ตามที่ กรมการขนส่งทางราง (ขร.) กระทรวงคมนาคม ได้เสนอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ขอปลดล็อกการ เว้นที่นั่ง และที่ยืนในระบบขนส่งทางราง
โดยยกเว้นการเว้นที่นั่งและการเว้นระยะห่างการยืนอย่างน้อย 1 เมตร ภายในขบวนรถ เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารช่วงเปิดเทอมวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ซึ่งจะเพิ่มสูงขึ้น และยังคงขอความร่วมมือผู้โดยสารให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดนั้น
ล่าสุดผู้ประกอบการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ตอบรับมาตรการดังกล่าว โดยประกาศยกเลิกการ เว้นที่นั่ง ทุกสายแล้ว
- รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เส้นทางพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ
- รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว เส้นทางวัดพระศรีมหาธาตุ-เคหะฯ และเส้นทางสนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า
- รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง เส้นทางบางใหญ่-เตาปูน รวมถึง สายสีน้ำเงิน เส้นทางวงกลมรอบกรุงเทพฯ และท่าพระ-หลักสอง
รายละเอียด เว้นที่นั่ง
รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เส้นทางพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ผ่อนปรนมาตรการการเว้นระยะห่างบนรถไฟฟ้า โดยกำหนดเพิ่มความหนาแน่นจากเดิมได้ไม่เกิน 50% เป็น 70% กำหนดจุดยืนแบบหันหลังชนกันภายในรถ และอนุญาตให้นั่งติดกันได้
แต่ยังคงเน้นย้ำมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อย่างเคร่งครัด ผู้โดยสารทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าใช้บริการ และขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เว้นระยะห่าง 2 เมตรขณะรอซื้อตั๋วโดยสาร และตรวจวัดอุณหภูมิ รวมถึง ยืนในระยะห่างที่เหมาะสมขณะใช้ลิฟต์ และบันไดเลื่อน งดเว้นการพูดคุยภายในตู้โดยสาร
หากในกรณีมีผู้โดยสารหนาแน่น จะดำเนินการจำกัดปริมาณผู้โดยสารที่จะขึ้นสู่ชั้นชานชาลาและภายในขบวนรถไฟฟ้า (Group Release) โดยกำหนดพื้นที่ในการยืนรอห่างกัน 1 เมตร รวมทั้งมีการเพิ่มความถี่ในการดูแลทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคภายในบริเวณสถานี และขบวนรถอย่างเข้มงวด
ในช่วงเปิดภาคเรียน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 ก.ค. 63) คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เพิ่มมากขึ้น จากเดิมเฉลี่ย 34,000 คนต่อวัน เป็น 40,000 คนต่อวัน บริษัทได้เตรียมขบวนรถเสริม ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น วันจันทร์ – ศุกร์ จำนวน 24 เที่ยวต่อวัน เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้นของผู้โดยสารได้ หรือหากมีผู้โดยสารใช้บริการหนาแน่นมากก็จะพิจารณาเพิ่มเติมขบวนรถเสริมอีก เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้บริการของผู้โดยสาร
รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน ผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่างในขบวนรถ โดยจะควบคุมความหนาแน่นภายในขบวนรถไม่เกิน 70% กำหนดจุดยืนเว้นระยะและหันหน้าตามทิศทางที่แนะนำภายในขบวนรถ ยกเลิกการ เว้นที่นั่ง โดยสามารถนั่งติดกันได้ งดการพูดคุยขณะอยู่ในขบวนรถ และผู้โดยสารต้องสแกนคิวอาร์โค้ด “ไทยชนะ” เช็คอินเมื่อเข้าขบวนรถและเช็คเอาท์ก่อนลงจากรถไฟฟ้าขบวนนั้นๆ โดยปัจจุบันผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT ได้กลับเข้ามาใช้บริการมากขึ้นเฉลี่ย 250,000 คนต่อวัน
