ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยสถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ 5 จังหวัด ครึ่งหลังปี 2567 พบชะลอตัวทุกจังหวัด มาตรการกระตุ้นยังไม่เห็นผล
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานสถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ ที่ยังอยู่ระหว่างขายในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ของจังหวัดภาคเหนือ 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดลำพูน
จากผลสำรวจพบว่า สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ ที่ยังอยู่ระหว่างขายประเภทโครงการบ้านจัดสรรภาพรวมยังคงชะลอตัวในทุกจังหวัด โดยมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยในระดับราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาท ยังไม่สามารถกระตุ้นการซื้อขายที่อยู่อาศัยในภาคเหนือได้
ขณะที่ความต้องการซื้อตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ ของคนต่างชาติ เป็นส่วนในการกระตุ้นการซื้อขายอาคารชุดในจังหวัดเชียงใหม่ได้เพียงจังหวัดเดียวเท่านั้น ส่งผลให้มีที่อยู่อาศัยพร้อมขายจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 2.6% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 6.5% จำนวนหน่วยขายได้ใหม่ลดลง
17.6% ส่งผลให้จำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายในพื้นที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 4.5%
จากการสำรวจโครงการตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ 5 จังหวัด ซึ่ง REIC ดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2557 – ปัจจุบัน พบว่าสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ ในช่วงครึ่งหลัง ปี 2567 โดยภาพรวมมีที่อยู่อาศัยพร้อมขายสะสมจำนวนทั้งสิ้น 17,464 หน่วย จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 2.6% มีมูลค่า 7.32 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5%
ทั้งนี้ แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 15,379 หน่วย เพิ่มขึ้น 1.7% มูลค่า 66,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% และโครงการอาคารชุดจำนวน 2,085 หน่วย เพิ่มขึ้น 9.9% มูลค่า 6,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.4% แบ่งเป็นแต่ละจังหวัดดังนี้
- ที่อยู่อาศัยเสนอขายในจังหวัดเชียงใหม่ สัดส่วน 58.7% จำนวน 10,250 หน่วย มูลค่ารวม 45,971 ล้านบาท
- ที่อยู่อาศัยเสนอขายในจังหวัดเชียงราย สัดส่วน 15.6% จำนวน 2,724 หน่วย มูลค่า 10,700 ล้านบาท
- ที่อยู่อาศัยเสนอขายในจังหวัดพิษณุโลก สัดส่วน 15.1% จำนวน 2,629 หน่วย มูลค่า 10,101 ล้านบาท
- ที่อยู่อาศัยเสนอขายในจังหวัดนครสวรรค์ สัดส่วน 7.4% จำนวน 1,300 หน่วยมูลค่า 4,916 ล้านบาท
- ที่อยู่อาศัยเสนอขายในจังหวัดลำพูน สัดส่วน 3.2% จำนวน 561 หน่วย มูลค่า 1,512 ล้านบาท
โครงการที่เปิดขายใหม่ ใน 5 จังหวัดภาคเหนือ ช่วงครึ่งหลังปี 2567 มีจำนวน 1,955 หน่วย เพิ่มขึ้น 35.6% มูลค่า 9,608 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.5% ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 1,763 หน่วยเพิ่มขึ้น 88.2% มูลค่า 9,115 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99.6% โครงการอาคารชุดจำนวน 192 ลดลง 62% มูลค่า 493 ล้านบาท ลดลง 65.3%
ยอดที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ ในภาพรวม 5 จังหวัดภาคเหนือ ช่วงครึ่งหลังปี 2567 จำนวน 1,205 หน่วย ลดลง 17.6% มูลค่า 4,521 ล้านบาท ลดลง 17.9% แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 930 หน่วย และโครงการอาคารชุดจำนวน 275 หน่วย
สรุปตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ เหลือขายใน 5 จังหวัดภาคเหนือมีจำนวนทั้งสิ้น 16,259 หน่วย เพิ่มขึ้น 4.5% มูลค่า 68,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 14,449 หน่วย เพิ่มขึ้น 4.2% มูลค่า 62,999 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% ขณะที่โครงการอาคารชุดจำนวน 1,810 หน่วย เพิ่มขึ้น 7.1% มูลค่า 5,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%
ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่
ในครึ่งหลังปี 2567 มีที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งสิ้น 10,250 หน่วย ลดลง 3.7% มูลค่ารวม 45,971 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% โดยมีจำนวนหน่วยเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 8,299 หน่วย ลดลง 6.2% มูลค่า 39,721 ล้านบาท ลดลง 1.2% เป็นโครงการอาคารชุดจำนวน 1,951 หน่วย เพิ่มขึ้น 8.4% มูลค่า 6,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
โครงการเปิดตัวใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,336 หน่วย เพิ่มขึ้น 17.5% มูลค่ารวม 6,399 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.1% ซึ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 1,144 หน่วย เพิ่มขึ้น 81% มูลค่าโครงการรวม 5,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.3% และเป็นโครงการอาคารชุดจำนวน 192 หน่วย ลดลง 62% มูลค่ารวม 493 ล้านบาท ลดลง 65.3% มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จำนวนทั้งสิ้น 767 หน่วย ลดลง 15.2% มูลค่ารวม 3,024 ล้านบาท ลดลง 16.3% เป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 503 หน่วย ลดลง 27.9% มูลค่า 2,230 ล้านบาท ลดลง 26.3% เป็นโครงการอาคารชุดจำนวน 264 หน่วย เพิ่มขึ้น 28.2% มูลค่า 794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.4%
ทำเลที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก
อันดับ 1 โซนสันทราย จำนวน 231 หน่วย มูลค่า 830 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนในเมืองเชียงใหม่ จำนวน 95 หน่วย มูลค่า 315 ล้านบาท
อันดับ 3 โซน มหาวิทยาลัยพายัพ จำนวน 69 หน่วย มูลค่า 321 ล้านบาท
อันดับ 4 โซนหางดง จำนวน 57 หน่วย มูลค่า 313 ล้านบาท
อันดับ 5 โซนสันกำแพง จำนวน 49 หน่วย มูลค่า 182 ล้านบาท
ทำเลที่อยู่อาศัยเหลือขายสูงสุด 5 อันดับแรก
อันดับ 1 โซนสันทราย จำนวน 2,350 หน่วย มูลค่า 9,547 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนหางดง จำนวน 1,002 หน่วย มูลค่า 5,099 ล้านบาท
อันดับ 3 มหาวิทยาลัยพายัพ จำนวน 925 หน่วย มูลค่า 4,564 ล้านบาท
อันดับ 4 โซนสารภี จำนวน 879 หน่วย มูลค่า 4,046 ล้านบาท
อันดับ 5 โซนบ่อสร้าง-ดอยสะเก็ด จำนวน 876 หน่วย มูลค่า 3,924 ล้านบาท
ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดเชียงราย
ในช่วงครึ่งหลังปี 2567 พบว่า มีจำนวนที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งสิ้น 2,724 หน่วย ลดลง 10.5% มูลค่า 10,700 ล้านบาท ลดลง 11% เป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 2,724 หน่วย มูลค่า 10,700 ล้านบาท โดยไม่มีการเปิดขายโครงการอาคารชุด ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการที่เปิดขายใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจำนวน 38 หน่วยลดลง 66.7% มูลค่า 69 ล้านบาท ลดลง 82.9%
สำหรับหน่วยขายได้ใหม่พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 130 หน่วย ลดลง 41.4% มูลค่า 455 ล้านบาท ลดลง 43.1% ส่งผลให้มีที่อยู่อาศัยเหลือขายในพื้นที่จังหวัดเชียงรายจำนวนถึง 2,594 หน่วย ลดลง 8.1% มูลค่า 10,245 ล้านบาท ลดลง 8.8%
ทำเลที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุด 3 ทำเล
อันดับ 1 โซนสนามบิน-มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จำนวน 65 หน่วย มูลค่า 202 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนในเมืองเชียงราย จำนวน 63 หน่วย มูลค่า 245 ล้านบาท
อันดับ 3 โซนแม่สาย จำนวน 2 หน่วย มูลค่า 8 ล้านบาท
ทำเลที่อยู่อาศัยเหลือขายสูงสุด 3 ทำเล
อันดับ 1 โซนในเมืองเชียงราย จำนวน 1,351 หน่วย มูลค่า 5,844 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนสนามบิน-มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จำนวน 1,100 หน่วย มูลค่า 3,915 ล้านบาท
อันดับ 3 โซนแม่สาย จำนวน 143 หน่วย มูลค่า 486 ล้านบาท
ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดพิษณุโลก
ตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ จังหวัดพิษณุโลกภาพรวมพบว่า มีโครงที่อยู่อาศัยเสนอขาย โดยในช่วงครึ่งหลังที่ผ่านมามีจำนวนที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งสิ้น 2,629 หน่วย เพิ่มขึ้น 11.8% มูลค่ารวม 10,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.2% ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 2,545 หน่วย เพิ่มขึ้น 12.7% มูลค่า 9,993 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.8% โครงการอาคารชุดจำนวน 84 หน่วย ลดลง 8.7% มูลค่า 108 ล้านบาท ลดลง 12.4% โดยมีโครงการเปิดตัวใหม่จำนวน 388 หน่วย เพิ่มขึ้น 205.5% มูลค่ารวม 2,665 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 343.8% ซึ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมด
ส่วนจำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 117 หน่วย ลดลง 33.1% มูลค่ารวม 402 ล้านบาท ลดลง 30.9% เป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 106 หน่วย ลดลง 39.1% มูลค่า 389 ล้านบาท ลดลง 33% เป็นโครงการอาคารชุดจำนวน 11 หน่วย เพิ่มขึ้น 1,000% มูลค่า 13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 914.4% มีหน่วยเหลือขาย 2,512 หน่วย เพิ่มขึ้น 15.4% มูลค่ารวม 9,699 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.9% เป็นโครงการบ้านจัดสรร 2,439 หน่วย เพิ่มขึ้น 17% มูลค่า 9,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.8% และโครงการอาคารชุด 73 หน่วย ลดลง
