โกลเด้นแลนด์ ฝ่ากระแสอสังหาฯซบ ดันรายได้รวม 19,000 ล้านบาท โฟกัสทั้ง ทำเล ราคา สินค้า เดินหน้าเปิด 19 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าขายแนวราบ 33,000 ล้านบาท
นายแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลเด้นแลนด์เรสซิเดนซ์ จำกัด ในเครือ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ยังคงมีปัจจัยลบที่ไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจ ทั้งจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังทรงตัว และผลกระทบจากมาตรการแอลทีวี ที่ยังส่งผลต่อลูกค้าที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 3
นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากมาตรการเข้มงวดเรื่อง DSR (Debt Service Ratio) หรือ อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่แสดงถึง สัดส่วนรายจ่ายในการชำระหนี้ต่อรายได้ของครัวเรือน ซึ่งทำให้ลูกค้ากู้ได้ยากขึ้น ขณะที่หนี้สินครัวเรือนยังสูงอยู่ และค่าเงินบาทแข็ง ทำให้ลูกค้าต่างชาติชะลอการตัดสินใจซื้อ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ยังพอมองเห็นปัจจัยหนุนบ้าง จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ราคาวัสดุก่อสร้างที่มีแนวโน้มคงตัวและลดลง และแรงงานทางธุรกิจที่ยังมีมาก
ดังนั้น การจะสร้างยอดขายฝ่ากระแสการตลาดในปีนี้ จึงเป็นเรื่องของทักษะ (Skill) ความชำนาญแบบมืออาชีพ ราคาเป็นเรื่องสำคัญ ทำราคาได้ตรง ก็ไปได้ดี ทำเล ราคา สินค้า ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ต้องชั่ง ตวง วัด ให้ดี
“เหมือนเชฟปรุงอาหาร ทุกคนสามารถหาส่วนผสมได้เหมือนๆ กัน รู้เหมือนกันใช่ว่าจะทำได้เหมือนกัน อยู่ที่ใครจะใช้สูตรอะไรมาปรุงได้อร่อยถูกใจกว่ากัน มืออาชีพที่ทำมานาน ก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน และนี่คือความแตกต่าง ที่ทำให้บ้านโกลเด้นแลนด์ ไม่เหมือนใคร”นายแสนผินกล่าว
สำหรับผลประกอบการในปี 2562 ที่ผ่านมา โกลเด้นแลนด์มีรายได้รวม 17,168 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 8.6% เทียบกับปี 2561 โดยรายได้หลักมาจากการขายอสังหาริมทรัพย์ 15,305 ล้านบาท คิดเป็น 89% ของรายได้ทั้งหมด
ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้ารับรู้รายได้สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยแนวราบนี้ที่ 17,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% จากปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น ทาวน์โฮม 8,800 ล้านบาท (52%) Big Home บ้านเดี่ยว 3,000 ล้านบาท (18%) นีโอ โฮม บ้านแฝด 3,000 ล้านบาท (17%) ต่างจังหวัด 2,200 ล้านบาท (13%) และ โดยวางแผนจัดซื้อที่ดินไว้ที่ 17 แปลงมูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท
ด้านโครงการใหม่ในปีนี้ เตรียมเปิด 19 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่า 11,000 ล้านบาท โครงการ นีโอ โฮม 6 โครงการ มูลค่า 8,500 ล้านบาท ต่างจังหวัด 2 โครงการ มูลค่า 3,500 ล้านบาท และ Big Home บ้านเดี่ยว 1 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ กลยุทธ์องค์กรยังใช้รูปแบบ “Classic Model” นั่นคือ การจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเรียล ดีมานด์ หรือกลุ่มที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริง โดยวางระดับราคาสินค้าแต่ละประเภทให้เหมาะกับกำลังซื้อ เช่น กลุ่มทาวน์โฮมราคา 2-5 ล้านบาท, นีโอ โฮม 5-8 ล้านบาท, BIG HOME บ้านเดี่ยว ระดับราคาที่ 8-15 ล้านบาท
“ที่สำคัญคือ การบริหารงานก่อสร้างให้สอดคล้องกับสถานะขายและโอน ควบคุมค่าใช้จ่ายการขายและการบริหารให้ลดลง 3% เลือกใช้วัสดุ ที่ควบคุมต้นทุนได้ หรือสินค้าที่มีแนวโน้มราคาที่ลดลง เช่นสุขภัณฑ์ หรือค่าถมดิน เป็นต้น”นายแสนผินกล่าว
พร้อมกันนี้ โกลเด้นแลนด์ ยังรุกตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่อง โดยหลังจากเปิดโครงการที่พัทยา เชียงราย ในปีนี้จะเปิดโครงการเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่เชียงใหม่-กาดรวมโชค เป็นทาวน์โฮมในทำเลคอนโด และ ทำเลอ่างศิลา เพื่อรองรับการขยายตัวของจังหวัดชลบุรี รวมทั้งวางแผนขยายตลาดให้ครอบคลุมหัวเมืองให้มากขึ้น อาทิ ขอนแก่น อุดรธานี ภูเก็ต และหาดใหญ่
