ก่อนการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าระหว่างไทย-มาเลเซีย ที่จังหวัดสงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้ว่าราชการจังหวัด ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยนายจุรินทร์ ได้ตรวจการก่อสร้างด่านสะเดาแห่งที่ 2 พร้อมตรวจสอบถามความคืบหน้า อุปสรรคปัญหา
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการค้าชายแดน ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ จึงได้จัดการประชุมครั้งนี้เพื่อรับฟังและหารือแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างไทย-มาเลเซีย ในการผลักดันให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับมาเลเซียให้เพิ่มขึ้น โดยในปี 2561 การค้าระหว่างไทย-มาเลเซียมีมูลค่าสูงถึง 803,300 ล้านบาท และครึ่งปีแรกของปี 2562 มีมูลค่า 387,041 ล้านบาท
ขณะที่การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย มีสัดส่วนสูงถึง70% ของมูลค่าการค้ารวมไทย-มาเลเซีย (การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ปี 2561 มีมูลค่า 568,096 ล้านบาท และครี่งปีแรกของปี 2562 มีมูลค่า 271,603 ล้านบาท) ในพื้นที่ชายแดนใต้ที่ติดกับมาเลเซียมีด่านศุลกากร 9 ด่านกระจายตามแนวชายแดน
ดังนั้นด่านศุลกากรสะเดาเป็นด่านศุลกากรชายแดนที่มีมูลค่าการนำเข้าส่งออกสินค้าสูงที่สุดในประเทศไทยแต่ละปีเฉลี่ยกว่า 3 แสนล้านบาท จากมูลค่าการค้าชายแดนทั้งประเทศประมาณ 1 ล้านล้านบาท เป็นประตูเชื่อมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญของไทย รัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญกับด่านศุลกากรสะเดาในฐานะอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจสำคัญโดยมีเป้าหมายที่จะให้ด่านศุลกากรสะเดาสามารถรองรับการให้บริการที่มีประสิทธิภาพและเพียงพอกับปริมาณการค้าที่นับวันจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง