“สหภาพฯ” ค้านขยายสัมปทานทางด่วน 15 ปี แลกยุติค่าโง่ 5.8 หมื่นล้าน ขู่เตรียมศาลคุ้มครองหากถึงขั้นลงนามสัญญา พร้อมไล่ตะเพิด “บอร์ด” เหตุปฏิบัติงานไม่ชอบธรรม ด้าน “สุรงค์” ตอบตนทำตามนโยบาย ถ้าไม่พอใจเชิญร้องคนแต่งตั้ง
นายประสงค์ สีสุกใส รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) เปิดเผยหลังการประชุมสหภาพฯ ว่า ที่ประชุมสหภาพฯ มีมติคัดค้านแนวทางการยุติข้อพิพาททางพิเศษ (ทางด่วน) ระหว่างการทางพิเศษฯ และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ของกระทรวงคมนาคม โดยแนวทางของกระทรวงคมนาคม คือจะขยายสัมปทานทางด่วนให้ BEM จำนวน 3 ฉบับ เป็นเวลา 8-15 ปี เพื่อแลกกับการยุติคดีฟ้องร้องระหว่างกันรวม 17 คดี มูลค่า 5.8 หมื่นล้านบาท
เนื่องจากสหภาพฯ มีข้อสังเกตว่า คดีต่างๆ ที่มีการฟ้องร้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากศาลฯ ตัดสินให้การทางพิเศษฯ แพ้คดีทางแข่งขันเพียง 1 คดี มูลหนี้ประมาณ 4,200 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่การทางพิเศษฯ ก็ชนะ 1 คดี ส่วนคดีที่เหลือยังไม่มีการตัดสิน ดังนั้นหากการเจรจาจบข้อพิพาทเฉพาะส่วนคดีที่ตัดสินไปแล้วทาง สหภาพฯ คงไม่คัดค้าน แต่เวลานี้มีการนำคดีซึ่งยังไม่ได้ตัดสินไปรวมด้วย และมองว่ามีความเป็นไปได้ที่ การทางพิเศษฯ จะเป็นผู้ชนะคดี ดังนั้น สหภาพฯ จึงขอเดินหน้าคัดค้านเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด
ไล่ตะเพิดบอร์ด
นายประสงค์ กล่าวต่อว่า นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการการทางพิเศษฯ ก็ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ จึงได้ทำวาระเป็นข้อสังเกตนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา แต่ทางบอร์ดขอสงวนสิทธิ์ไม่รับวาระและข้อสังเกตไปพิจารณา จึงมองว่าบอร์ดการทางพิเศษฯ ชุดนี้มีความไม่ชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ และล้วงลึกการทำงานของฝ่ายจัดการ ถือว่าไม่ยุติธรรม ทั้งที่ประกาศว่าจะปฏิบัติหน้าที่โดยยึดผลประโยชน์ขององค์กรและประเทศชาติเป็นสำคัญ ดังนั้นขอให้บอร์ดชุดนี้ทั้งประธานบอร์ด และกรรมการ พิจารณาตัวเองและแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก
อย่างไรก็ตาม สหภาพฯ และพนักงานการทางพิเศษฯ เข้าใจเรื่องการปฏิบัติตามนโยบายดี แต่เพียงต้องการให้ทำให้รอบคอบ เพราะหากเป็นแนวทางดีจริง เหตุใดนายสุชาติต้องลาออกทั้งที่จะครบวาระในการดำรงตำแหน่งในเดือนกรกฎาคมนี้แล้ว ดังนั้น สหภาพฯ จะจัดเสวนาใหญ่ในวันที่ 10 มกราคมนี้ เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยมีพนักงานกว่า 500 คน เข้าร่วม ซึ่งมีประเด็นสำคัญ คือ 1. เหตุใดนายสุชาติ ต้องลาออก และ 2.ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการทางพิเศษฯ พนักงาน ซึ่งมองว่าการแลกสัมปทานจะทำให้การทางพิเศษฯ เกิดภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงิน เงินสดไม่มี และเงินในบัญชีติดลบไปจนถึงปี 2566
หลังจากนี้ ก็ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนแนวทางยุติข้อพิพาทดังกล่าวว่า ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะคดีที่เหลือยังไม่พิพากษาว่าใครแพ้หรือชนะ ขณะเดียวกันจะประสานหารือกับอัยการสูงสุด เกี่ยวกับคดีที่เหลืออยู่ เนื่องจากมีข้อสังเกตว่าหลายคดีอาจหมดอายุความไปแล้วสามารถนำมารวมได้หรือไม่ ทั้งนี้หากถึงขั้นมีการลงนามในสัญญาสัมปทานใหม่ สหภาพฯ จะขอความคุ้มครองฉุกเฉินจากศาลปกครอง เพื่อชะลอไว้ก่อน รวมทั้งอาจรวมตัวเคลื่อนขบวนไปขอความช่วยเหลือจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้มีอำนาจเต็มในการนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ระงับเรื่องไว้ก่อนด้วย
‘สุรงค์’ แนะไปบอกคนแต่งตั้ง
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ไม่รู้จะทำอย่างไรในเรื่องดังกล่าว เพราะตนก็ทำตามหน้าที่ของตน ถ้าหากสหภาพฯ ต้องการไล่ ก็ไล่ หรือไปบอกคนที่แต่งตั้งตน ถ้ารัฐมนตรีให้ออกเมื่อไหร่ ก็ออกได้ ตนพร้อมอยู่แล้ว
ที่ผ่านมา ตนก็ไม่ได้ตัดสินตามอำเภอใจ แต่ทำตามนโยบายที่ชัดเจน ทำงานแบบมืออาชีพ เพราะไม่มีผลประโยชน์ ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ไม่ได้เลือกข้าง แต่ต้องยอมรับว่า ตนไม่สามารถสนองความต้องการให้ทุกฝ่ายได้ เพราะต้องทำงานแบบมีเงื่อนไข แต่ขณะเดียวกันก็ต้องถามว่า การทางพิเศษฯ อยู่ภายใต้การดูแลและสั่งการของใคร สหภาพฯ กระทรวงคมนาคม หรือรัฐบาล
- เจรจายุติ ‘ค่าโง่ทางด่วน’ ฉลุย! สัญญาเปิดช่อง BEM ขยายสัมปทาน 2 เด้ง 15+20 ปี
- กทพ. เดินหน้าถก BEM แก้ ‘ค่าโง่ทางด่วน’ พร้อมชง ครม. เคาะขยายสัมปทาน 21 ม.ค.
- ชงขยายสัมปทาน ‘ทางด่วน’ 15 ปีเข้า ครม. พรุ่งนี้ ล้างหนี้ค่าโง่ 5.8 หมื่นล้าน
