ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน (TCM Corporation) หรือ TCMC เดินหน้าติดตั้งพรมโครงการใหญ่ต่อเนื่อง พร้อมรับรายได้ก้อนโตส่งท้ายปี ล่าสุดขยายสายการผลิตพรมแผ่นพร้อมแบคกิ้งจากวัสดุขวดพลาสติกใช้แล้ว เพื่อร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์เทรนด์การใส่ใจ และร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติ เผยได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ม.ล.วัลลีวรรณ วรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCMC เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2562 นี้ บริษัทมั่นใจรายได้รวมจะเติบโตที่ระดับ 7-10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 9,596 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าที่ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี
ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงมีออเดอร์โครงการขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการผลิตในกลุ่มธุรกิจวัสดุปูพื้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทยังได้เน้นเรื่องการออกแบบให้มีความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ โดยมีการร่วมมือกับดีไซเนอร์ชื่อดัง ควบคู่ไปกับการรักษาคุณภาพการผลิตที่มีมาตรฐานได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
บริษัทยังเดินหน้าแผนการสร้างกลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ โดยรวม 2 บริษัทในประเทศอังกฤษให้มีทีมบริหารจัดการร่วมกัน ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าบริษัทได้เริ่มบรรลุตามเป้าหมายที่ได้วางไว้และมั่นใจว่าจะสามารถลดต้นทุนในด้านการผลิต ทำกำไรให้บริษัทได้เพิ่มขึ้น
กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่อังกฤษ ดำเนินงานภายใต้ชื่อ 2 บริษัท คือ อัลสตันท์ (Alstons) และ ดีเอ็ม มิดแลนด์ (DM Midlands) โดยมีแบรนด์ในการทำการตลาดทั้งหมด 4 แบรนด์ ซึ่งบริษัทได้เดินหน้าสร้างทีมบริหาร ประกอบด้วยบุคลากรจากทั้ง 2 กลุ่มบริษัท โดยจะบริหารบริษัทย่อยทั้งหมดภายใต้ชื่อบริษัท “TCM Living” เพื่อให้มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดลง รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าตลาด AIM ที่ประเทศอังกฤษ
นอกจากนี้ เพื่อรองรับกระแสการเติบโตในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บริษัทได้ขยายกำลังการผลิตพรมในกลุ่มสินค้าอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อมุ่งหน้าสู่การเป็นกลุ่มองค์กรที่มีแนวความคิดในการสร้างความยั่งยืนในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยจะผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ “Carpets Inter”
ทั้งยังพัฒนาพรมแผ่นพร้อมวัสดุรองพื้นแบบ EcoSoft® ซึ่งผลิตมาจากขวดพลาสติกรีไซเคิล มีคุณสมบัติพิเศษคือมีความยืดหยุ่นดี ดูดซับเสียงได้ดีกว่ายางรองแบบพีวีซี ในรุ่นเก่า มีความทนทานในการใช้งาน และยังช่วยประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เห็นได้จากยอดคำสั่งซื้อที่เข้ามาทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ TCMC ยังมุ่งเน้นการขยายธุรกิจแบบ B2B หรือโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในตลาดอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย ซึ่งได้มีการออกงานแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าร่วมงาน HD Expo งานแสดงสินค้าเกี่ยวกับธุรกิจทางด้านงานบริการ ซึ่งจัดที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถช่วยให้บริษัทเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับมากขึ้นในตลาดโลก
บริษัทยังคงเดินหน้าขายที่ดินบริเวณดอนเมือง ขนาดพื้นที่ 29 ไร่ ที่ตั้งของโรงงานผลิตเดิม แต่ปัจจุบันได้ย้ายฐานการผลิตทั้งหมดมารวมอยู่ในโรงงานเดียวกัน บนพื้นที่ 100 ไร่ ที่ปทุมธานีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีผู้เสนอราคาเข้ามาจำนวนมาก โดยเงินที่ได้จากการขายที่ดินดังกล่าว จะนำมาใช้ชำระหนี้บางส่วน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“แม้ผลการดำเนินงานใน 2 ไตรมาสนี้ยังไม่โดดเด่นเข้าเป้าตามที่วางไว้เท่าใดนัก แต่เรายังคงยืนหยัดเดินหน้าในแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้และยังคงมุ่งสู่เป้าหมายที่เราได้ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยคาดการณ์ว่าในไตรมาส 4 ผลการดำเนินงานจะกลับมาเป็นบวกเหมือนในปีที่ผ่านมา จากช่วงครึ่งปีแรกที่มีผลขาดทุนสุทธิ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเข้ารับงานติดตั้งพรมในโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินงาน โดยตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3/2562 เป็นต้นไปจะเริ่มทยอยส่งมอบงานและจะสามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการผลิตสินค้าในกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาด้านการออกแบบลวดลายควบคู่กับไลน์การผลิต รวมถึงการเริ่มได้ยอดขายจากตลาดที่บุกเบิกใหม่ ทำให้มั่นใจที่จะบรรลุยอดรายได้ทั้งปีตามเป้าอย่างแน่นอน” ม.ล.วัลลีวรรณ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทมีรายได้รวม 4,400.77 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 54.73 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ในกลุ่มธุรกิจวัสดุปูพื้นลดลง เพราะยังอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ และมีผลกระทบมาจากเงินบาทแข็งค่า ทำให้รับรู้ยอดขายลดลง รวมถึงคำสั่งซื้อที่ได้รับมีลักษณะเป็นโครงการที่ต้องทยอยส่งมอบ ทำให้มีบางส่วนเป็นยอดขายที่จะรับรู้รายได้ในไตรมาสถัดไป
บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องมาจากแผนการขยายตลาดเข้าสู่เซกเมนท์ใหม่ๆ เช่น กาสิโน เรือสำราญ และเครื่องบินส่วนตัว ทั้งยังมีการลงทุนในส่วนของทรัพยากรบุคคลช่วงปลายปี 2561 แต่ทั้งนี้จะส่งผลดีกับบริษัทในระยะยาวเช่นกัน
