ธปท.ยอมรับส่งออกแผ่วกว่าคาดติดลบ 3.3% คาดจีดีพีปีนี้โต 2.5% เดินหน้าแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน หวังเศรษฐกิจโลกปีหน้าดีขึ้น ช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยปีหน้าโต 2.8%
นางสาวพรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจมหาภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่าภาพรวมการส่งออกปีนี้แผ่วกว่าที่คาดมีแนวโน้มหดตัว 3.3% โดยการส่งออกสินค้าเดือนพฤศจิกายนหดตัวต่อเนื่องอยู่ที่ 7.7% เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าเป็นสำคัญ ส่งผลให้การนำเข้าสินค้า หดตัวที่ 13.9% เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน คาดว่าตัวเลขการส่งออกเดือนธันวาคมคาดจะติดลบน้อยกว่าเดือนพฤศจิกายน โดยคาดว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 2.5 % ต้องรอดูตัวเลขเศรษฐกิจเดือนธันวาคมประกอบอีกครั้ง
ขณะที่จีดีพีปี 2563 ทางธปท. คาดว่าจะขยายตัว 2.8% ขึ้นอยู่กับการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัว 0.5% ตามสถานการณ์การค้าโลกที่มีทิศทางดีขึ้น การลงทุนภาครัฐขยายตัว 6.3% มีแรงสนับสนุน คือ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 ที่คาดจะผ่านสภาฯในไตรมาสที่1 ปี 2563 ช่วยให้การลงทุนของภาครัฐกลับมาได้ ส่วนการลงทุนภาคเอกชนคาดจะขยายตัว 3.4%
สำหรับสถานการณ์หนี้ครัวเรือนในปี 2563 หลายฝ่ายวิตกกังวลว่ามีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัวนั้น ธปท. จะพยายามเร่งแก้ปัญหา ทั้งออกมาตรการทั้งเชิงบรรเทาภาระหนี้และป้องกันอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะดีขึ้น ช่วยผ่อนคลายสถานการณ์หนี้ครัวเรือนให้ดีขึ้นเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยเดือนพฤศจิกายน 2562 ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว การผลิตภาคอุตสาหกรรม และเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตังกัน สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ด้านเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนยังอยู่ในทิศทางชะลอตัว โดยมาตรการภาครัฐมีส่วนช่วยพยุงกำลังซื้อบางส่วน
การใช้จ่ายภาครัฐ หดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน โดยรายจ่ายประจำกลับมาหดตัวตามการเบิกจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการของหน่วยงานด้านความมั่นคงบางหน่วยงาน ขณะที่รายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางหดตัวต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 ที่ยังไม่ประกาศใช้
ส่วนการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่องที่ 5.9% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นผลจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VISA on Arrival ทีมีส่วนทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีน อินเดีย และไต้หวันขยายตัว ด้านภาวะเศรษฐกิจของรัสเซียที่เริ่มฟื้นตัว และการเพิ่มเส้นทางการบินจากรัสเซียมาไทย ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียขยายตัวดีขึ้น นักท่องเที่ยวสัญชาติเอเชีย เช่น ลาว ญี่ปุ่น ยังคงขยายตัวได้ดี
อย่างไรก็ดี อัตราการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศชะลอลงจากเดือนก่อน เนื่องจากฐานจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ต่ำในปีก่อนจากเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวล่มที่จังหวัดภูเก็ตทยอยหมดลง
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.21% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานและอัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงาน ที่หดตัวน้อยลง สำหรับอัตราการว่างงาน ที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ขณะที่จำนวนผู้มีงานทำทรงตัว