Business

กระฉูด!! ที่ดิน ‘เพลินจิต​-วิทยุ​’ ทะลุล้าน/ตร.วา​ ตามราคาประเมินใหม่

ราคาประเมินที่ดินใหม่เพื่อประกาศใช้ในรอบบัญชีวันที่​ 1​ มกราคม ​2563  ถึง​ 31​ ธันวาคม​ 2564 จำน​วน​ 32​ ล้านแปลงทั่วประเทศ​ พบว่าราคาที่ดินย่านเพลินจิตสูงสุด​ โดยอยู่ที่ 1 ล้านบาท/ตารางวา จากเดิม 900,000 บาท/ตารางวา ซึ่งปรับเพิ่มขึ้น 11.11% และ ถนนวิทยุจากเดิม 500,000 -750,000 บาท ขยับเป็น 1 ล้านบาท/ตารางวา ซึ่งมีการปรับเพิ่มขึ้นถึง 33.33-100%

การประเมินที่ดินรอบใหม่ครั้งนี้​ ถือเป็นการปรับในรอบ 2 ปี เร็วขึ้นจากเดิมซึ่งจะปรับปรุงทุก 4 ปี เพื่อให้สอดรับกับการบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ วันที่ 1 มกราคม 2563 พบว่า โดยรวมราคาประเมินทั้งประเทศจะมีการปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-15%

สาเหตุที่ย่านเพลินจิต​ และวิทยุ​ มีการปรับรคาที่ดินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง​ เป็นผลมาจากการเปลี่ยนมือการถือครองที่ดินแปลงงามหลายแปลง​ เช่น บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ​ BDMS เข้าซื้อที่ดิน 15 ไร่และสิ่งปลูกสร้างของสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ และอาคารสำนักงาน Promenade บนถนนวิทยุด้วยมูลค่าสูงถึง 10,800 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นโครงการศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร BDMS Wellness Clinic ทำให้ทำเลเพลินจิต – วิทยุ – ชิดลม มีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีกในอนาคต

Central Embassy 2

นอกจากนี้ ยังมีการซื้อขายที่ดินสถานทูตอังกฤษบนเนื้อที่ 25 ไร่ คิดเป็นตารางวาละ 1.86 ล้านบาท ให้กับเซ็นทรัล กรุ๊ป ที่ร่วมทุนกับ ฮ่องกง แลนด์ 1.86 หมื่นล้านบาท ที่เตรียมที่จะพัฒนาเป็นพื้นที่ค้าปลีกเกรดเอ และ อาคารสำนักงานพรีเมี่ยมให้เช่า บนพื้นที่รวมกว่า 440,000 ตร.ม. คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2568 ซึ่งนับเป็นดีลที่มีมูลค่าการซื้อขายที่ดินที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

อีกดีลที่ดันราคาที่ดินย่านเพลินจิต​ -วิทยุ​ -ชิดลม​ คือ​ ดีลที่บมจ. เอสซี แอสเสท เข้าซื้อที่ดินขนาด 2.5 ไร่ ในซอยหลังสวน บนถนนชิดลม ตรงข้ามโรงเรียนมาแตร์เดอี ราคาไร่ละ 1,240 ล้านบาท หรือตกตารางวาละ 3.1 ล้านบาท เป็นเงินทั้งสิ้นราว 2,728 ล้านบาท ยิ่งเป็นการพลักดันราคาให้ราคาที่ดินในทำเลย่านนี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก​รวมถึงการผุดโครงการ โนเบิล เพลินจิต ของ บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์​ที่มูลค่าโครงการขยับขึ้นมาเป็น 1.8 หมื่นล้านบาท จากเดิมในช่วงเปิดโครงการมูลค่าโครงการเพียงแค่ 1.4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

ที่ดิน

นอกจากราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ของที่ดินย่านนี้จะมีการปรับเพิ่มขึ้นเป็นตารางวาละ 1 ล้านบาทแล้ว โครงการ 98 ไวร์เลส ที่พัฒนาโดย บมจ.แสนสิริ มูลค่าโครงการประมาณ 8,700 ล้านบาท ที่ทางบมจ.แสนสิริ ซื้อที่ดินบนถนนวิทยุก่อนจะนำมาพัฒนาเป็นโครงการ 98 ไวร์เลส ในราคา 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา ก็ถูกจัดลำดับให้เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่มีราคาประเมินสูงที่สุดของคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเช่นเดียวกัน

ขณะที่อีกเมกะโปรเจคย่านนี้ อย่าง​ หลังสวนวิลเลจ ​โดย บจ. สยามสินธร ที่มีสำนักงานทรัพย์สิน ส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้น 100% เป็นโครงการใหญ่มีมูลค่าโครงการ 5.5 หมื่นล้านบาท บนเนื้อที่ 56 ไร่่ พัฒนาเป็นโครงการ มิกซ์ยูส มีทั้งคอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ และโรงแรมคาดว่า จะพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ปลายปี 2563 และยังมีพื้นที่อีก 14 ไร่ ไว้รอการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต

ปัจจุบัน ทำเลย่านเพลินจิตและวิทยุแวดล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานเกรด A รวมพื้นที่กว่า 279,986 ตารางเมตร และจะมีโครงการอาคารสำนักงานเกรด A ขนาดใหญ่ โครงการ ONE CITY CENTER ซึ่งพัฒนาโดย บมจ. ไรมอนด์แลนด์ มูลค่าโครงการประมาณ 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโครงการ Mixed-Use ตั้งอยู่บนทำเลย่านถนนเพลินจิต ตรงข้ามศูนย์การค้า Central Embassy โดยมีพื้นที่ขนาด 6 ไร่ และพื้นที่ให้เช่าประมาณ 65,000 ตารางเมตร ที่คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

ที่สำคัญคือ​ ยังมีที่ดินแปลงงามในย่านนี่อีก 2 แปลง คือ ที่ติดติด BTS เพลินจิตขนาด 2-2-62.8 ตารางวา ของตระกูลปราสาททองโอสถ ที่เตรียมจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหรูกว่า 237 ยูนิต และมีที่ดินขนาดใหญ่อีกแปลงตรงข้ามสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ ของทาง บมจ. โนเบิล ดีเวลอปเม้นท์ที่เตรียมที่จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมระดับบนมูลค่าโครงการกว่า 11,000 ล้านบาท และทายาทรุ่น 4 ของกลุ่ม ปาร์คนายเลิศ เตรียมวางแผนพัฒนาพื้นโรงแรม “นายเลิศ ปาร์ค โฮเทลแอนด์เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ” ลงทุนราว 1,500 ล้านบาทไม่รวมที่ดิน

ปัจจัยเหล่านี้ล้วน เป็นแรงผลักดันให้เพลินจิตและวิทยุ ยิ่งเป็นทำเลที่มีราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นตารางวาละ 1 ล้านบาท ส่งผลให้เป็นน่าจับตามองและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้ เป็นทำเลศักยภาพที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ความสนใจเข้ามาพัฒนาโครงการในพื้นที่เพื่อเพิ่มศักยภาพในบริเวณย่านนี้อีกเป็นจำนวนมากในอนาคต

Avatar photo