“ดร.สมชาย” ยกเครื่องแผนธุรกิจ สู้ตลาดเครื่องสำอางในประเทศชะลอตัว หันพัฒนาสินค้าเอจจิ้ง รับสังคมสูงวัยไทย พร้อมมุ่งพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ โปรตีนยา ต่อยอดกลุ่มสินค้าดันยอดขาย ควบคู่รุกตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง หวังโตได้ 15% ปีนี้
แพทย์หญิง อรอินท์ เรืองวัฒนสุข กรรมการบริหาร บริษัท เอส.เอส. แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ “ดร. สมชาย” และ “แอคเน่” เปิดเผยว่า ปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ซึ่งรวมถึงธุรกิจสินค้าความงามมูลค่ากว่า 1.7 แสนล้านบาทที่คาดว่าจะอยู่ในภาวะชะลอตัวไปจนถึงปี 2563
นอกจากนี้ ตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยในปัจจุบัน ยังมีการแข่งขันรุนแรง ทั้งจากผู้เล่นรายเดิมในตลาด และมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นเรดโอเชียน ส่งผลให้บริษัทในฐานะที่ดำเนินธุรกิจสินค้าดูแลผิวพรรณต้องปรับตัวอย่างมาก
ทั้งนี้ บริษัทได้วางแนวทางปรับตัวด้วยการขยายไลน์สินค้ากลุ่มใหม่ภายใต้แบรนด์เดิม ด้วยการรุกตลาดเครื่องสำอางกลุ่มแอนตี้ เอจจิ้ง หรือกลุ่มชะลอริ้วรอย เพื่อจับกลุ่มผู้สูงอายุในยุคที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย รวมถึงการพัฒนาสินค้ากลุ่มใหม่ ควบคู่กับการขยายตลาดต่างประเทศเพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง โดยวางเป้าหมายสู่การเป็นโกลบอลแบรนด์ในอนาคต
ในส่วนของการขยายไลน์สินค้ากลุ่มใหม่นั้น ได้เปิดบริษัท ไอโอเทค ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อศึกษาวิจัยผ่านเทคโนโลยีใหม่ CRISPR พัฒนากระบวนการใหม่ในการสร้างโปรตีนยารักษาโรค โดยมีกลุ่มทุนจากประเทศบราซิล และประเทศดูไบสนใจร่วมทุนด้วย รวมถึงได้เข้าไปจดสิทธิบัตiต้นแบบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งปีนี้มีแผนการจดสิทธิบัตรยาต้นแบบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อีก 2 ตัว และตั้งเป้าไว้ว่าอีก 5 ปี จะจดเพิ่มให้ได้เกิน 5 ตัว
ขณะที่การขยายตลาดต่างประเทศนั้น ในกลุ่มสินค้าเดิมจะเน้นการทำตลาดในประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวี ขณะที่สินค้าใหม่ของไอโอเทค จะมุ่งขยายตลาดในระดับโลก โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากส่งออกไม่ถึง 20% และปีนี้คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 20% จากการรุกทำตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะในลาว กัมพูชา เวียดนาม และสิงคโปร์ พร้อมทั้งวางเป้าหมายภาพรวมรายได้ปีนี้เติบโต 15%