Business

ทองคำราคาพุ่ง แตะ 27,800 บาท แพงลิ่ว ทำไมคนยังซื้อ อ่านที่นี่!!

ทองคำราคาพุ่ง หลังดอลลาร์อ่อน โควิด-19 ยังลุกลามทั่วโลก ฉุดเศรษฐกิจวูบ วันนี้ทองรูปพรรณราคาแตะ 27,800 บาท เปิดเหตุผล ทำไมทองแพง คนยังแห่ซื้อ

สมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำวันนี้ (21 กรกฏาคม) ยังคงพุ่งสูงสร้างประวัติการณ์ต่อเนื่อง โดยวันนี้ ทองคำราคาพุ่ง แตะ 27,800 บาท สำหรับทองรูปพรรณ 96.5% ขายออก และรับซื้อบาทละ รับซื้อ 27,200 บาท ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 2 ของรอบวัน จากช่วงเช้าประกาศราคา ทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 27,750 บาท รับซื้อบาทละ 26,666.44 บาท

ทองคำราคาพุ่ง

สำหรับทองคำแท่ง 96.5% ขายออกบาทละ 27,300 บาท และรับซื้อบาทละ รับซื้อ 27,200 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเช้าที่ประกาศราคาทองคำแท่ง ขายออกบาทละ 27,250 บาท และรับซื้อบาทละ 27,150 บาท

ทั้งนี้ เป็นการปรับขึ้นถึง 100 บาท จากวันที่ 20 กรกฏาคม 2563 ที่ผ่านมา

การปรับราคาทองคำดังกล่าว เป็นผลมาจากแรงซื้อทองคำที่เพิ่มมากขึ้น ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ในภาวะความไม่แน่นอน เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก อันเนื่องมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึง การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า ราคาทองคํา จะปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความวิตกกังวล เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่น ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่รายงานจาก เว็บไซต์ Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดจากทั่วโลกมีมากกว่า 14.8 ล้านราย ส่วน ยอดผู้เสียชีวิตกว่า 6 แสนราย จึงยังต้องเกาะติดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากทั่วโลก รวมถึงความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีน และ การประชุมของสหภาพยุโรป(EU) เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.50 แสนล้านยูโรเพื่อเยียวยาผลกระทบเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19

ทองวันนี้

ด้าน ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้น คาดเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากคาดเริ่มมีแรงเทขายทำกำไร และข่าวความคืบหน้า เกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แต่การปรับตัวลงคาดมีกรอบที่จำกัด โดยบริเวณ 1,820 ดอลลาร์จะเป็นแนวต้านแรก และถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,830 ดอลลาร์ ขณะที่แนวรับแรกจะอยู่ที่บริเวณ 1,795 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปบริเวณ 1,790 ดอลลาร์

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมราคาทองคำพุ่งสูง แต่คนก็ยังซื้อทองคำกัน

ข้อมูลจาก เว็บไซต์ ทองคําราคา.com เผยที่มาของการซื้อทอง แม้ราคาจะเพิ่มสูงขึ้น โดยระบุว่า เป็นสาเหตุมาจากกฎ ดีมานด์ ซัพพลาย ที่ว่า สินค้าจะสามารถปรับตัวขึ้นสูงได้ ก็ต่อเมื่อมี “ความต้องการซื้อ” หรือ ดีมานด์ เข้ามาเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อทองคำยิ่งราคาขึ้นสูง หมายความว่า ยิ่งมีคนต้องการซื้อทองคำเป็นจำนวนมาก

สิ่งที่ทำให้ “ความต้องการซื้อ” เข้ามาเป็นจำนวนมาก เป็นผลมาจาก เศรฐกิจโลกชะลอตัว และส่วนใหญ่ ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทองคำมักปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น สวนทางเศรษฐกิจ

ประเด็นนี้ อธิบายได้ว่า โดยปกติทั่วโลก จะมีทั้งช่วงที่มีการเจริญเติบตัว และช่วงที่มีการชะลอตัว เมื่อไหร่ที่เศรษฐกิจดูท่าว่าจะไปได้ไม่ค่อยสวย ก็จะส่งผลลบต่อ ตลาดที่มีความเสี่ยงสูงด้วย ไม่ว่าจะเป็นตลาดพันธบัตร ตลาดหุ้น หรือค่าเงิน

เพราะฉะนั้น เมื่อตลาดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้ โดนผลกระทบในทางลบ นักลงทุนทั้งหลายก็จะนำเงินออก เพื่อไปเข้าหา สินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำ แต่ได้ผลตอบแทนมากกว่าฝากเงินกับสถาบันการเงิน นั่นก็คือ “ทองคำ” ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ “ความต้องการซื้อ” ทองคำมีปริมาณมากขึ้น และทำให้ตลาดการลงทุนทองคำปรับตัวขึ้นสูง

ในทางตรงกันข้าม หากเศรษฐกิจร้อนแรง ดูท่าว่าจะเติบโตเรื่อยๆ สินทรัพย์อื่นๆ เช่น หุ้น ก็มีแนวโน้มว่าราคาจะสูงขึ้นในอนาคต แน่นอนว่าผู้คนย่อมอยากได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เงินก็จะไหลไปอยู่กับสินทรัพย์อื่น เพราะผู้คนไม่จำเป็นต้องใช้ทองเป็นที่กำบังอีกต่อไป ส่งผลให้ ความต้องการซื้อทองคำลดลง ทองคำก็จะปรับตัวลงตามไปนั่นเอง

สรุปก็คือ เมื่อไหร่ที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีทองคำมักจะมีราคาที่สูง และเมื่อไหร่ที่เศรษฐกิจไปได้สวย ทองคำก็จะปรับตัวลง

ประเด็นสำคัญในช่วงเวลานี้ก็คือ เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว และมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งทางฝั่งสหรัฐ จีน หรือยุโรป ล้วนส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นทั้งสิ้น เพราะนักลงทุนต่างก็ทิ้งสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง นำเงินเข้ามาใส่ในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างเช่น ทองคำ นั่นเอง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo