ค้าปลีกกรุงเทพตะวันออก ดุเดือด เซ็นทรัลตีโอบล้อมทุกทาง ฝั่งสยามพิวรรธน์ ส่ง สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต สู้ศึก เดอะมอลล์ ปักธง แบ็งคอก มอลล์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธุรกิจค้าปลีกกรุงเทพตะวันออกแข่งเดือด จากผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ อย่าง กลุ่มเซ็นทรัล และสยามพิวรรธน์ ที่ต่างเข้ามายึดทำเลฝั่งกรุงเทพตะวันออก เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อ ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ นักช้อปในประเทศ และ การโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
ทั้งนี้ เห็นได้จากการขยับรุกขยายสาขาของกลุ่มเซ็นทรัล ที่เข้าไปปักหมุดเปิดให้บริการหลายสาขา โดยเฉพาะ ห้างเซ็นทรัล ที่ยึดทำเลถนนสุขุมวิท บางนาตราด โดยมีทั้ง เซ็นทรัล สาขาบางนา, ชลบุรี, พัทยา และล่าสุด ได้เปลี่ยนจาก ห้างโรบินสัน สาขาเมกา บางนา เป็นเซ็นทรัล เมกา บางนา แทน รวมถึง เซ็นทรัล วิลเลจ ที่เป็น ลักชัวรี่ เอาท์เล็ต ปากทางสนามบินสุวรรณภูมิ ฝั่งถนนบางนาตราด
นอกจากนี้ ห้างโรบินสัน ในเครือเซ็นทรัล ก็ได้ขยายสาขาถึง 4 สาขา ในฝั่งกรุงเทพตะวันออก ได้แก่ โรบินสัน สาขาซีคอนสแควร์, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์มอลล์ สมุทรปราการ และลาดกระบัง รวมถึง โรบินสัน เมกา บางนา ที่เพิ่งเปลี่ยนเป็นห้างเซ็นทรัล
สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต พร้อมลงสนาม 19 มิ.ย.นี้
ฝั่ง บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ก็มองเห็นโอกาสการเติบโตของเศรษฐกิจ ฝั่งตะวันออก ด้วยการเตรียมเปิด สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ในวันที่ 19 มิถุนายน 2563 นี้ โดยปักธงย่านลาดกระบัง เน้นการเป็น ลักชัวรี่พรีเมี่ยมเอาท์เล็ต ที่ต้องเรียกว่า ชนกับ เซ็นทรัล วิลเลจ อย่างจัง
สำหรับ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ดำเนินการโดย บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ร่วมกับ ไซม่อน พรอพเพอร์ตี้ กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกอันดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกา โดยมีแผนลงทุนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เปิด สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต 3 แห่ง เริ่มจากสาขากรุงเทพ ที่จะเปิดในวันพรุ่งนี้
เปิดเซ็นทรัล เมกาบางนา แทนโรบินสัน
ประเด็นที่น่าจับตาหลังจากนี้ คือ การปรับตัวของผู้ประกอบการเพื่อรับมือการแข่งขัน ค้าปลีกกรุงเทพตะวันออกเดือด เห็นได้จากการที่ กลุ่มเซ็นทรัล ที่ยกระดับ ห้างโรบินสันเมกาบางนา เปลี่ยนเป็น ห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา พร้อมเพิ่มสินค้าแบรนด์เนมจาก 400 แบรนด์ เป็นกว่า 1,000 แบรนด์ ภายใต้งบลงทุนปรับเปลี่ยนครั้งนี้กว่า 50 ล้านบาท
นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัลรีเทล เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โรบินสัน เปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ รวมทั้งสิ้น 51 สาขา ใน 36 จังหวัด มีพื้นที่ขาย รวมทั้งสิ้น 583,300 ตร.ม.
