Business

‘PSP’ จับมือ ‘อีโคแอตลาส-อิวอนิค’ ร่วมพัฒนาสารหล่อเย็น ป้อนดาต้าเซ็นเตอร์

โดย WANPEN PUTTANONT 23 พฤษภาคม 2568

PSP ลงนาม MOU อีโค แอตลาส และ อิวอนิค ร่วมพัฒนาสารหล่อเย็นแบบจุ่มสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ต่อยอดนโยบายธุรกิจยั่งยืน

บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) (PSP) ผู้นำด้านโซลูชันผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ บริษัท เซินเจิ้น อีโค แอตลาส เทคโนโลยี จำกัด หรือ Eco Atlas ผู้ให้บริการโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์ครบวงจร และ บริษัท อิวอนิค สเปเชียลตี้ส์ เคมิคอลส์ (เซี่ยงไฮ้) จำกัด หรือ Evonik ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เคมีชั้นนำระดับโลก

การลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เพื่อร่วมวิจัยและพัฒนาสารหล่อเย็นแบบจุ่ม (Immersion Coolants) นวัตกรรมเทคโนโลยีระบายความร้อนสำหรับศูนย์ข้อมูล (Data Center) แห่งอนาคต ตอกย้ำเดินหน้าเติบโตบนเส้นทางธุรกิจยั่งยืน

นายเสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP เปิดเผยว่า หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่บริษัทฯ มุ่งมั่นและตั้งใจขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม คือการทรานสฟอร์มการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนในทุกมิติไปพร้อม ๆ กับการเติบโตของธุรกิจหลัก และธุรกิจของบริษัทในกลุ่ม PSP ซึ่งรวมถึงธุรกิจที่ต้องใช้สารหล่อเย็นในการประกอบธุรกิจ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน และดาต้าเซ็นเตอร์

ทาง PSP จึงมองเห็นโอกาสในการพัฒนาสารหล่อเย็น หรือ Coolants ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในการวิจัย พัฒนา และผลิต เพื่อให้ได้สารหล่อเย็นที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การร่วมมือครั้งสำคัญนี้ เกิดจากวิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสามบริษัท ที่ต้องการผลักดันให้เกิดเทคโนโลยีระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสารหล่อเย็นแบบจุ่มถือเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูล เนื่องจากสามารถทดแทนระบบระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิม ช่วยลดการใช้พลังงานและลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่นวัตกรรมดังกล่าว สอดคล้องกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG (Environmental, Social, and Governance) และเป้าหมาย Carbon Neutrality ที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกในหลายอุตสาหกรรมต่างกำลังให้ความสำคัญ

สำหรับประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของผู้เล่นระดับโลกที่ต้องการตั้งไทยเป็นศูนย์กลาง Data Center ในภูมิภาค โดยใน 3 ปีที่ผ่านมา ขนาดธุรกิจ Data Center ของไทยเติบโตมากกว่า 50% โดยในปี 2567 มีโครงการ Data Center ที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจาก BOI แล้วถึง 37 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนมหาศาลกว่า 98,539 ล้านบาท

การที่มีบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกเข้ามาลงทุนในไทยอย่างมากมาย สะท้อนถึงศักยภาพและพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีของประเทศไทย

นายโจว จื้อหยง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว บริษัท เซินเจิ้น อีโค แอตลาส เทคโนโลยี จำกัด (Eco Atlas) กล่าวว่า เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านอย่าง PSP และ Evonik ในการร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีสารหล่อเย็นแบบจุ่ม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพของดาต้าเซ็นเตอร์และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้พร้อมรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของข้อมูลในยุคดิจิทัล

ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันเทคโนโลยีที่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และส่งเสริมเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่องค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ

ด้าน ดร. มาริโอ โกเมซ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์บริหารจัดการความร้อนระดับโลก บริษัท อิวอนิค สเปเชียลตี้ส์ เคมิคอลส์ (เซี่ยงไฮ้) จำกัด (Evonik) กล่าวว่า การร่วมมือกับพันธมิตรเช่น PSP และ Eco Atlas ช่วยเปิดโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาดโลกอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือข้ามภาคส่วนเพื่อความยั่งยืนและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะมีบทบาทสำคัญต่ออนาคตของการจัดการความร้อนในภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล

การลงนาม MOU ครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ PSP ในการขยายขอบเขตนวัตกรรม และยกระดับโซลูชันด้วยสารหล่อเย็นให้ตอบโจทย์เทคโนโลยีในโลกอนาคต พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนเวทีโลก

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสามองค์กร กล่าวคือ PSP จะนำความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาน้ำมันหล่อลื่นและของเหลวเฉพาะทาง Eco Atlas จะสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและแนวทางการประยุกต์ใช้งานในศูนย์ข้อมูล ขณะที่ Evonik จะเสริมด้วยความรู้เชิงลึกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เคมีชั้นสูง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่