถานกงสุล ที่เมืองฮิวสตัน ส่งผลให้จีนกำลังพิจารณามาตรการต่างๆ เพื่อตอบโต้ต่อการตัดสินใจของสหรัฐ
ขณะที่วานนี้นายหู สีจิน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สของรัฐบาลจีน เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า “จีนจะประกาศมาตรการตอบโต้สหรัฐ ในวันศุกร์นี้ตามเวลาปักกิ่ง”
ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ยังออกมาย้ำวานนี้ว่า ข้อตกลงการค้าที่สหรัฐทำกับจีน “มีความหมายกับเขาน้อยลง” สะท้อนความสัมพันธ์ที่ตกต่ำระหว่าง 2 ประเทศ
ปัจจัยที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่อยู่เบื้องหลังการทะยานขึ้นของราคาทองคำ
วายแอลจีฯ ยังให้คำแนะนำว่า แม้ทิศทางราคาทองคำจะเป็นบวก แต่ราคาปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก จึงเน้นซื้อขายทำกำไรระยะสั้น โดยเปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,878-1,869 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ให้ทยอยขายทำกำไร หากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,900-1,911 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับราคาทองคำ ตลาดนิวยอร์กปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น พุ่งขึ้น 24.9 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำ และเงินของจีนเปิดเผยว่า ราคาทองคำ ที่ตลาดฮ่องกง ช่วงเช้าวันนี้ ลดลง 10 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 17,440 ดอลลาร์ฮ่องกง ต่อออนซ์ ในวันนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ทองคำ’ ยังทุบถิติ 9 ปีต่อเนื่อง หุ้นเอเชีย ร่วง ผิดหวังข้อมูลแรงงานสหรัฐ-วิตกข้อพิพาทกับจีน
- ราคาทองคำพุ่งไม่หยุด! เปิด 4 เทคนิคส่อง ‘ทองแท้’ ป้องกันถูกหลอก
- ทองคำราคาพุ่ง แตะ 27,800 บาท แพงลิ่ว ทำไมคนยังซื้อ อ่านที่นี่!!