Business

ราคาทองยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์สูงสุดรอบเกือบ 9 ปี หลังยอดติดโควิดพุ่ง!

ราคาทอง ยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ พุ่งสุดรอบเกือบ 9 ปี หลังยอดติดโควิดพุ่ง! เหตุนักลงทุนเน้นลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย “วายแอลจี” แนะลงทุนผ่านโกลด์ฟิวเจอร์ส เพิ่มโอกาสทำกำไรสูง

วายแอลจี เผยตลาดทองคำคึกคักหลัง ราคาทอง พุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปีที่ 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เหตุนักลงทุนเน้นลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตัวเลขผู้ติด COVID-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นต่อเนื่อง มองระยะยาวยังมีโอกาสไปต่อ ส่วนในระยะสั้นอาจมีแรงเทขายทำกำไร ชี้ราคาปรับตัวลงเป็นโอกาสเข้าซื้อ

แนะนักลงทุนสามารถเพิ่มทางเลือกการลงทุนช่วงทองแพงผ่านตลาด TFEX ด้วย โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ส เหตุใช้เงินลงทุนไม่ถึง 10% ของมูลค่าสัญญา เพิ่มโอกาสทำกำไรได้มากกว่าเมื่อเทียบกับสัดส่วนเงินที่ใช้ในการลงทุนทองคำแท่ง และเป็นเครื่องมือที่ดีในการบริหารความเสี่ยง

ราคาทอง

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า ราคาทองคำทั้งในตลาดโลกและในประเทศปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ราคาปรับขึ้นไปอยู่ระดับสูงสุดของปีนี้ที่ 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือว่าปรับขึ้นมาจากต้นปีแล้วเกือบ 20% โดยราคานี้ถือเป็นราคาที่ปรับขึ้นมาสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปี เท่ากับระดับราคาในเดือน กันยายน 2554

สำหรับ การปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ยังคงมาจากปัจจัยความวิตกหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในสหรัฐพุ่งต่อเนื่อง ล่าสุด Johns Hopkins University ระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในสหรัฐพุ่งแตะ 60,021 ราย ในวันอังคารที่ 7 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อในสหรัฐทะยานขึ้นสูงกว่า 3 ล้านราย

ส่วนความสัมพันธ์ สหรัฐ – จีน ยังคงย่ำแย่ จากประเด็นจีน เตรียมกำหนดข้อจำกัดวีซ่าต่อพลเมืองสหรัฐ เพื่อเป็นการตอบโต้กรณีเปิดประเด็น ด้านสิทธิมนุษยชน ในทิเบต รวมถึง เรื่องความมั่นคงในฮ่องกง

จึงทำให้มีแรงเข้าซื้อทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หากมีการผลิตวัคซีน COVID-19 สำเร็จ ก็อาจเป็นปัจจัยกดดัน ให้ราคาทองคำปรับลดลงมาได้

การปรับตัวขึ้น ของราคาทองคำในขณะนี้ อาจทำให้นักลงทุนบางส่วน มีข้อจำกัดในด้านการลงทุน เพราะราคาที่สูงขึ้น ทำให้ต้องใช้เงินลงทุน ในการลงทุนทองคำแท่งที่สูงขึ้นตาม อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนทองคำ ผ่านตลาด TFEX ทั้งในแบบโกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ส (Gold Online Futures) ที่เป็นการซื้อขายทองคำล่วงหน้า ในรูปแบบดอลลาร์สหรัฐ

ราคาทอง

ทำให้นักลงทุนไม่ต้องมีความกังวล ด้านความเสี่ยงจากการผันผวนของค่าเงิน ส่วนนักลงทุน ที่มีความคุ้นเคย ในการลงทุนในรูปของเงินบาทนั้น ก็สามารถลงทุนผ่าน โกลด์ฟิวเจอร์ส (Gold Futures) ได้เช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้แม้จะเป็นการซื้อขายด้วยเงินบาทแต่สามารถเป็นทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยง

สำหรับการลงทุนในทองคำ และกลุ่มร้านทอง ที่สำคัญ คือ การลงทุนผ่าน TFEX ยังใช้เงินลงทุนน้อยกว่า การลงทุนในทองคำแท่ง เพราะวางเงินลงทุนเพียงไม่ถึง 1 ใน 10 ของมูลค่าสัญญา เช่น หากนักลงทุน ทำการลงทุนในทองคำแท่ง มูลค่า 10 บาททองคำ ต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 260,000 บาท

แต่ถ้าลงทุนใน TFEX จะใช้เงินลงทุนไม่ถึง 20,000 บาท และ หากในอนาคตราคาทองคำ ปรับขึ้นไปตามที่ลงทุนไว้ ก็สามารถทำกำไรได้ อีกหนึ่งความพิเศษของการลงทุนใน TFEX คือ สามารถทำได้ทั้งสภาวะที่ราคาทองเป็นขาขึ้นและขาลง

สำหรับคำแนะนำการลงทุนในช่วงนี้ มองว่า ราคาทองยังแกว่งตัวขึ้น แต่ระยะสั้น แนะนำหาจังหวะขายทำกำไร ช่วงราคา 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาผ่านได้ ให้รอขายที่แนวต้านถัดไปที่ 1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนแนวรับ หากราคาทองคำปรับตัวลดลง ให้ทยอยเข้าซื้อ 1,800 – 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ แนวรับถัดไปที่ 1,777 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุน ที่ลงทุนใน TFEX ควรตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อป้องกันความเสี่ยง จากราคาที่อาจผันผวนได้ 

ทั้งนี้ แนะนำตั้งจุดตัดขาดทุน สถานะซื้อ หากราคาหลุด 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อถอยจุดซื้อไปยังแนวรับถัดไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK