การบินไทย (THAI) เป็นหุ้นที่ถูกจับมามองอย่างมากในขณะนี้ ด้วยสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีนักในปี 2562 จากทั้งปัจจัยภายนอก ที่อุตสาหกรรมการบินต้องหยุดชะงัก รวมถึงปัจจัยภายในเองที่ยังคงคารังคาซังอยู่หลายเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแผนฟื้นฟูการบินไทยที่ไม่ชัดเจนเสียที
ทั้งนี้ จึงอยากจะพาไปย้อนดูธุรกิจของการบินไทยกันสักหน่อยว่ากว่าจะถึงวันนี้ พวกเขาผ่านอะไรมาบ้าง โดยการบินไทยถูกจัดตั้งโดยรัฐบาลเมื่อปี 2503 หรือเมื่อ 60 ปีก่อน สำหรับเป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศไทย ซึ่งช่วงต้นนั้นเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท เดินอากาศไทย จำกัด ถือหุ้น 70% และสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ ที่ถือหุ้น 30%
จนกระทั่งในปี 2520 สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ ซิสเต็ม ได้ตัดสินใจขายหุ้นที่ถือทั้งหมดในการบินไทย ทำให้สถานะการร่วมทุนครั้งนั้นสิ้นสุดลง และการบินไทยจึงได้ทำการเพิ่มทุน โดยให้กระทรวงการคลังเข้ามาถือหุ้นใหญ่แทน
นับตั้งแต่นั้นเรียกว่าเป็นช่วงเติบโตของการบินไทยก็ว่าได้ มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนสามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ได้สำเร็จในปี 2534 นับเป็นจุดเริ่มต้นของหุ้น THAI
จุดเริ่มต้นหุ้นการบินไทย
หุ้น THAI เข้าเสนอขาย IPO ครั้งแรก เมื่อเดือนกรกฎาคม 2534 ที่ราคา 60 บาท/หุ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 13,000 ล้านบาท ซึ่ง ณ เวลานั้นถูกจับตามองอย่างมาก เพราะจำนวนหุ้นถูกจับจองจนไม่พอขาย
อย่างไรก็ดี เพียงวันแรกของการซื้อ-ขาย นักลงทุนก็ต้องพบกับความผิดหวัง เนื่องจากราคาหุ้นเปิดต่ำจองตั้งแต่วันแรก และที่สำคัญคือหลังจากนั้นหุ้นการบินก็ไม่เคยยืนระยะอยู่ที่ระดับนั้นได้อีกเลย โดยเฉพาะ 10 ปี ให้หลังมานี้ เป็นช่วงที่การบินไทยวิกฤติอย่างหนัก ทั้งผลประกอบที่ติดลบติดต่อกัน ภาพลักษ์องค์กร และราคาหุ้นที่ดิ่งลงเรื่อยๆ
คิดง่ายๆ เลยคือ หากคุณนำเงิน 100,000 บาท ลงทุนในหุ้นการบินไทย เวลาผ่านไป 10 ปี เงินก้อนนั้นจะเหลือเพียง 23,270 บาท หรือคิดผลตอบแทนติดลบ 76.73%
10 ปีย้อนหลัง การบินไทยขาดทุน 7 ปี
รายได้ของการบินไทย 90% เป็นรายได้จากการขนส่ง ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าธุรกิจสายการบินนั้นมีการแข่งขันกันสูง ยิ่งช่วงหลังที่สายการบินเพิ่มความถี่มากขึ้น และการเกิดขึ้นของสายการบินต้นทุนต่ำ จึงทำให้ผลประกอบการของการบินไทยย่ำแย่อย่างที่เห็น
อีกทั้ง ปัจจุบันการบินไทยมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม ทำให้เวลาจะปรับเปลี่ยนอะไรจึงไม่คล่องตัวเมื่อเทียบกับสายการบินอื่นๆ ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปี 2562 การบินไทยทำกำไรสุทธิเป็นบวกได้เพียง 3 ปีเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 7 ปี ขาดทุนหนักมาก
สวนทางกับภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันการบินไทยมีหนี้สินรวม 244,899 ล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะคิดเป็นอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ถึง 21 เท่า ซึ่งบริษัททั่วไปหาก D/E เกิน 5 เท่าก็นับว่าอันตรายมากแล้ว
กำไร หนี้สิน ราคาหุ้นการบินไทยในช่วง 10 ปี
อย่างไรก็ดี ช่วงเดือนเมษายน 2563 อยู่ดีๆ หุ้นการบินไทยก็กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง โดยทำราคาปรับขึ้นชนเพดานสูงสุดประจำวัน (Celling) 5 วันติดต่อกันแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องมาจากมีกระแสข่าวการเพิ่มทุนของกลุ่มธุรกิจใหญ่ และแผนฟื้นฟูองค์กรที่เหมือนจะเดินหน้ามากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยแผนฟื้นฟูธุรกิจการบินไทยระหว่างปี 2563 – 2567 ที่ระบุว่าจะแปรรูปการบินไทยเป็นบริษัทมหาชน และมีกลยุทธ์เด่นอื่นๆ เช่น การปรับลดขนาดองค์กร แผนปลดระวางเครื่องบิน และปรับปรุงเส้นทางบิน เป็นต้น ตามแผนดังกล่าวระบุว่าจะทำการบินไทยกลับมามีกำไรได้อีกครั้งในปี 2564
ทั้งนี้ทั้งนั้น จนถึงวันนี้เรื่องดังกล่าวก็ยังไม่ชัดเจนสักที ซึ่งก็คงต้องคอยลุ้นกันว่า แผนการปรับองค์กรรอบนี้จะไปจบลงที่ตรงไหน แน่นอนว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องพิจารณาให้ดี เพราะการเดิมพันครั้งนี้มีมูลค่าสูงมาก หากเลือกผิดแล้ว รับรองว่า เราคงได้เห็นผลลัพธ์สะท้อนออกมาในราคาหุ้นอย่างแน่นอน
- ‘ธนาธร’ เชียร์รัฐบาลลดถือหุ้น ‘บินไทย’ เหลือ 0-25% เปิดทาง 5 เจ้าสัวซื้อกิจการ
- เจาะลึกแผนฟื้นฟูการบินไทย!! 3 ปี เลิกจ้าง 5,867 คน – ดีเดย์ปีนี้ 1,523 คน ปูทางลดขนาดองค์กร
- ชงครม.กู้ 7 หมื่นล้าน อุ้มการบินไทยพ้นวิกฤติ – ตั้ง’โฮลดิ้ง’ถือหุ้น 5 บริษัทลูกภายใต้แผนฟื้นฟู