EA ผุดนวัตกรรมสุดล้ำครั้งแรกในโลก ผลิตสาร PCM เพิ่มมูลค่าปาล์ม ด้นรายได้บริษัทเพิ่ม 800 ล้าน พร้อมแอปพลิเคชั่นบน Blockchain สร้างกลไกตรวจสอบธุรกรรมซื้อขายอุตสาหกรรมปาล์ม สร้างความโปร่งใส “สนธิรัตน์” เล็งดึงเป็นมาตรการป้องกันลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานสะอาด และนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงาน เพื่ออนาคตหลากหลายธุรกิจ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์-พลังงานลม, โรงงานแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน, น้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม, รถยนต์-เรือโดยสารไฟฟ้าที่เกิดโดยฝีมือคนไทย, สถานีชาร์จรถไฟฟ้า เป็นต้น
โดยเราเน้นธุรกิจ ที่สอดคล้องกับความต้องการ ด้านพลังงานในอนาคต การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ประโยชน์สูงสุด ที่ผ่านมา ผ่านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเข้มข้น ขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย เป็นที่มาของแนวคิด “นวัตกรรมสังคมองค์กร” หรือ Corporate Social Innovation (CSI)
นำร่องดโครงการ ผลิตสารเปลี่ยนสถานะ หรือ PCM (Phase Change Material) จากน้ำมันปาล์มครั้งแรกในโลก โดยนำนวัตกรรม Blockchain มาพัฒนาเป็น platform เพื่อใช้บันทึกข้อมูล และตรวจสอบ การซื้อขายปาล์ม ตลอดจนปันผลประโยชน์ตอบแทน ถือเป็นโครงการ CSI ต้นแบบ ของบริษัท ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท
“โครงการนี้ช่วยเพิ่มมูลค่าของปาล์ม ทำให้เกษตรกรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในกระบวนการผลิต ได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น โดยเรามีความเชื่อว่า การพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น “
สำหรับสารเปลี่ยนสถานะ หรือ PCM เป็นวัสดุที่มีความสามารถ ในการกักเก็บพลังงานสูง ช่วยรักษาอุณหภูมิให้คงที่ ที่ค่าใดค่าหนึ่งตามแต่สูตรการผลิต ด้วยการดูดซับ ปลดปล่อยพลังงานความร้อน และเปลี่ยนสถานะสาร จากของเหลว เป็นของแข็งและจากของแข็งเป็นของเหลวได้ จากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไป จึงสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบใช้ประโยชน์ในการรักษาอุณหภูมิในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เช่น อาคารและการก่อสร้าง, เสื้อผ้า, บรรจุภัณฑ์, การขนส่ง เป็นต้น
PCM จากน้ำมันปาล์ม หรือ จากแหล่งชีวภาพ (Bio Base) เป็นนวัตกรรมใหม่ถูกคิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกโดย EA อยู่ระหว่างการยื่นจดทะเบียนสิทธิบัตรในระดับโลก ปัจจุบัน ตลาด PCM โลก มีมูลค่าราว 1,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเพิ่มอีก 3 เท่าภายในอีก 5 ปี
สำหรับโรงงานผลิต PCM ของ EA ตั้งอยู่ที่ จังหวัดระยอง กำลังการผลิตอยู่ที่ 130 ตันต่อวัน เริ่มผลิตเฟสแรกในไตรมาสที่ 2 โดยส่งออกจำหน่ายไปประเทศเยอรมนี และญี่ปุ่น ทั้งหมดนำไปใช้ในการก่อสร้างอาคาร และที่อยู่อาศัย เป็นส่วนสำคัญในการอนุรักษ์พลังงาน ด้วยการรักษาอุณหภูมิ และลดการใช้พลังงานไฟฟ้า จากเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อนได้ ภายในสิ้นปีนี้
ต่อไปสัดส่วนรายได้ของ PCM จะอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท คิดเป็น 3% ของรายได้รวมบริษัท ส่วนสายการผลิต PCM เฟส 2 จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตเป็น 1,000 ตันต่อวันภายในอีก 5 ปี
นอกจากนี้ EA ยังพลิกโฉมอุตสาหกรรมปาล์มไทย ด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชัน “ปาล์มยั่งยืน” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในโลกเช่นกัน ที่มีการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ประกอบการทำธุรกรรมซื้อขายปาล์ม โดยการลงทะเบียนบันทึกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการซื้อขาย และคุณภาพของวัตถุดิบ เพื่อใช้ตรวจสอบที่มา และบันทึกการทำธุรกรรมซื้อขายอย่างถูกต้อง
ที่สำคัญสามารถปันผลประโยชน์ส่วนเพิ่ม กลับมายังผู้ขายวัตถุดิบในแต่ละขั้นตอนได้ หากวัตถุดิบนั้นมีคุณภาพดี จนสามารถนำไปผลิตสาร PCM ที่มีคุณภาพสูงได้ เป็นแรงผลักดัน ให้เกษตรกรผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ส่งเสริมให้การกำหนดราคาเป็นไปตามกลไกตลาดอย่างโปร่งใส เป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน และมีระบบการจ่ายผลตอบแทน ที่สามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกรได้อย่างรวดเร็ว ด้วยวิธีการโอนเข้าบัญชีที่ได้ลงทะเบียนไว้
นอกจากนี้ ด้วยระบบการบันทึก และตรวจสอบทุกขั้นตอนโดยใช้ Blockchain จะเป็นการป้องกันการลักลอบนำปาล์มเถื่อนเข้ามาซื้อขายได้ อีกทั้งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่นๆ ได้ด้วย
ทั้งนี้วันนี้ ( 27 ม.ค.) EA ได้จัดงานเปิดตัวนวัตกรรม PCM และ platform “ปาล์มยั่งยืน” โดยมี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน รวมถึงนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เข้าร่วมงาน โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เทคโนโลยี Blockchain ของ EA กระทรวงพลังงานจะนำไปพัฒนาต่อยอด เป็นอีกมาตรการในการป้องกันการลักลอบนำเข้าปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศ พร้อมกับสนใจนวัตกรรม PCM ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับปาล์มน้ำมัน 3 เท่า