นอกจากนี้ยังคงขอความร่วมมือผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยผู้โดยสารทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนเข้าสถานีและตลอดเวลาที่ใช้บริการ ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าระบบรถไฟฟ้า โดยอุณหภูมิต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลที่มีบริการในทุกสถานีทั้งก่อนและหลังการใช้บริการ เว้นระยะระหว่างบุคคล (Social Distancing) อย่างน้อย 1 เมตรขณะใช้บริการในสถานี
นอกจากนี้ ได้จัดขบวนรถเสริมในระบบรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ให้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็นในระบบอีก 9 ขบวน จากปกติจะมีขบวนรถให้บริการ 40 ขบวน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ในกรณีที่สถานีรถไฟฟ้าสถานีใดมีผู้โดยสารหนาแน่นมาก จะนำขบวนรถเสริมให้บริการที่สถานีนั้นเป็นสถานีแรก โดยไม่จอดรับผู้โดยสารที่สถานีก่อนหน้า
รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ยกเลิกการ เว้นที่นั่ง และที่ยืนในขบวนรถไฟฟ้า BTS เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารช่วงเปิดเทอมที่เพิ่มสูงขึ้น โดยควบคุมความหนาแน่นของผู้โดยสารที่จะเข้าสถานีรถไฟฟ้า ชั้นชานชาลา และภายในขบวนรถไฟฟ้า ไม่เกิน 70% พร้อมทั้งจำกัดจำนวนผู้โดยสารเข้าใช้บริการเป็นกลุ่ม (Group Release) ในชั่วโมงเร่งด่วน ช่วงเวลาเช้า และช่วงเวลาเย็น
เน้นย้ำให้ผู้โดยสารทุกท่าน สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้ง ระหว่างการเดินทาง งดการพูดคุยภายในขบวนรถไฟฟ้า และงดคุยโทรศัพท์ในขบวนรถไฟฟ้า 100 % พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการหันหน้าเข้าหากันในขบวนรถไฟฟ้า
คัดกรองอุณหภูมิของผู้โดยสารก่อนเข้าใช้บริการในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส อุณหภูมิต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส และคัดกรองสุขภาพของเจ้าหน้าที่ ทุกครั้งก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงจัดจุดบริการแอลกอฮอล์ ทุกทางเข้า-ออกสถานี เพิ่มความถี่ในการฉีดพ่น เช็ดทำความสะอาด ภายในขบวนรถไฟฟ้า จุดสัมผัสร่วมภายในสถานี และบริเวณรอบสถานี
บริษัทยังคงเดินรถในความถี่สูงสุด 2 นาที 25 วินาที ในสายสุขุมวิท และ ในสายสีลมความถี่ 3 นาที 45 วินาที ในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อให้ลดปริมาณความหนาแน่นของผู้โดยสารที่มาใช้บริการ และขอให้ผู้โดยสารทุกท่านโปรดเผื่อเวลาในการใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส
ขอความร่วมมือผู้โดยสารทุกท่านลงทะเบียน “ไทยชนะ” เมื่อเข้า และออกจากขบวนรถไฟฟ้าขบวนนั้นๆ ด้วยการพิมพ์หมายเลขขบวนรถไฟฟ้า 4 หลัก ลงในแอพพลิเคชั่น BTS SkyTrain หรือ Line official : @btsskytrain
แถลงการณ์ขอบคุณประชาชน
ด้านกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ในนามของรัฐบาลภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม ออกแถลงการณ์ขอบคุณผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางราง ที่ร่วมฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ในการร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเคร่งครัดตลอด 4 เดือนตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ดีเดย์ 1ก.ค.นี้!! ศบค.ไฟเขียวเปิดบริการ ‘ผับ-บาร์-คาราโอเกะ-อาบอบนวด’ ไม่เกินเที่ยงคืน!!
- เปิดทาง ‘โลว์คอสต์’ ขึ้นราคา หลังออกกฎต้องขายตั๋วที่เว้นที่สกัดไวรัส
- ไฟเขียว ‘สายการบินในประเทศ’ กลับมาขายตั๋วได้ 100% ของที่นั่ง