คนไทยกระเป๋าแห้ง เจอพิษโควิด โพลจุฬาฯ เผยหันพึ่งเงินกู้ ทั้งนอกระบบ และในระบบ ไปจนถึงหยิบยืมคนใกล้ตัว โรงรับจำนำ ร้านทอง แหล่งพึ่งพิงด่วน
ศาสตราจารย์ ดร. ปาริชาต สถาปิตานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการศึกษาทางเลือกของสภาพคล่องทางการเงินของคนไทย พบว่า ยาม คนไทยกระเป๋าแห้ง พร้อมจะเลือกใช้บริการ ทั้งเงินกู้ในระบบ และเงินกู้นอกระบบ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในดำรงชีวิต
ผลการศึกษาดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่าง ภาควิชาการประชาสัมพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล โดยศึกษาความคิดเห็นประชาชนในตัวเลือก หรือทางออกของ สภาพคล่องทางการเงิน ในช่วงที่สังคมไทย เผชิญสถานการณ์ไม่ปกติ จากกรณีโควิด-19 จำนวน 1,200 ตัวอย่างจากทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ของผู้ตอบแบบสอบถาม หรือ 65.5% ต้องพึ่งพาหาสภาพคล่อง จากเงินกู้ในระบบ รองลงมา 21.2% ต้องพึ่งพาหาสภาพคล่องจาก ทั้งเงินกู้ในระบบ และ นอกระบบ ขณะที่ 4.1% พึ่งพาเงินกู้นอกระบบอย่างเดียว และ 9.2% ระบุอื่น ๆ
เมื่อให้ คนไทยกระเป๋าแห้ง ระบุแหล่งที่มา เมื่อต้องการทางออกของสภาพคล่องทางการเงิน พบว่า อันดับที่ 1 เลือกใช้บริการ โรงรับจำนำอีซี่ มันนี่ 53.2% อันดับที่ 2 ยืมเพื่อนหรือญาติ 46.1% อันดับที่ 3 ร้านทอง 42.9% อันดับที่ 4 บัตรกดเงินสด 28.4% อันดับที่ 5 โรงรับจำนำของรัฐ (สถานธนานุเคราะห์) 24.8% ที่เหลือคือ บัตรเครดิต สินเชื่อธนาคาร สินเชื่อส่วนบุคคล เล่นแชร์ และ โรงรับจำนำสยาม
ส่วนกลุ่มที่ระบุว่า ยังไม่เคยมีประสบการณ์ กับปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน มองว่า หากต้องใช้บริการตัวเลือก หรือทางออก หรือสภาพคล่องทางการเงิน จะเลือกใช้บริการ ร้านทอง เป็นอันดับแรก ที่ 15.7% ตามด้วย ยืมเพื่อน /ญาติ 15.3% โรงรับจำนำ อีซี่มันนี่ 15.2% โรงรับจำนำ Cash Express 10.8% และ บัตรกดเงินสด 10.3% ที่เหลือเป็นบัตรเครดิต โรงรับจำนำของรัฐ โรงรับจำนำ สถานธนานุบาล สินเชื่อธนาคาร สินเชื่อส่วนบุคคล
สำหรับสาเหตุที่คนไทยจำนวนมาก ยังพึ่งพิงโรงรับจำนำเป็นหลัก สะท้อนมาในทัศนคติของผู้บริโภค ที่มีต่อโรงรับจำนำ หรือทางออกของสภาพคล่อง ว่า เพราะ ดอกเบี้ยถูกถึง 68.5% ได้เงินเร็ว 60.3% ทรัพย์สินไม่หาย ถ่ายของคืนได้ 40.5% เหมาะสำหรับต้องการเงินด่วน 38.5% และไม่ต้องมีคนค้ำประกัน 35.9%
ส่วนที่เหลือ เป็นเพราะ ขั้นตอนง่ายใช้บัตรประชาชนใบเดียว ได้เงินเร็ว ไม่เสียเครดิตถ้าปล่อยของหลุด สามารถผ่อนชำระเป็นงวดๆ ได้ ระยะเวลาในการฝากนาน แม้จะยังมีความกังวลอยู่บ้างว่า กลัวทรัพย์ถูกเปลี่ยน
ผลการสำรวจ ยังพบว่า เมื่อพูดถึงโรงรับจำนำแบรนด์ที่นึกถึงเป็นอันดับที่ 1 คือ โรงรับจำนำอีซี่มันนี่ 49.8% ตามด้วยโรงรับจำนำของรัฐ (สถานธนานุเคราะห์) 22.4% ร้านทองและโรงรับจำนำ Cash Express 8.2% สถานธนานุบาล 5.5% และโรงรับจำนำสยาม 3.7%
ขณะที่ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้แบรนด์โรงรับจำนำ มากจาก ดอกเบี้ยถูก 63.8% ราคาเป็นธรรม มีมาตรฐาน 60.8% ความน่าเชื่อถือโดยรวม 41.1% เชื่อมั่นในการเก็บทรัพย์จำนำของลูกค้า 32.4% และสถานที่สะอาดและทันสมัย 29.3%
นอกจากนี้ หากพิจารณาในมิติการสื่อสาร ประเด็นด้านการรับรู้ นับเป็นหัวใจสำคัญที่สะท้อน “ภาพจำฝังหัวผู้คน” โดยภาพของโรงรับจำนำ ร้านทอง หรือการหยิบยิมจากคนใกล้ชิด มักเป็น “ภาพจำ” ในคอนเทนต์ที่คนไทยพูดคุยหรือแนะนำกัน ในฐานะ “แหล่งพึ่งพิง” ยามที่ชีวิตต้องการทางออกแบบด่วนจี๋ คล่องตัว และเข้าถึงได้ง่าย
ขณะเดียวกัน การที่ธุรกิจโรงรับจำนำเอกชน และธุรกิจร้านทองยุคใหม่ ได้ทำงานเชิงรุก ในด้านการสร้างแบรนด์ และการสร้างการรับรู้ (visibility) และการเข้าถึง (accessibility) ให้ผู้คนอย่างโดดเด่น อาทิ การจัดตั้งอยู่ในแหล่งที่เป็นแลนมาร์คของชุมชน การออกแบบหน้าร้านให้ดูโปร่งใส น่ามอง การใช้โทนสีที่โดดเด่นสะดุดตา ทำให้ยิ่งสร้าง ภาพจำ มากยิ่งขึ้นด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ไฟเขียว! คลังค้ำประกันเงินกู้ซอฟท์โลน 2 พันล้านให้โรงรับจำนำ
- ไฟเขียวปล่อยกู้ ‘โรงรับจำนำ’ 500 ล้านหลังคาดปชช.แห่ใช้เพิ่ม
- น้าค่อม เตือนอย่าหลงเชื่อ! โดนมือดีแอบอ้างชื่อ ปล่อยเงินกู้นอกระบบ
