2 ค่ายรถยนต์รายใหญ่ของโลก “เรโนลต์” จากฝรั่งเศส และ “นิสสัน” ของญี่ปุ่น อยู่ระหว่างการเจรจาควบรวมกิจการ ในความพยายามที่จะนำการเป็นพันธมิตรที่ยาวนานมาร่วม 2 ทศวรรษ เข้ามาอยุ่ภายใต้ชายคาเดียวกัน
หากเกิดการทำข้อตกลงขึ้นจริง ก็จะเป็นการยุติการเป็นพันธมิตรในปัจจุบันระหว่าง 2 บริษัท เพื่อกลายมาเป็นบริษัทเดียวกัน
ปัจจุบัน เรโนลต์ถือหุ้นในนิสสันอยู่ 43% ขณะที่นิสสัน มีหุ้นอยู่ในหุ้นส่วนสัญชาติฝรั่งเศสรายนี้ 15% ซึ่งบลูมเบิร์ก รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า นายคาร์ลอส โกสน์ ประธานกรรมการบริหารของทั้ง 2 บริษัท เป็นผู้ผลักดันให้เกิดการเจรจาครั้งนี้ขึ้นมา และจะเป็นผู้บริหารบริษัทควบรวมใหม่
นักวิเคราะห์ชี้ว่า บริษัทควบรวมกิจการใหม่นี้ จะกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากขึ้น สำหรับ “โฟล์กสวาเก้น” ค่ายรถยนต์รายใหญ่ของเยอรมนี และ “โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป” ผู้ลิตรถยนต์เบอร์ 1 ของญี่ปุ่น จากการที่มีทรัพยากรที่ดีขึ้น และมากกว่าเดิม ในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่รถยนต์พลังงานใหม่ รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และบริการใช้รถยนต์ร่วมกัน
จาเน็ต ลูอิส นักวิเคราะห์จากแมคควารี ในกรุงโตเกียว ฮ่องกง กกล่าวว่า ขนาดเป็นเรื่องสำคัญในอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเรื่องที่น่ากังวลสำหรับการจับคู่รวมกิจการครั้งนี้ คือ รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ เพราะทั้งฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ต่างอยากที่จะเก็บรักษาธุรกิจที่เป็นแชมป์ของประเทศเอาไว้
รายงานข่าว ระบุด้วยว่า ภายใต้ข้อตกลงที่อยู่ระหว่างเจรจานั้น ผู้ถือหุ้นเรโนลต์ และนิสสัน จะได้รับหุ้นในบริษัทใหม่ ที่มีอาจมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงลอนดอน อังกฤษ หรือเนเธอร์แลนด์ แต่ยังคงรักษาสำนักงานใหญ่ในกรุงปารีส และกรุงโตเกียวไว้
ที่มา: บลูมเบิร์ก