หาดบางแสน ที่เกิดภาพผู้คนแห่เที่ยว สะท้อนถึงผลกระทบ จากไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อการท่องเที่ยวไทย ในหลากหลายแง่มุม ทั้งฝั่งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ไปจนถึงประชาชน
งานนี้ยังร้อนถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ออกมาแสดงความกังวลว่าอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งไม่เฉพาะหาดบางแสนเท่านั้น แต่รวมถึงการท่องเที่ยวชายหาดอื่นๆ ด้วย
แม้ว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะออกมารับลูกกรณีนี้ ด้วยการวางแนวปฎิบัติด้านสาธารณสุข ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 สำหรับแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวชายหาดขึ้น ทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยว ที่ต้องเว้นระยะห่างระหว่างกลุ่มที่นั่งพัก และปูเสื่อบริเวณชายหาด และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลที่ไม่ได้มาด้วยกันอย่างน้อย 1-2 เมตร สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ
ขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการร้านค้า ผู้ให้บริการ ก็ต้องจัดเต็มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่ถุงมือ เฟซชิลด์ จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอ ทำความสะอาดห้องน้ำ ห้องสุขาอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เน้นจุดสัมผัสที่เป็นกลุ่มเสี่ยง จัดถังขยะมีฝาปิดเพียงพอ ให้คำแนะนำ/ สื่อ/ เสียงตามสายประชาสัมพันธ์ขั้นตอน การลงทะเบียนนักท่องเที่ยว เป็นต้น
นอกจากนี้ อีกส่วนสำคัญไม่แพ้กันคือ หน่วยงานในพื้นที่ ที่ต้องมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ซึ่งชายหาดบางแสน ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการแก้ไขปัญหา ด้วยการปิดถนนเข้าหาดทันทีเมื่อพบปัญหา และนำปัญหาที่เกิดขึ้น มาวางแนวทางปฏิบัติให้เข้มข้นขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอย
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ยังให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว ด้วยการสั่งเข้มเรื่องการใส่หน้ากาก การเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งยึดตามหลักของสาธารณสุข คือ ถ้าเป็นในที่โล่งแจ้ง 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร
ขณะเดียวกัน ยังนำวีธีการเข้าห้างสรรพสินค้ามาใช้ควบคู่กัน ด้วยการควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปชายหาดบางแสน โดยให้ตำรวจควบคุมการจราจรปริมาณรถยนต์ที่เข้าไปถนนหน้าหาดบางแสน หากถ้ามีคนอยู่ในพื้นที่ในปริมาณที่กำหนดแล้ว ก็ยังไม่สามารถเข้าได้ ต้องรอให้มีคนออกจากพื้นที่เสียก่อน พร้อมได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการจราจรให้เรียบร้อย
แต่สิ่งสำคัญที่จะแก้ปัญหานี้อย่างได้ผล กลับเป็นการตระหนักอย่างแท้จริงของประชาชนถึงการร่วมมือทำตามมาตรการป้องกันของภาครัฐอย่างเคร่งครัด และด้วยความเต็มใจ เพราะเห็นถึงประโยชน์ของมาตรการอย่างแท้จริง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชายหาดบางแสน นอกจากจะทำให้เกิดความตื่นตัวในการแก้ปัญหาจากทุกภาคส่วนแล้ว ยังส่งผลให้เกิดการวางมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มข้นขึ้น รัดกุมมากขึ้น อันจะนำมาซึ่งมาตรฐานใหม่ด้านความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรัฐบาลมีนโยบายผ่อนปรนเพิ่มมากขึ้น เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งต้องยอมรับว่า การท่องเที่ยว เป็นเครื่องจักรหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เห็นได้จาก การเตรียมเปิด Travel Bubble หรือการจับคู่เปิดการท่องเที่ยวกับประเทศต่างๆ ที่มั่นใจได้ว่า มีความปลอดภัยจากโควิด-19 เป็นสิ่งสะท้อนชัดเจนว่า รัฐบาลหมายมั่นปั้นมือที่จะฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ทั้งนี้ หากทำได้ ย่อมนำมาซึ่งการเที่ยวซ้ำอย่างมั่นใจ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะชายหาดเท่านั้น หากแต่ต้องใช้กับทุกสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย และไม่ใช่ใช้เฉพาะช่วงที่เกิดโควิด-19 เท่านั้น หากแต่ต้องทำให้เป็น New Normal หรือความปกติใหม่ของการท่องเที่ยวไทย หลังจากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกด้วย
และนั่นหมายความว่า เป้าหมายของการฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย จะไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน
- ‘เที่ยวชายหาด’ อ่านตรงนี้ สธ.ออกแนวปฎิบัติด้านสาธารณสุข กันซ้ำรอย ‘บางแสน’
- บางแสนแออัด! ‘บิ๊กตู่’ ห่วงคนแห่เที่ยว เสี่ยงโควิดแพร่ระบาด
- วันหยุดนักท่องเที่ยวแน่น! สั่งปิด ‘หาดบางแสน’ กลางอากาศ
