ดีไอทีพี ชี้ 5 โอกาสทองของสินค้าส่งออกไทยในวิกฤตโควิด – 19 พร้อมเปิดแผนช่วยผู้ประกอบการ ฝ่าคลื่นยักษ์ด้วยช่องทางตลาดใหม่ – ออนไลน์ เดินหน้าผลักดันงานแฟร์ – แมทชิ่งธุรกิจผ่านออนไลน์
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ดีไอทีพี) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด – 19 สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ได้ศึกษาปัจจัยและแนวโน้มเรื่องการส่งออกของสินค้าไทย พบว่า สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีความรุนแรงและส่งผลกระทบกับกิจกรรมการส่งออกในประเทศไทยเท่านั้น แต่ประเทศอื่น ๆ ที่พึ่งพาการส่งออกก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามก็ยังพบว่าในภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น ประเทศไทยมีสินค้า 5 ประเภทที่มีโอกาสในการส่งออกหรือกระจายสินค้าไปสู่ตลาดและผู้บริโภคต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ได้แก่
- สินค้าประเภทอาหาร โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้บริโภคในทุกประเทศ โดยในช่วงนี้สินค้าที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ อาหารแห้ง ข้าว อาหารกระป๋อง ซึ่งประเทศไทยมีกำลังในการผลิตเพื่อบริโภคและการจำหน่ายที่เพียงพอกับความต้องการทั้งภายในและภายนอก
- สินค้าด้านเวชภัณฑ์และการแพทย์ ซึ่งเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการเกือบเทียบเท่ากับกลุ่มอาหาร โดยอุปทานความต้องการมีมากทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากการดูแลสุขภาพและการป้องกันตัวของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าความต้องการจะยังคงมีมากอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการจึงควรศึกษาสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมนำไปปรับแผนการผลิตที่มีมาตรฐาน มีประสิทธิภาพ และเพียงพอต่อไป
- สินค้าและบริการด้านความบันเทิง และอุตสาหกรรมด้านเอนเตอร์เทนเมนท์ เนื่องจากการอยู่บ้านของประชาชนที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขานรับนโยบาย Social Distancing รวมทั้งการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home โดยธุรกิจบริการที่มีโอกาสเติบโตสูงได้แก่ ดิจิทัลคอนเทนท์ เกมส์ และภาพยนตร์ รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยในเรื่องการออกกำลังกายในบ้าน
- สินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน ซึ่งปัจจุบันพบว่า เริ่มมีสถานที่ในการจัดจำหน่ายที่น้อยลง จึงทำให้โอกาสดังกล่าวขยายไปสู่ช่องทางการซื้อขายออนไลน์และผู้บริโภคก็หันเข้าสู่ช่องทางดังกล่าวเช่นเดียวกัน
- กลุ่มสินค้าในอุตสาหกรรมขั้นกลาง เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ เส้นใยผลิตสิ่งทอ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ
ในส่วนของ กรมฯ ได้เตรียมมาตรการรองรับและสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการส่งออก ไว้หลายด้าน ประกอบด้วย
1.ลดการพึ่งพาตลาดหลักผลักดันการส่งออกสินค้าไปยังตลาดใหม่เพิ่มขึ้น
2.เร่งแก้ไขปัญหาในการส่งออกจากปัจจัยต่างๆของประเทศเป้าหมายส่งออกสินค้าและบริการ
3. เพิ่มศักยภาพการทำการค้าระหว่างประเทศ ด้วยการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการทำการค้าในเศรษฐกิจยุคใหม่ รวมถึงเร่งหาแนวทางรับมือต่อไป เพื่อให้ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศของผู้ประกอบการไทย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็วและไม่กระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเป็นเวลานานหลังจากวิกฤตดังกล่าวได้ผ่านไป
นอกจากนี้ ยังได้วางแนวทางที่จะนำพาผู้ประกอบการไปสู่ช่องทางออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งกรมฯ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ได้วางกิจกรรมส่งเสริมไว้เพิ่มเติมอีก 3 รูปแบบ ได้แก่ การจัดกิจกรรม Business Matching ออนไลน์ โดยรนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยกิจกรรมการเจรจาทางการค้า การนำเสนอสินค้า และการหาคู่ค้าระหว่างประเทศ , การจัดงานแสดงสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และการวางแผนและพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่เรียกว่า “NEA E-Learning Universe”
- สะเทือนหนัก! ส่งออกเดือนก.พ.ติดลบ 4.47%
- ส่งออกผลไม้ไทยสะเทือน ‘ไวรัสโควิด-19’ กระทบ ทำภาพรวมดิ่ง!!
- ‘จุรินทร์’ นำทัพสินค้าไทย เจาะตลาด ‘อินเดีย’ ขายแล้วกว่า 2,700 ล้าน