“ธนินท์ เจียรวนนท์” ไม่หวั่นการลงทุน “รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน” ลั่น CP เป็นผู้นำ ต้องกล้าเสี่ยง รู้ว่ายาก แต่รับมาแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ!
รายงานข่าวจาก เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) เปิดเผยว่า ในงานสัมมนาวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติการเครือเจริญโภคภัณฑ์ ครั้งที่3/2019 ณ สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา
ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ “นาย ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์” ที่ได้กล่าวเปิดใจและให้ความมั่นใจกับคณะผู้บริหารต่อการที่เครือ CP เข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–อู่ตะเภา และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท
นายธนินท์กล่าวว่า เครือ CP กำลังลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่ใช่ใหม่เฉพาะระดับประเทศ แต่เป็นเรื่องใหม่ในระดับอาเซียน เนื่องจากประเทศต่างๆ ในแถบนี้ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ต่างยังไม่มีรถไฟความเร็วสูง
ดังนั้น การที่เครือเข้ามาช่วยประเทศ ด้วยการลงทุนพัฒนาโครงการนี้ จะทำให้ประเทศไทยเป็นที่จับตามอง โดยจะเป็นตัวเลือกที่สำคัญในการลงทุนหรือการย้ายฐานการผลิต
“หลายคนอาจจะมีคำถามในใจว่า CP จะไปรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูง ผมอยากให้มองย้อนกลับไปตอนที่ CP นำ7-11 เข้ามาเปิดในประเทศไทย ช่วงเวลานั้นทุกคนต่างทัดทาน แม้กระทั่งเจ้าของ 7-11 เองยังบอกผมว่ารอหน่อยดีไหม เวลายังไม่เหมาะ คุณลงทุนตอนนี้ก็เสี่ยงเกินไป แต่ผมกลับคิดต่างและมองว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องทำและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันซึ่งไม่ต่างกับเมื่อ 53 ปีก่อน ตอนที่ผมเริ่มทำเรื่องการเลี้ยงไก่หนึ่งหมื่นตัว มีแต่คนบอกว่าจะเป็นไปได้ยังไงที่คุณจะเลี้ยงไก่หนึ่งหมื่นตัว แน่นอนว่าถ้าเราทำเองย่อมเป็นไปไม่ได้แต่ตอนนั้น CP ไปเรียนรู้จากอเมริกา ซึ่งเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับประเทศไทย” นายธนินท์กล่าว
นายธนินท์ยังได้ยกตัวอย่างถึงการที่เครือเข้าไปลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมว่า เวลานั้นหลายคนปรามาสว่าคนเลี้ยงไก่คิดยังไงจะมาทำโทรศัพท์ แต่ CP กลับมองว่าข้อมูลคือ อาหารสมอง CP ทำอาหารคน การทำเรื่องของข้อมูลก็คือการทำอาหารสมอง การดูทีวีก็คือการให้อาหารสมอง ใช้อินเทอร์เน็ตก็คืออาหารสมองเช่นกัน
เคล็ดลับอยู่ที่ “การนำเรื่องที่ยากที่สุด มาทำให้ง่ายที่สุด” ในขณะที่คนเก่งทั่วไปมักจะเลือกทำของง่ายๆ แต่ความลับคือ ในโลกนี้ไม่มีของอะไรที่ทำง่ายแล้วจะประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว แต่ต้องทำเรื่องยากและต้องเรียนรู้ใหม่ตลอดเวลา เพื่อทำให้เป็นเรื่องง่าย จึงจะสามารถประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ
การที่ CP มาทำรถไฟความเร็วสูง ถือเป็นความท้าทายนับตั้งแต่เงื่อนไขการประมูล (TOR) ที่มีความยากเนื่องจากรัฐบาลได้นำ TOR จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาเปรียบเทียบเพื่อหาข้อดีต่างๆ มาทำเป็น TOR ที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย เพราะต้องการให้ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด จึงยากมากสำหรับเอกชนที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจให้เกิดขึ้นได้จริงอย่างยั่งยืน แต่ CP ก็ต้องศึกษานำมาเรียนรู้ ซึ่งถือเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เครือได้ทำเรื่องใหม่
เมื่อเราเป็นผู้นำเราต้องสร้างความเปลี่ยนแปลง ต้องกล้าเสี่ยง ถ้าสิ่งนั้นเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชนและองค์กร โดยต้องมองให้ทะลุ เท้าต้องติดดิน ที่สำคัญต้องมีความเข้าใจธุรกิจให้ลึกจริง
สมัยรัชกาลที่ 5 ได้ทรงสร้างรถไฟมาแล้ว 4,000 กิโลเมตร หลังจากนั้นมีการสร้างรถไฟเพิ่มขึ้นอีกเพียง 200 กว่ากิโลเมตร ครั้งนี้จึงถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่จะสานต่อโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีความพิเศษตรงที่จีนกับญี่ปุ่นจับมือร่วมกันทำรถไฟความเร็วสูงเป็นครั้งแรก จึงถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการช่วยกันคิดช่วยกันทำประสานประโยชน์เพื่อแผ่นดินไทย
CP ทำธุรกิจในประเทศไทยบนแผ่นดินของพระมหากษัตริย์ จึงมีหน้าที่ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ดังนั้นต้องทำโครงการนี้ให้สำเร็จ ไม่ใช่ไปรับมาแล้วทำไม่สำเร็จ ก็จะกลายเป็นภาระของประเทศ เมื่อรับมาแล้วก็ต้องทุ่มเททั้งกำลังกาย จิตใจ มันสมอง ทำให้โครงการนี้สำเร็จให้ได้
“การทำรถไฟความเร็วสูงถือว่าอยู่ในงบประมาณที่สามารถบริหารจัดการได้ จะไม่กระทบธุรกิจที่ถืออยู่ การลงทุนในครั้งนี้อยู่ในวิสัยทำได้และผ่านการประเมินแล้ว” นายธนินท์กล่าวปิดท้าย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สัญญาเขียนชัด! ‘CP’ เก็บค่าโดยสาร ‘แอร์พอร์ตลิงก์’ ได้สูงสุด 97 บาทต่อเที่ยว
- ‘CP’ อัดฉีด 1.4 แสนล้าน ปั้นที่ดิน ‘มักกะสัน’ เร่งระดมทุนรองรับ ‘ไฮสปีด’
- CPALL กำไรสุทธิปี 63 ร่วง 27.93% เหลือ 1.61 หมื่นล้าน จากผลกระทบโควิด-19