“กอบศักดิ์” บอกอยากให้ทุกคนจำชื่อนี้ไว้ “Scott Bessent” รัฐมนตรีคลังสหรัฐ
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความว่า โชคดีที่ President Trump มี Bessent !!!
อยากให้ทุกคนจำชื่อนี้ไว้ Scott Bessent รัฐมนตรีคลังสหรัฐ
เมื่อ 1 สัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐ เผชิญปัญหาตลาดทุน ครั้งสำคัญ ทั้งในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ ที่ดัชนีต่างๆ ลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างน่าใจหาย ทั้งโลก
โดยในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 3 วัน หลังจากการประกาศ Reciprocal Tariffs เมื่อเย็นวันที่ 2 เมษายน Dow Jones ลดลงจาก 42,225 เหลือ 37,223 หรือ -11.8%
Nasdaq ลดลงจาก 17,604 เหลือ 15,267 หรือ -13.3% ระหว่างวัน เหมือนโดนพายุ แกว่งไปมา ขึ้นลงอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ จากการตอบโต้ไปมาของจีนและสหรัฐ
รัฐมนตรีคลังสหรัฐ คนสำคัญ
แต่เมื่อลดลงมาถึงระดับหนึ่ง สถานการณ์ของตลาดหลักทรัพย์ก็เริ่มนิ่งขึ้นจากที่เหวี่ยงไปมาได้ถึง 1,000-2,000 จุด เหลือตกเพียงวันละ 400-500 จุด
ทำให้ President Trump คงมองว่า “เลือดกำลังหยุดไหล” อดทนอีกเล็กน้อย ก็คงจะผ่านไปได้
จุดเปลี่ยนในตลาดทุนเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 7-8 เมษายน แต่ไม่ใช่ในตลาดหลักทรัพย์ จุดเปราะบางที่ทำให้ President Trump ยอมกดปุ่ม PAUSE 90 DAYS
มาจากตลาดพันธบัตรรัฐบาล ที่ในระยะเวลาสั้นเพียง 2.5 วัน เช้า 7 เมษายน ถึงกลางวัน 9 เมษายน (จุดที่สหรัฐยอมกลับลำ) ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาว 30 ปี เพิ่มขึ้นจาก 4.3267% เป็น 4.9689% หรือ 0.6422% ทำให้ผู้ถือพันธบัตรนี้เสียหายไป -9.1%
ณ จุดนี้ สหรัฐมีเพียง 2 ทางเลือก
(1) ยืนหยัด ดื้อที่จะเดินหน้าต่อไปตามที่ตั้งใจไว้ กับนโยบาย Reciprocal Tariffs ที่เคยแจ้งไว้ว่ารอบนี้จะไม่มี Flexibility จะไม่กลับไปกลับมา แล้วดูว่าตลาดจะทนต่อแรงกระแทก จากการตื่นกลัว Exit ของนักลงทุนไหวไหม
หรือ (2) หาทางออกที่จะ Calm Market ให้นิ่งลง ในเช้าวันดังกล่าว เมื่อเหตุการณ์เริ่มคับขันขึ้น
รัฐมนตรีคลังสหรัฐ จำชื่อนี้ไว้
ข่าวบอกว่า President Trump หารือกลุ่มเล็ก 3 คน กับ รัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick และ รัฐมนตรีคลัง Scott Bessent ก่อนตัดสินใจครั้งใหญ่ในเรื่องนี้
ในการหารือดังกล่าว โชคดีที่สหรัฐมี รัฐมนตรีคลัง ชื่อ Scott Bessent จากประสบการณ์ที่เขาเคยทำงานในตลาดทุนยาวนานกว่า 40 ปี มี Hedge Fund ของตนเองชื่อ Key Square Capital Management เคยเป็น Chief Investment Officer ของ Soros Fund Management ร่วมในการโจมตีค่าเงินปอนด์ในปี 1992 กำไรไป 1.5 พันล้านดอลลาร์ ในเวลาสั้น ๆ
เป็น Specialist on Currency and Fixed Income หรือ อัตราแลกเปลี่ยนและตลาดพันธบัตร
มีนักลงทุนชื่อดัง Jim Rogers เป็น Mentor คนแรกในโลกการเงิน ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เขามองออกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดพันธบัตรสหรัฐในระหว่างวันที่ 7-9 เมษายน ไม่ปกติ