19.8% มูลค่า 95 ล้านบาท ลดลง 22.2%
ทำเลที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก
อันดับ 1 โซนพลายชุมพล จำนวน 26 หน่วย มูลค่า 76 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนหัวรอ จำนวน 25 หน่วย มูลค่า 94 ล้านบาท
อันดับ 3 โซนมหาวิทยาลัยนเรศวร-ท่าทอง จำนวน 18 หน่วย มูลค่า 97 ล้านบาท
ทำเลที่อยู่อาศัยเหลือขายสูงสุด 3 อันดับแรก
อันดับ 1 โซนมหาวิทยาลัยนเรศวร-ท่าทอง จำนวน 613 หน่วย มูลค่า 3,618 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนหัวรอ จำนวน 492 หน่วย มูลค่า 1,966 ล้านบาท
อันดับ 3 บึงพระ จำนวน 318 หน่วย มูลค่า 623 ล้านบาท
ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดนครสวรรค์
มีหน่วยเสนอขายทั้งสิ้น 1,300 หน่วย เพิ่มขึ้น 147.6% มูลค่า 4,916 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150.1% เป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 1,250 หน่วย เพิ่มขึ้น 138.1% มูลค่า 4,788 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143.5% เป็นโครงการอาคารชุด 50 หน่วย เพิ่มขึ้น 31.6% มูลค่า 129 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107.9% โดยเป็นโครงการขายได้ใหม่ในครึ่งหลังปี 2567 จำนวน 16 หน่วย ลดลง 63.6% มูลค่า 30 ล้านบาท ลดลง 76.6% ทั้งหมดเป็นโครงการบ้านจัดสรร และมีหน่วยเหลือขายจำนวนทั้งสิ้น 1,196 หน่วย เพิ่มขึ้น 168.2% มูลค่า 4,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 169.8% แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 1,146 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 157% มูลค่า 4,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162.1% เป็นโครงการอาคารชุดจำนวน 50 หน่วย เพิ่มขึ้น 51.5% มูลค่า 129 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.4%
ทำเลที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก
อันดับ 1 โซนดรีมแลนด์ จำนวน 46 หน่วย มูลค่า 248 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนท่าทอง จำนวน 36 หน่วย มูลค่า 96 ล้านบาท
อันดับ 3 โซนตะเคียนเลื่อน จำนวน 10 หน่วย มูลค่า 31 ล้านบาท
ทำเลที่อยู่อาศัยเหลือขายสูงสุด 3 อันดับแรก
อันดับ 1 โซนดรีมแลนด์ จำนวน 443 หน่วย มูลค่า 2,171 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนท่าทอง จำนวน 358 หน่วย มูลค่า 1,119 ล้านบาท
อันดับ 3 โซนตะเคียนเลื่อน จำนวน 229 หน่วย มูลค่า 733 ล้านบาท
ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดลำพูน
ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ ในจังหวัดลำพูนพบว่า โดยมีหน่วยเสนอขายทั้งสิ้น 561 หน่วย เพิ่มขึ้น 22.8% มูลค่า 1,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.4% เป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 561 หน่วย เพิ่มขึ้น 22.8% ไม่พบโครงการอาคารชุด โดยเป็นโครงการเปิดขายใหม่ในครึ่งหลังปี 2567 จำนวน 177 หน่วย เพิ่มขึ้น 785% มูลค่า 445 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 916.2% ทั้งหมดเป็นโครงการบ้านจัดสรร มีโครงการขายได้ใหม่จำนวน 87 หน่วย เพิ่มขึ้น 6.1% มูลค่า230 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% และมีหน่วยเหลือขายจำนวนทั้งสิ้น 474 หน่วย เพิ่มขึ้น 26.4% มูลค่า 1,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.8% ทั้งหมดเป็นโครงการบ้านจัดสรร
ทำเลที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก
อันดับ 1 โซนสหพัฒน์ จำนวน 40 หน่วย มูลค่า 114 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนนิคมฯ ลำพูน-บ้านม้า จำนวน 29 หน่วย มูลค่า 70 ล้านบาท
อันดับ 3 โซนโรงพยาบาลลำพูน จำนวน 18 หน่วย มูลค่า 45 ล้านบาท
ทำเลที่มีที่อยู่อาศัยเหลือขายสูงสุด 3 อันดับแรก
อันดับ 1 โซนสหพัฒน์ จำนวน 290 หน่วย มูลค่า 817 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนโรงพยาบาลลำพูน จำนวน 103 หน่วย มูลค่า 270 ล้านบาท
อันดับ 3 โซนนิคมฯ ลำพูน-บ้านม้า จำนวน 81 หน่วย มูลค่า 194 ล้านบาท
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปลดล็อคเกณฑ์ LTV ตัวช่วยพยุงตลาดอสังหาฯ ไทย ระบายสต็อก 2.34 แสนยูนิต
- หวั่นปีนี้ ตลาดอสังหาฯ ทรุดกว่าที่คิด เปิดโครงการใหม่ ม.ค.แค่ 11 โครงการ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จับตามาตรการ LTV กระตุ้นตลาดอสังหาฯ ฟื้นสินเชื่อบ้าน
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg