แกร็บมาร์ท ได้ฤกษ์เปิดบริการใน 8 ประเทศอาเซียน ที่แกร็บดำเนินธุรกิจอยู่ โดยให้บริการซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ตามออเดอร์ลูกค้า
เดมิ ยู (Demi Yu) หัวหน้า แกร็บฟู้ด (GrabFood) และ แกร็บมาร์ท (GrabMart) เปิดเผยว่า หลังจากทดลองเปิดให้บริการ แกร็บมาร์ท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาในบางประเทศ ล่าสุด แกร็บ พร้อมเปิดให้บริการแกร็บมาร์ท ใน 8 ประเทศที่แกร็บเข้าไปดำเนินกิจการ ได้แก่ สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, เมียนมา, กัมพูชา และประเทศไทย ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
บริการแกร็บมาร์ท เป็นบริการซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ ผ่านบริการของแกร็บ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อได้โดยไม่ต้องออกจากบ้านไปซื้อสินค้าเอง
ทั้งนี้ การตัดสินใจเปิดให้บริการทั้ง 8 ประเทศ เนื่องจากเห็นความต้องการสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้า ในช่วงกักตัวอยู่บ้าน และมาตรการล็อกดาวน์ ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงการระบาดของ ไวรัสโควิด – 19 โดยถึงปัจจุบัน ได้เปิดให้บริการ แกร็บมาร์ท แล้ว 50 เมืองในแปดประเทศในอาเซียน รวมถึงพม่าและกัมพูชา
“ไวรัสโควิด-19 เร่งความต้องการบริการจัดส่งตามความต้องการ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ แกร็บ สามารถนำเทคโนโลยีที่มีอยู่ รวมถึงเครือข่ายการจัดส่งที่กว้างขวาง ทำให้ขยายการให้บริการทั่วภูมิภาคได้อย่างรวดเร็ว”
ปัจจุบัน บริการแกร็บมาร์ท ได้ร่วมมือกับพันธมิตรร้านค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตมากกว่า 3,000 แห่งในภูมิภาคอาเซียน รวมถึง แฟร์ไพร์ซ เอ็กซ์เพรส (FairPrice Xpress) ในสิงคโปร์, ลอว์สัน ในฟิลิปปินส์ และ แฟมิลี่มาร์ท ในประเทศอื่น ๆ
ขณะที่ในประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นการร่วมมือกับผู้ประกอบการตลาด แบบดั้งเดิม หรือ ร้านโชห่วย ส่งมอบผลผลิตสดใหม่จากแผงขายของหลายแห่งในการสั่งซื้อและจัดส่งถึงประตูลูกค้า
สำหรับในประเทศไทย ได้เริ่มทดลองให้บริการแกร็บมาร์ท ในปี 2561 โดยรับบริการสั่งซื้อสินค้าจาก แฟมิลี่มาร์ท, ท็อปส์เดลี่, ท็อปส์ มาร์เก็ต, เซ็นทรัล ฟู้ดฮอลล์ และ แม็กซ์แวลู และอื่นๆ อีกมาก ปัจจุบันเปิดบริการแล้ว ใน 14 จังหวัด
สำหรับแอปพลิเคชั่น “แกร็บ” มียอดการดาวน์โหลดบนโทรศัพท์มือถือไปแล้วกว่า 163 ล้านเครื่อง ทำให้ผู้ใช้บริการ เข้าถึงพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ ร้านค้า และผู้แทนกว่า 9 ล้านราย โดย เชื่อว่า มีเครือข่ายการให้บริการขนส่งทางบก ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค จากการให้บริการการเดินทางไปแล้ว มากกว่า 3,000 ล้านเที่ยว นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2555
นอกเหนือจากบริการการเดินทางแบบออนดีมานด์แล้ว ยังนำเสนอบริการด้านอื่นๆ ให้ผู้ใช้ทั่วทั้ง 339 เมืองใน 8 ประเทศ ได้แก่ การบริการรับส่งอาหาร การจัดส่งสินค้าและพัสดุ ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนบริการทางการเงิน
ในประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นหนึ่ง ในตลาดหลักของแกร็บ โดยหลังเปิดบริการมาแล้วกว่า 6 ปี ได้ขยายธุรกิจไปในบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บริการสั่งอาหารออนไลน์ผ่าน แกร็บ ฟู้ด, บริการส่งพัสดุหรือสิ่งของผ่าน แกร็บ เอ็กซ์เพรส, ฟีเจอร์สั่งซื้อของสด หรือ สินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต อย่าง แกร็บมาร์ท รวมถึงบริการทางการเงินต่างๆ ผ่าน แกร็บ เพย์
จากสถิติในปี 2562 พบว่า สัดส่วนการให้บริการพาร์ทเนอร์ของแกร็บมากกว่า 1 แสนคนทั่วประเทศ ส่วนใหญ่แล้ว จะให้บริการจัดส่งอาหาร (GrabFood) และส่งพัสดุ (GrabExpress) มากที่สุดเป็นอันดับ 1 คิดเป็นสัดส่วน กว่า 77% ตามมาด้วยพาร์ทเนอร์ที่ให้บริการแกร็บคาร์ (GrabCar) แกร็บแท็กซี่ (GrabTaxi) แกร็บไบค์ และบริการ แกร็บ ไดรฟ์ ยัวร์ คาร์ (GrabDriveYourCar) อีก 23%
- ‘แกร็บ’ ร่อนสารยัน ‘ธรินทร์ ธนียวัน’ ลาออกแล้ว
- ‘แกร็บ’ เข้ม ตรวจผู้ขับขี่ สแกน ‘โควิด-19’ พร้อมรับคลายล็อกดาวน์
- วัยเกษียณหัวใจสู้ ‘ลุงพันธ์’ ขับแกร็บส่งอาหาร ขอเพียงไม่ยอมแพ้