สถานการณ์แบบนี้น่ากังวลใจ ถ้าปล่อยไป สามารถลุกลาม เสียหายเป็นวงกว้างได้ เหมือนกรณี Liz Truss ของอังกฤษ จากนโยบายการลดภาษีเกินตัวอย่างไม่รับผิดชอบ ที่ตลาดกังวลใจ ทำให้ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ 30 ปีเพิ่มจาก 3.413% ตั้งแต่รับตำแหน่งเป็น 4.988% ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 20 วัน สุดท้ายรัฐมนตรีคลังต้องลาออก และรัฐบาล Liz Truss ล่ม
กรณีสหรัฐเช่นกัน พันธบัตรถูกนักลงทุนขาย ราคาตกไปแล้ว -9% ใน 2 วันถ้าไม่จัดการแต่เนิ่นๆ ปัญหาจะลุกลาม เอาไม่อยู่ การจะดื้อยืนยันทำต่อ ไม่ใช่คำตอบ ทางออกที่เหมาะสม ก็คือ PAUSE 90 วัน เอาหนามที่ทิ่มแทงตลาดออกไปก่อน เพื่อให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ทั้งหมดนี้ ถ้าไม่ใช่ผู้ที่เข้าใจตลาดอย่างดียิ่ง คงยากที่จะเปลี่ยนใจ President Trump
ภายใต้การส่งเสริมของกลุ่มที่เชื่ออย่างยิ่งเรื่อง Tariffs นับว่าตลาดพันธบัตรสหรัฐ โชคดีที่มี Bessent อยู่ตรงนั้น เมื่อตกลงใจ รัฐมนตรีทั้งสอง นั่งอยู่ ระหว่าง President Trump เขียนเรื่องนี้ลง Truth Social
หลังจากนั้น Bessent รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และโฆษกรัฐบาลสหรัฐ ก็ออกมาให้ข่าวที่สนามหญ้าหน้าทำเนียบขาว ว่า “ที่ทำมาเป็น Successful Negotiating Strategy” เร่งให้ประเทศต่างๆ เข้ามาเจรจากับสหรัฐ
ล่าสุดมีติดต่อมาแล้ว 75 ประเทศ ในช่วงต่อไป อย่าลืมตาม รัฐมนตรีท่านนี้นะครับ จะเป็นคนสำคัญในการกำหนดนโยบายของสหรัฐต่อไป เป็นหัวหอกสำคัญ ในการเจรจาการค้าระหว่าง 90 วันนี้ และเป็นคนสำคัญที่จะ Calm Market ประคับประคอง ดูแลตลาดทุน ตลาดการเงิน ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ให้ผ่านช่วงคับขันนี้ไปได้
ปล : ล่าสุด ตลาดต่างๆ เริ่มนิ่งขึ้น ยกเว้น ค่าเงินสหรัฐลงมาที่ 99.66 สอดรับกับความเห็นของที่ปรึกษาท่านประธานาธิบดี ที่อยากให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อน
สำหรับที่คนกังวลใจว่าจีนจะเร่งขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เพื่อเป็นการตอบโต้รัฐบาลสหรัฐนั้น จากข้อมูลพบว่า รัฐบาลจีนมีอยู่ประมาณ 0.75 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 2.5% ของตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมีขนาดถึง 30 ล้านล้านดอลลาร์ (นอกจากนี้ จะมีพันธบัตรที่ลงทุนจากภาคส่วนต่างๆ ของจีนอีกส่วนหนึ่ง)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สี จิ้นผิง’ เดินทางถึงเวียดนาม เปิดฉากเยือน 3 ชาติอาเซียน ย้ำไร้ผู้ชนะใน ‘สงครามการค้า’
- ยอมถอย! ‘สหรัฐ’ ยกเว้น ‘ภาษีตอบโต้’ 125% ต่อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นำเข้าจากจีน
- เดือดหนัก! จีนฟาดกลับอีกรอบ ขึ้นภาษีนำเข้า 125% ต่อสินค้าสหรัฐ
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X: https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg