ศาลพิพากษาให้ ‘ตระกูลภัทรประสิทธิ์’ สามารถยกเลิกสัญญาบริหารโรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯได้ ขณะที่ ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ ผู้บริหารกิจการ เตรียมยื่นอุทธรณ์คดี
TheBangkokInsight ได้รับการเปิดเผยจากนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ในฐานะผู้ถือหุ้นของโรงแรม เพนนินซูล่า กรุงเทพฯ ว่า ศาลแพ่งธนบุรี มีคำพิพากษาให้กลุ่มผู้ถือหุ้น โรงแรม เพนนินซูล่า กรุงเทพฯ สามารถระงับสัญญาจ้างบริหารจัดการโรงแรมได้ จากการที่ฝ่ายบริหารไม่ได้ส่งผลตอบแทนให้กับผุ้ถือหุ้น ตระกูลภัทรประสิทธิ์ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ ผู้บริหารกิจการ และเป็นผู้ถือหุ้นในโรงแรมนี้ด้วย ระบุว่า จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งนี้
ในการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ศาลแพ่งธนบุรี ได้สั่งให้กลุ่มผู้ถือหุ้นนำโดย ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ ยกเลิกการเคลื่อนไหว ที่จะขวางมติของบอร์ดบริหาร ริเริ่มโดยผู้ถือหุ้นชาวไทย คือ “ตระกูลภัทรประสิทธิ์” ที่ให้ระงับข้อตกลงบริหารจัดการโรงแรม ที่ทำไว้กับ กลุ่มเพนนินซูล่า
นายประพันธ์ ภัทรประสิทธิ์ และ นายประสงค์ ภัทรประสิทธิ์ ได้ยื่นฟ้อง บริษัทเอชเอสเอช สยาม เจ้าพระยา โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในไทย ของ ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ และเจ้าของโรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ บนข้อกล่าวหาที่ว่า เกิดความขัดแย้งด้านผลประโยชน์อย่างร้ายแรง ทำให้ครอบครัว ภัทรประสิทธิ์ อยู่ในสถานะที่เสียเปรียบ
การฟ้องร้องดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากผู้แทนของ ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ ได้ออกเสียงคัดค้านการเคลื่อนไหวที่จะระงับข้อตกลงการบริหารจัดการโรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ ในที่ประชุมบอร์ด
“ตระกูลภัทรประสิทธิ์” เป็นเจ้าของเดอะ มอลล์ กรุ๊ป บริษัทค้าปลีกรายใหญ่สุดแห่งหนึ่งของไทย ที่มีกิจการในเครือรวมถึงห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร อาทิ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และสยามพารากอน ทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด ภายใต้ชื่อ ตลาดไท ซึ่งเป็นตลาดขายผัก และผลไม้ ในกรุงเทพฯ
ในระหว่างเดือนมกราคม – สิงหาคม 2562 โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ รายงานว่า มีอัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ย 70% และอัตราราคาห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ 7,050 บาท และมีรายได้ต่อห้อง จากจำนวนห้องพักทั้งหมด(RevPAR)อยู่ที่ 4,950 บาท โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของโรงแรมได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ บุตรชายคนโตของตระกูล และเป็นผู้นำบริษัทที่ดูแลการลงทุนของ“ตระกูลภัทรประสิทธิ์” บอกว่า ในช่วง 20 ปีล่าสุดมานี้ ไม่มีแม้แต่ปีเดียว ที่บริษัทซึ่งทำหน้าที่บริหารโรงแรมเพนนินซูล่า จะทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้ โดยพวกเขาเชื่อว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะระงับสัญญาบริหารงานที่ทำไว้ และศาลก็เห็นด้วยว่า พวกเขาสามารถทำเช่นนี้ได้
“เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างมาก ที่การระงับสัญญาบริหาร ผ่านการหารือของบอร์ดตามปกติ ไม่สามารถทำขึ้นได้ เพราะพวกเขาถือหุ้นอยู่ในโรงแรม 50% และมีเสียงข้างมากในบอร์ด การที่พวกเขาปกป้องการกระทำ ที่จะมีต่อบริษัทบริหารกิจการ ที่เป็นของพวกเขาเอง ถือเป็นการยืนยันว่า โรงแรมไม่ได้มีผลประกอบการต่ำ ทั้งยังสามารถทำให้บริษัทที่บริหารโรงแรม และหน่วยงานในเครือ ได้รับค่าธรรมเนียม และผลประโยชน์อื่นๆ อย่างเป็นกอบกำ หลายสิบล้านดอลลาร์ แต่กลับไม่มีกำไรกลับมาให้ผู้ถือหุ้น”
“ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ อยู่ในสถานะที่เป็นทั้งผู้บริหารโรงแรม และเป็นผู้ถือหุ้นข้างมากที่มีอำนาจควบคุมรับผิดชอบผู้ประกอบการที่รับผิดชอบต่อผลการดำเนินงานของโรงแรม”
นายประดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนที่ดินริมแม่น้ำ ที่มีราคาที่ดินแพงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร แต่เป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างมากว่า ทำไมถึงไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้
“เรามีความอดทนอย่างมากต่อบริษัทที่บริหารโรงแรม ซึ่งเป็นธุรกิจของพันธมิตรจากฮ่องกง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องนำบริษัทรายอื่นเข้ามาบริหารโรงแรมนี้” เขาบอกด้วยว่า ความขัดแย้งนี้ดำเนินมาหลายปีแล้ว
“การลงทุนของเรากับฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ และกลุ่มโรงแรมเพนนินซูล่า สร้างความผิดหวังอย่างรุนแรงให้กับครอบครัวของผม ยิ่งไปกว่านั้น ตามที่เราได้รับคำเตือนจากเพื่อนๆ เกี่ยวกับการเข้าลงทุน หลังจากที่กลุ่มเพนนินซูล่า ได้ถอนตัวออกจากการลงทุนในโรงแรมในไทยไปก่อนหน้านี้ ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ เกิดความขัดแย้งกับหุ้นส่วนในไทย”
ทั้งนี้ ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ ถือหุ้นในโรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ ผ่านทางบริษัทลูก และเข้าบริหารโรงแรมมาตั้งแต่ปี 2531 ซึ่งศาลแพ่งธนบุรี มีคำพิพากษาว่า บริษัทลูกไม่ควรได้รับอนุญาตให้ออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทร่วมทุน ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2562 ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการระงับสัญญาการบริหารโรงแรม
ขณะที่ ลินน์ มุลฮอลแลนด์ ผู้อำนวยการ กิจการกลุ่มบริษัท ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษา และจะยื่นอุทธรณ์ พร้อมบอกว่า สัญญาการบริหารโรงแรม เป็นสาระสำคัญส่วนหนึ่งในการร่วมทุน ทั้งยังเป็นที่ตระหนัก ยอมรับ และเห็นพ้องโดยหุ้นส่วนทั้ง 2 ฝ่ายมานาน 30 ปี ยังเป็นสัญญาที่ไม่หมดอายุ มีพันธะผูกพันตามกฎหมาย และบังคับใช้กับโรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ อยู่ ซึ่งการดำเนินงานของเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้แต่อย่างใด
ขอบคุณภาพ: peninsula bangkok hotel
