Business

‘ดูโฮม’ ผงาดค้าปลีก-ส่ง วัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน แตกไซส์เล็กขาย ‘เฮ้าส์แบรนด์’ ผุด 90 สาขาปี 64

เปิดดำเนินธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “ครบ ถูก ดี…ที่ดูโฮม” มานานกว่า 36 ปี ล่าสุด บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) ประกาศแผนธุรกิจครั้งใหญ่ ทั้งการขยายสาขาไซส์ใหญ่ และขนาดเล็ก พร้อมเดินหน้าปั้นสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไตรมาส 3 ปีนี้

DOHOME คุณอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา
อดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา

นายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ดูโฮม ได้เตรียมความพร้อม ทั้งการเพิ่มทีมผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์และความชำนาญ การเปิดศูนย์กระจายสินค้า รวมทั้งวางแผนการขยายสาขารูปแบบใหม่ไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างและอุปการณ์ตกแต่งบ้าน รวมไปถึงการขยายตัวของสังคมเมืองและการเพิ่มขึ้นของความต้องการซื้อของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อสร้างการเติบโตและผลตอบแทนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 ดูโฮม มีสาขาที่เปิดให้บริการแล้วทั้งหมด 9 สาขา ได้แก่ อุบลราชธานี นครราชสีมา รังสิต ขอนแก่น อุดรธานี พระราม 2 บางบัวทอง เชียงใหม่ และบางนา โดยมีพื้นที่ขายและคลังสินค้าประมาณ 35,000 – 65,000 ตารางเมตรต่อสาขา รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าอีก 1 แห่งที่จังหวัดปทุมธานี โดยแบ่งสินค้าที่จำหน่ายออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มวัสดุซ่อมแซม และกลุ่มวัสดุตกแต่ง รวมรายการสินค้ามากกว่า 135,000 รายการ

บรรยากาศงานแถลง

นอกจากนี้ ยังจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้าของ ดูโฮม หรือ เฮ้าส์แบรนด์ มากกว่า 20,000 รายการ เน้นการเป็นสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่สามารถแข่งขันได้ รวมถึงพัฒนาช่องทางจำหน่ายออนไลน์ ซึ่งสามารถตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการบริการจัดส่งสินค้า การบริการบำรุงรักษาซ่อมแซม การบริการประกอบและติดตั้ง การบริการให้คำปรึกษาและดำเนินการออกแบบตกแต่ง และการบริการจัดหาสินค้าพิเศษ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งลูกค้ารายย่อย ร้านค้าช่วง ผู้รับเหมาก่อสร้างและงานโครงการ หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ

ด้าน นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ดูโฮมได้วางแผนเปิดสาขาที่มีขนาดพื้นที่เล็กลง เพื่อให้สามารถขยายสาขาได้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยร้านรูปแบบใหม่จะมีพื้นที่ขายและคลังสินค้าเฉลี่ยต่อสาขาประมาณ 23,000 ตารางเมตร รวม 7 สาขา ภายในปี 2564 เน้นหัวเมืองหลัก

DOHOME คุณสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ B
สลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ

ขณะเดียวกันยังได้พัฒนาโมเดลขยายสาขาขนาดเล็กภายใต้ชื่อ “Dohome To Go” ซึ่งมีพื้นที่เฉลี่ยต่อสาขาประมาณ 300 – 1,000 ตารางเมตร ตั้งเป้าเปิดรวม 90 สาขา ภายในปี 2564 เน้นพื้นที่ศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ต เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้ารายย่อยโดย เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ต้องการปรับปรุงซ่อมแซมตกแต่งบ้าน และสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถเพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการขยายสาขาของดูโฮมอย่างต่อเนื่องในอนาคต

พร้อมกันนี้ ยังได้วางกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้า เฮ้าส์แบรนด์ เนื่องจากมีอัตรากำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยที่สูงกว่าสินค้าแบรนด์อื่นที่บริษัทนำมาจำหน่าย โดยวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ประมาณ 30% สำหรับสาขา Dohome To Go รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน จากการเปิดดำเนินการศูนย์กระจายสินค้า ในเดือนมิถุนายนปี 2561 ที่ผ่านมา โดยมีขนาดพื้นที่สำหรับคลังสินค้าจำนวน 41,580 ตารางเมตรในจังหวัดปทุมธานี และอยู่ระหว่างการติดตั้งระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้มากขึ้น ลดจำนวนพนักงานในคลังสินค้า และจะช่วยลดต้นทุนในการจัดเก็บและขนส่งสินค้าได้ในอนาคต

ดูโฮม1 1

ด้านผลประกอบการในปี 2561 ที่ผ่านมา ดูโฮมมีรายได้รวม 18,535.17 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มวัสดุก่อสร้างประมาณ 46 – 49% สัดส่วนรายได้จากกลุ่มวัสดุซ่อมแซม 35 – 38% และสัดส่วนรายได้จากกลุ่มวัสดุตกแต่งประมาณ 15 – 17% ขณะที่ในไตรมาส 1/62 มีรายได้รวม 4,980.24 ล้านบาท สูงกว่าช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวม 4,940.12 ล้านบาท นื่องจากมีสัดส่วนการขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง พร้อมวางเป้าหมายภายในปี 2565 จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ เป็น 20% ของรายได้จากการขายและค่าบริการรวม

ล่าสุด  ดูโฮมได้เสนอขายหุ้นสามัญ โดยจัดสรรหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 465,040,00 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25.1 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ขณะที่ความคืบหน้าการนำ DOHOME เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันได้รับการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นสามัญ (ไอพีโอ) แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก และอยู่ระหว่างการเข้าพบนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยเพื่อให้ข้อมูลก่อนกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายใต้ชื่อย่อ “DOHOME” ในหมวดพาณิชย์ ภายในไตรมาส 3 ปีนี้

Avatar photo