Business

‘มาตรการผ่อนปรนระยะ 3’ หนุนตลาดแรงงานส่อฟื้น สัญญานบวกจ้างงานเพิ่ม

มาตรการผ่อนปรนระยะ 3 ส่งสัญญานบวกตลาดแรงงาน “จ๊อบส์ ดีบี” เผยแนวโน้มความต้องการจ้างงานเพิ่ม ธุรกิจโลจิสติกส์ คว้าแชมป์ดีมานด์เติบโต 23% ขณะที่งานไอที งานขาย มาแรง

นางสาวพรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มาตรการผ่อนปรนระยะ 3 ส่งผลให้ภาพรวมความต้องการแรงงานทั่วประเทศไทย ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม พบสัญญาณการรับสมัครงานเพิ่มขึ้น ขณะที่ข้อมูลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรคนไทยเมื่อเดือนมีนาคมพบว่า มีจำนวนคนว่างงานกว่า 3.92 แสนคน

ผ่อนปรนระยะ 3

หลังจาก ผ่อนปรนระยะ 3 พบว่า มีการรับสมัครงานเพิ่มขึ้นใน 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจโลจิสติกส์ เพิ่มขึ้น 23% 2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้น 13% 3. ธุรกิจโฆษณา ธุรกิจการตลาด ธุรกิจประชาสัมพันธ์ เพิ่มขึ้น 6% 4. ธุรกิจประกันภัย เพิ่มขึ้น 5% และ 5. ธุรกิจขายส่ง ธุรกิจขายปลีก เพิ่มขึ้น 2%

จะเห็นได้ว่าการเติบโตของของภาคธุรกิจเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนมากขึ้น เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ที่มีการเติบโตจากการขนส่งสินค้าออนไลน์ รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการสั่งอาหารเดลิเวอรี่เพิ่มมากขึ้น ส่วนธุรกิจประกันภัยมีการเติบโต เนื่องจากผู้คนให้ความสำคัญกับประกันสุขภาพมากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงธุรกิจขายส่ง ธุรกิจขายปลีก ที่มีแน้วโน้มเติบโตอันเป็นไปตามเทคโนโลยีดิจิทัล

ส่วน 5 สายอาชีพที่ยังคงมีความต้องการคนทำงาน ได้แก่ 1. งานขาย งานบริการลูกค้า งานพัฒนาธุรกิจ 2. งานไอที 3. งานวิศวกรรม 4. งานการตลาด งานประชาสัมพันธ์ และ 5. งานธุรการ งานทรัพยากรบุคคล

ผ่อนปรนระยะ 3

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่ากลุ่มธุรกิจและสายงานไอทีเป็นกลุ่มที่มีความต้องการคนทำงานสูง เนื่องจากหลายองค์กรมีการปรับตัวรับ New Normal รวมถึงการทำงานให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ในขณะที่ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่าย มีการเตรียมความพร้อมรับคนกลับมาทำงานหลังภาพรวมต่าง ๆ เริ่มส่งสัญญาณในทิศทางที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังพบว่า อัตราการสมัครงานยังเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับในเดือนเมษายน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นไปตามกลไลของสถานการณ์ที่เริ่มดีขึ้นตามลำดับ

ในขณะที่ 5 กลุ่มธุรกิจที่มีจำนวนประกาศงานลดเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว, ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจบริการ ธุรกิจจัดเลี้ยง, ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจสถาปัตยกรรม, ธุรกิจยานยนต์ และ ธุรกิจวิศวกรรมก่อสร้าง-ธุรกิจวิศวกรรมโยธา-ควบคุมอาคาร

นางสาวพรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์
พรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์

สำหรับภาพรวมของฝั่งคนหางาน พบว่าในเดือนพฤษภาคมผู้สมัครงานมีจำนวนการสมัครงานเพิ่มขึ้น คิดเป็น 20% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน ทั้งจากคนทำงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ รวมถึงผู้สมัครงานบางส่วนเริ่มมีความเชื่อมั่นในสถานการณ์และมองหาโอกาสในการทำงานเพิ่มขึ้น หลังการ ผ่อนปรน เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากใบสมัครเติบโตสูง พบว่า 1. ธุรกิจ เทรดดิ้ง ธุรกิจจัดจำหน่าย เพิ่มขึ้น 32% 2. ธุรกิจสารเคมี พลาสติก กระดาษ ปิโตรเคมี เพิ่มขึ้นสูงถึง 13% 3. ธุรกิจไอที  เพิ่มขึ้น 10% และ 4. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจจัดเลี้ยง เพิ่มขึ้น 2%

คนสมัคร

ในช่วงเวลาเดียวกันยังแสดงให้เห็นถึง 5 กลุ่มสายงานเป็นที่ต้องการของผู้สมัครงานสูงคือ 1. อีคอมเมิร์ซ เพิ่มขึ้น 75% 2. งานขาย งานบริการลูกค้า งานพัฒนาธุรกิจ เพิ่มขึ้น 3% 3. งานบัญชี เพิ่มขึ้น 3% 4. งานไอที เพิ่มขึ้น 3% 5. งานการตลาด งานประชาสัมพันธ์  เพิ่มขึ้น 2% ตามลำดับ

นอกจากนี้ เพื่อช่วยภาคคนหางานและภาคธุรกิจให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จ๊อบส์ ดีบี ได้เปิดตัวโครงการ “ทูเก็ตเทอร์อเฮด” (#TogetherAhead) ช่วยเหลือผู้หางานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยผู้ประกอบการสามารถลงประกาศงานฐานเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ดูรายละเอียดได้ที่ https://th.jobsdb.com/togetherahead

Avatar photo