ทั้งนี้ จากการควบรวมกิจการกับบริษัท เซ็นทรัลรีเทล จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ทำให้เกิดการปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัลใหม่ จากห้างเซ็นทรัล 23 สาขา และ โรบินสัน 51 สาขา ทำให้ ซีอาร์ซี มีธุรกิจดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ มากถึง 74 สาขา
การปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกดังกล่าว จะเน้นการปรับเปลี่ยน โรบินสัน และเซ็นทรัล ในบางสาขา เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว โดยปีนี้ จะเริ่มปรับสาขาแรกคือ ห้างโรบินสัน เมกาบางนา ที่เปิดมาแล้ว 8 ปี เปลี่ยนเป็น เซ็นทรัล เมกา บางนา
“โรบินสัน เมกาบางนา เป็นสาขาที่มีกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง ตั้งอยู่ในทำเลที่มี อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายโครงการ ใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติ มีสถานศึกษาขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมถึงมีระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้า MRT รองรับ ซึ่งในอนาคตจะมีการขยายตัวค่อนข้างสูง และกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก จึงเหมาะสมในการปรับภาพลักษณ์ใหม่ เป็น เซ็นทรัลเมกาบางนา”นายวุฒิเกียรติ กล่าว
กลุ่มเซ็นทรัลปรับโมเดลบิสซิเนส
นอกจากนี้ การปรับบิสสิเนสโมเดลใหม่ของโรบินสัน ยังควบรวมไปถึงการหา ช่องทางใหม่ เพื่อรองรับกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันโรบินสันได้พัฒนาแพลตฟอร์มการขายทั้ง 4 ช่องทางให้ตอบโจทย์ความสะดวกสบายแก่นักช้อปมากที่สุด ได้แก่ โรบินสันออนไลน์, เฟซบุ๊ก ไลฟ์, แชท แอนด์ ช้อป และ คอลล์ แอนด์ ช้อป
ช่องทางเหล่านี้จะเข้ามาช่วยเสริมทัพการตลาดของโรบินสันให้มีความแข็งแกร่ง และสามารถตอบรับ NEW NORMAL LIFE และสถานการณ์ DIGITAL DISRUPTION ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้โรบินสันก้าวสู่การเป็น “ออมนิชาแนล ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์” ตามแผนงานที่วางไว้
ด้าน นางณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล กล่าวเพิ่มเติมว่า ห้างเซ็นทรัล เมกาบางนา จะเปิดให้บริการวันที่ 2 กรกฏาคม 2563 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นกลุ่มคนวัยทำงานและครอบครัวคนรุ่นใหม่ ที่มีศักยภาพสูง ชอบพาครอบครัวมาใช้ชีวิตภายในห้าง
ขณะเดียวกัน ยังมีแผนปรับเปลี่ยนห้างเซ็นทรัล และโรบินสันอีกประมาณ 2 สาขา ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียด ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน การขยายสาขาห้างเซ็นทรัล ปีละไม่ต่ำกว่า 1 สาขา และ โรบินสันที่จะเปิดเพิ่มปีละ 1 สาขา เช่นกัน
บางนา-ตราด ทำเลทองแห่งอนาคต
ปัจจุบัน พื้นที่ย่าน บางนา-ตราด ถือเป็นทำเลทองเพราะเป็นย่านเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง ทั้งยังเป็นประตูสู่ภาคตะวันออกเชื่อมต่อหลายจังหวัด อาทิ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และเป็นหน้าด่านก่อนเข้าสู่กรุงเทพมหานคร
ในอนาคตอันใกล้ ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้ารางคู่ บางนา-สุวรรณภูมิ ที่จะเป็นแรงเสริมการเติบโตของพื้นที่นี้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมาก มีโครงการบ้านจัดสรรมากถึง 18 โครงการ และอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เดินทางเพียง 25 นาที ทั้งจำนวนประชากรในย่านนี้ มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ ค้าปลีกกรุงเทพตะวันออก กลายเป็นสมรภูมิที่น่าจับตา ถึงการเติบโตของภาคธุรกิจที่มองเห็นโอกาสและเข้าไปลงทุนเพิ่มขึ้น
เดอะมอลล์ ร่วมวง ส่ง แบ็งคอกมอลล์ดักปากทาง
ไม่เพียงแต่ เซ็นทรัล และสยามพิวรรธน์เท่านั้น ที่เข้ามาช่วงชิงตลาดค้าปลีก ฝั่งกรุงเทพตะวันออก เพราะ กลุ่มเดอะมอลล์ เอง ก็อยู่ระหว่างการก่อสร้าง “แบงค็อก มอลล์” เพื่อดักกำลังซื้อเส้นบางนาตราดเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เปิดตัวโครงการ แบงค็อก มอลล์ บนทำเลย่านบางนาตัดกับถนนสุขุมวิท ตรงข้ามศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา มีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ พื้นที่โครงการกว่า 650,000 ตารางเมตร เพื่อให้เป็นอาณาจักรศูนย์การค้าและที่อยู่อาศัย รวมถึงออฟฟิศแบบครบวงจร ด้วยงบลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท
จากทำเลที่จะกลายเป็นทองในอนาคตอันใกล้ ด้วยปัจจัยหนุนต่างๆ ที่มีอยู่ และที่กำลังจะเกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ กรุงเทพฝั่งตะวันออก จะกลายเป็นอีกหนึ่งทำเลเดือดในสมรภูมิค้าปลีกแน่นอน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โรบินสัน ปรับโมเดลค้าปลีกยุค New Normal พร้อมเสิร์ฟเมนู 19 บาท
- ‘สยามพิวรรธน์’ ชี้ โควิด มาเพื่อ ‘รีเซ็ต’ คาดค้าปลีกวูบ 50% เร่งปั้นรีเทลโมเดลใหม่ รับ New Normal
- ‘ซีอาร์ซี’ กำไรวูบ 63% เซ่นโควิด-19 ยันเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง
