ธุรกิจร้านอาหารมีมูลค่า 4 แสนล้านบาทในปี 2560 ในตลาดนี้สัดส่วน 50% เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ หรือมีมูลค่าราว 2 แสนล้านบาท เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าปี 2561 มูลค่าธุรกิจแฟรนไชส์ จะเพิ่มเป็น 2.3 แสนล้านบาท หรือขยายตัว 15%
ปัจจุบัน 3 อันดับแฟรนไชส์ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด ได้แก่ อาหาร, เครื่องดื่มและไอศกรีม และ เบเกอรี่ จากปัจจัยศูนย์การค้าเพิ่มพื้นที่ร้านอาหารและเครื่องดื่มสัดส่วน 30-40% ของพื้นที่ศูนย์ฯ เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมรับประทานอาหารนอกบ้าน
รวมทั้งปั๊มน้ำมัน ที่ใช้กลยุทธ์การตลาดดึงร้านอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ดัง เข้ามาเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ และการเติบโตของธุรกิจเดลิเวอรี โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มักเป็นกลุ่มที่มีความคุ้นเคยกับการสั่งอาหารออนไลน์
หนุนสินเชื่อแฟรนไชส์ไมเนอร์ 350 ล้าน
นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าปัจจุบันธนาคารมียอดสินเชื่อแฟรนไชส์ 2,500 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 5% โดย 3 ธุรกิจที่มียอดสินเชื่อแฟรนไชส์มากที่สุดของธนาคาร ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก, ธุรกิจอาหาร และธุรกิจเครื่องดื่ม
ทั้งนี้ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ถือเป็นพอร์ตสินเชื่อแฟรนไชส์กลุ่มธุรกิจอาหารที่มีสัดส่วนมากที่สุดของธนาคาร โดยมียอดสินเชื่อคงค้าง ณ เดือนมีนาคม 2561 อยู่ที่ 500 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าปล่อยกู้ให้กับไมเนอร์ฟู้ดกรุ๊ป 350 ล้านบาท
การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์ สำหรับผู้สนใจเป็นเจ้าของร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ร้านไอศกรีมสเวนเซ่นส์ และร้านไอศกรีมแดรี่ควีน เพื่อใช้ลงทุนเปิดสาขาใหม่ ขยายสาขา หรือปรับปรุงสาขา รวมถึงการลงทุนเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ ด้วยวงเงินสินเชื่อ 80% ของมูลค่าการลงทุน โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน อัตราดอกเบี้ยพิเศษปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ย MRR-2 ปีที่ 3 จนถึงครบสัญญา อัตราดอกเบี้ย MRR-1.5%
นอกจากนี้จัดโปรโมชั่นสำหรับการลงทุนแฟรนไชส์ของกลุ่มไมเนอร์ฟู้ดกรุ๊ปทั้ง 3 แบรนด์ เมื่อ สมัครสินเชื่อตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 261 ไม่ต้องผ่อนชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 3 เดือน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในช่วงแรกของการลงทุน
ธุรกิจแฟรนไชส์เสี่ยงต่ำ
นายสุรัตน์ กล่าวอีกว่าธนาคารยังได้ทำการตลาดเชิงรุก ด้วยการจับคู่ลูกค้าของธนาคาร ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มีเงินลงทุนพร้อม แต่ยังไม่มีประสบการณ์หรือความรู้ในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่สนใจลงทุนสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยธนาคารจะเป็นตัวกลางในการหาลูกค้าที่มีศักยภาพให้มีโอกาสมาเจอกับไมเนอร์ฟู้ดกรุ๊ป
นอกจากนี้ธนาคารจะร่วมกับพันธมิตรที่เป็นเจ้าของที่ดิน(Landlord) ในการหาทำเลเช่าเปิดร้านที่เหมาะสมให้กับผู้สนใจลงทุนกับไมเนอร์ฟู้ดกรุ๊ปอีกด้วย
จากการทำงานกับกลุ่มเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ พบว่าธุรกิจที่เริ่มต้นตั้งแต่สร้างแบรนด์ใหม่ มักจะหาสินเชื่อได้ลำบาก จากภาวะการแข่งขันสูง จึงมองว่าการลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี
“การลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภค ทำให้มีความเสี่ยงด้านการลงทุนต่ำ ปัจจุบันสินพอร์ตสินเชื่อแฟรนไชส์ของธนาคารแทบไม่มีหนี้เสียเลย”
ไมเนอร์ฯชี้แฟรนไชส์คืนทุน 5 ปี
นางกัญญา เรืองประทีปแสง ประธานฝ่ายการเงิน บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปัจจุบันมีร้านแฟรนไชส์ทั้ง 3 แบรนด์ รวม 458 สาขา โดยแต่ละแบรนด์ลงทุนต่อสาขาแตกต่างกัน คือ ร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ลงทุน 10 ล้านบาท, สเวนเซ่นส์ ลงทุน 7-8 ล้านบาท และแดรี่ควีน ลงทุน 2-3 ล้านบาท ซึ่งสามารถคืนทุนได้ภายใน 5 ปี
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ทั้ง 3 แบรนด์ กำหนดคุณสมบัติประกอบด้วย 1.มีเงินคงเหลือในบัญชีเพียงพอ 2.มีที่พักอาศัยอยู่ภายในพื้นที่ประกอบกิจการ 3.ดำเนินธุรกิจด้วยตนเอง 4.ไม่ประกอบธุรกิจร้านอาหารอื่น ๆ ยกเว้นเป็นผู้ประกอบการเดิมของไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป 5.มีความเข้าใจในตลาดและกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ 6.มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานสำคัญ ๆ ในพื้นที่
ปีนี้ร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ตั้งเป้าเปิดสาขาให้ได้ 100 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นธุรกิจแฟรนไชส์จำนวน 50 สาขา ส่วนสเวนเซ่นส์ เน้นกลยุทธ์สร้างแบรนด์ผ่านรูปแบบร้านที่ทันสมัย ด้วยการปรับปรุงร้านเดิม เน้นเพิ่มจำนวนลูกค้าและเพิ่มความถี่ สำหรับแดรี่ควีน มีกลยุทธ์หลักคือสร้างความแข็งแกร่งในฐานธุรกิจลูกค้ากลุ่มเดิมด้วยสินค้าใหม การขยายธุรกิจไปยังช่องทางใหม่ๆ ที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์